ที่มา Thai E-News
โดย ปาแด งา มูกอ
17 พฤษภาคม 2554
วันนี้เป็นวัน วิสาขบูชา เป็น วันคล้ายวันที่ "ประสูติ" ของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาได้ "ตรัสรู้" เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงกอปรไปด้วย "พระบริสุทธิคุณ", "พระปัญญาคุณ" ผู้ซึ่งได้ทรงสั่งสอนประกาศพระสัจธรรม คือความจริงของโลกแก่พหูชนทั้งปวงโดย "พระมหากรุณาธิคุณ" จวบจนทรง "เสด็จดับขันธปรินิพพาน" ในวาระสุดท้าย
ซึ่ง ทั้งสามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องในวันเพ็ญเดือน 6 ทั้งสิ้นนี้ ทำให้พระพุทธศาสนาได้บังเกิดและสืบต่อมาอย่างมั่นคงจนถึงปัจจุบัน
เห็นไทยอีนิวส์เสนอบทความเรื่อง 1ปีพฤษภาประชาภิวัฒน์รำลึก(5):วิสาขบูชา 53 แล้ว รู้สึกใบหน้ามันร้อนผ่าว ดวงตาพร่าพราย น้ำตาจะรินไหล
ปัจจุบัน นี้เราอยู่ที่ไหนกันแน่ เมืองไทยเมืองพุทธหรือเปล่า ผมเริ่มเรียกสติให้กลับคืนมา เพราะมันเริ่มจะมีอาการสติแตกเกิดขึ้น กับคำถามหลายๆคำถามที่หาคำตอบไม่ได้
ภาพที่น่าสังเวชและน่าทุเรศ ที่พระภิกษุสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ถูกบรรดาเหล่าทหารหาญที่โคตรพ่อโคตรแม่เป็นชาวพุทธ รวมถึงตัวมันเอง ตลอดถึงโคตรพ่อโคตรแม่ของนักการเมืองที่เป็นชาวพุทธ ที่ออกมาพูดว่า “นั่นไม่ใช่พระ นั่นมันเพียงคนห่มผ้าเหลืองเท่านั้น ” เข้าทำการจับกุม จับสึก จับขัง ยิ่งเสียกว่านักโทษ
โธ่ เวรกรรม.... โคตรเหง้าศักราชบรรพบุรุษที่เป็นชาวพุทธของพวกคุณมึงทั้งหลาย จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ที่ลูกหลานตัวเองกลายเป็นผีห่าซาตาน สัมภเวสี ไอ้เปรตชิงหมาเกิด กันไปหมด เวร...แท้ๆ ไอ้พวกสัตว์นรก
พระภิกษุ สงฆ์ในสมัยปัจจุบันของรัฐบาลรักษาการชุดนี้ มิใช่ท่านจะ ผจญมาร เฉพาะในเมืองหลวงของประเทศไทยเท่านั้น ทางสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษา ท่านก็ต้องผจญมาร เหมือนกับทางเมืองหลวงเช่นกัน
แต่ เป็นการผจญมารอีกมิติหนึ่ง มิติที่เหล่าทหารหาญ และตำรวจให้ความคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยให้กับพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งถือว่าเป็นมิติที่ดีของผู้ที่เป็นชาวพุทธอย่างแท้จริงของเหล่าทหารหาญ และตำรวจในพื้นที่ชายแดนใต้ ขออนุโมทนา สาธุ
แต่... มิติที่ดีหรือแผนการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี ในการรับผิดชอบและเสียสละของเหล่าทหารและตำรวจทุกท่าน มันกลับกลายเป็น มาร ที่มาผจญกับพระภิกษุสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทำไมหรือ ครับ
ก็ เพราะ มาร (ผู้ก่อการร้าย) มันมีเป้าประสงค์ต่อชีวิตของทหารและตำรวจเท่านั้น ดังนั้นการที่ทหารและตำรวจที่ให้การดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพระภิกษุสงฆ์ จึงเท่ากับว่า ทหารและตำรวจได้นำพระภิกษุสงฆ์ไปผจญกับ มาร (ผู้ก่อการร้าย) โดยไม่รู้ตัวและไม่คาดคิด
มันจึงนำไปสู่เหตุการณ์ อันเศร้าสลดของชาวไทยพุทธ ที่พระภิกษุสงฆ์จะต้องมามรณภาพลง ด้วยการคุ้มครองของทหารและตำรวจที่เป็นเป้าสังหารตัวจริง ของ มาร (ผู้ก่อการร้าย)
ปัญหานี้ห้ามโทษทหารตำรวจชั้นผู้น้อยที่ปฏิบัติงาน ในหน้าที่นี้อย่างเด็ดขาด แต่ต้องโทษรัฐบาล และแผนงานห่วยๆของผู้บังคับบัญชา ที่คิดแผนปฏิบัติงานแผนนี้
วัน หน้าก็ลองให้บรรดาแม่ทัพนายกอง บรรดาเสธ.ฝีมือมือดีทั้งหลาย มาเดินถือปิ่นโต ติดตามอารักขาพระภิกษุสงฆ์ออกบิณฑบาตดูบ้าง ว่าไอ้ มาร ที่ว่า มันจะยิงใคร มันจะระเบิดใส่ใคร ระหว่างผู้อารักขาและพระภิกษุ พิสูจน์ง่ายๆไม่เชื่อลองปฏิบัติดูได้
เกือบลืมไปครับ ก่อนวันวิสาขบูชา ชาวไทยพุทธในจังหวัดยะลา แทนที่กำลังจะจัดของเตรียมเครื่องคาวหวาน ผลหมากรากไม้ ดอกไม้ธูปเทียน ในการทำบุญวันวิสาขบูชา ก็มาพบกับเรื่องเศร้าสลดที่พระภิกษุสงฆ์ 2 รูปได้มรณภาพด้วยแรงระเบิดของกลุ่ม มาร ผู้ก่อการร้าย ขณะนั่งมากับรถของทหารชุดคุ้มครองพระเพื่อมาบิณฑบาต
เศร้าสลดมากครับ
รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ชี้ ระเบิดพระเป็นการทำลายความเชื่อถือฝ่ายความมั่นคง
วัน ที่ 16 พฤษภาคม 2554 , พลตรีอัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า/โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามก่อเหตุทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์เพื่อต้องการตอบโต้ เจ้าหน้าที่ ทำให้ดูเหมือนสถานการณ์ในพื้นที่รุนแรงขึ้น และส่วนหนึ่งเพื่อต้องการทำลายความเชื่อมั่นของฝ่ายความมั่นคง เนื่องจากการปฏิบัติการทางทหารที่กดดันผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ผ่านมา มีการจำกัดเสรีและจำกัดพื้นที่ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ผลมากขึ้น
นอก จากนี้ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายต่อการกระทำที่รุนแรง ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ จึงได้ออกมาต่อต้าน และให้ความร่วมมือในการแจ้งข่าวสาร และเบาะแสกับภาครัฐมากขึ้น จึงขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่เข้าใจ และมองเห็นถึงความตั้งใจจริง ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างดี
อย่าง ไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังออกติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุ เพื่อจับกุมและนำเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป
ท่านผู้อ่านช่วยกรุณาวิพากษ์วิจารณ์แทนผมทีเถอะครับ ผมกำลังจะอ้วกอีกแล้วครับ