ที่มา ประชาไท
"สุ เทพ" เชื่อ "อภิสิทธิ์" ได้เปรียบกว่า "ยิ่งลักษณ์" มาก เพราะได้แสดงความเป็นผู้นำแก้ปัญหาประเทศ รักษาบ้านเมืองให้รอดพ้นมาได้ "ยิ่งลักษณ์" เป็นนายกฯ คงทำงานยากเพราะต้องคอยฟังเสียงโทรศัพท์ทางไกล ส่วน "พันธมิตรฯ" ชี้การโหวตโน คือการทำบุญให้แก่ประเทศ โดยปล่อยให้คนชั่วมาปกครองบ้านเมือง
"ยิ่งลักษณ์" นั่งเบอร์ 1 ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย ลั่นไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไขปัญหา
เมื่อ วานนี้ (16 พ.ค.) ที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยได้ลงมติเอกฉันท์เลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของพรรคเพื่อไทย ภายหลังที่นายวิทยา บุรณศิริ อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เสนอชื่อเพียงผู้เดียว
น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ ได้ยืนยันความพร้อมในการทำหน้าที่ และชูนโยบายความสามัคคี ปรองดอง และเน้นสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง โดยไม่คิดจะแก้แค้น แต่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และระบุว่าไม่รู้สึกหวั่นไหวกับการโจมตีเรื่องส่วนตัวทางการเมือง พร้อมรับการพิสูจน์ต่อสาธารณะภายใต้กติกาที่เป็นธรรม ส่วนการชูนโยบายนิรโทษกรรมและนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศนั้นเห็นว่าเป็นเรื่องที่เร็วเกินไป เพราะสิ่งแรกที่ควรทำคือการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ (ข่าวที่เกี่ยวข้อง)
"สุเทพ" ชี้ "ยิ่งลักษณ์" เป็นนายกฯ คงทำงานยาก เพราะต้องคอยฟังเสียงจากโทรศัพท์ทางไกล
เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกฯ ว่า เวลาจะพูดถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องพูดด้วยความระมัดระวังเพราะเป็นสุภาพสตรี แต่ขอบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ขอต้อนรับในฐานะเป็นผู้นำของพรรคการเมือง คู่แข่งขัน และให้ความนับถือจะปฏิบัติต่อเธอในฐานะที่เป็นคู่แข่งขันคนหนึ่ง เขาเชื่อว่าประชาชนไม่ได้พิจารณาที่ความเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่จะพิจารณาว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสมในภาวะบ้านเมืองขณะนี้ ถ้าตรงนี้คิดว่า นายอภิสิทธิ์ได้เปรียบมาก และพรรคประชาธิปัตย์ได้ 10 คะแนนเต็ม เพราะนายอภิสิทธิ์ได้แสดงฝีมือ ความเป็นผู้นำในการเป็นนายกฯแก้ปัญหาของประเทศในช่วงวิกฤตของประเทศ รักษาบ้านเมืองรอดพ้นมาได้ 2 ปีกว่า
"ส่วนคุณยิ่งลักษณ์ ประชาชนคงหลับตาแล้วนึกไม่ค่อยออกว่า ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วจะแก้ปัญหาประเทศอย่างไร หรือต้องทำงานไปคอยฟังเสียงโทรศัพท์ทางไกลตลอดเวลาว่าจะวิพากษ์ว่าอย่างไร มันก็เหมือนหนังตะลุง ก็เลยทำงานยาก ทำให้เสียเปรียบมาก มีส่วนที่ได้เปรียบอย่างเดียวคือ พรรคนั้นเงินเยอะ มีวิชาเทพ วิชามาร ชำนาญศึก ขนาดถูกยุบพรรคมาแล้ว 2 หนที่เขาจับได้ ยังมีที่จับไม่ได้อีกนะ ที่จับไม่ได้ก็มีเยอะ ถือเป็นความช่ำชองที่ได้เปรียบ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นหัวเลี้ยวหัวที่สำคัญของประเทศ ประชาชนที่เลือกตั้งต้องชั่งใจอย่างหนัก" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ
ส่วน การที่ พ.ต.ท.ทักษิณประเมินว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนน้อยลง เพราะนโยบายพรรค ประชาชนจับต้องไม่ได้นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ขอให้เอาสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดวันนี้แปะติดไว้ข้างฝา ติดไว้คู่กับสิ่งที่เขาพูดไว้เลือกตั้งเสร็จแล้วค่อยมาดูกัน
โฆษกพันธมิตรฯ ชี้เพื่อไทยส่ง "ยิ่งลักษณ์" ชิงนายกฯ เป็นตัวอย่างการเมืองที่ล้มเหลว ต้องโหวตโน
เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ ประเทศคงจะไม่สงบ และมีความวุ่นวายเหมือนเดิม ยกเว้นเงื่อนไข 3 ประการ คือ หนึ่ง การกลับมาของ นช.ทักษิณนั้นจะต้องเคารพในหลักนิติรัฐนิติธรรม ซึ่งกระบวนการยุติธรรมก็ได้สิ้นสุดไปเรียบร้อยแล้ว สอง ต้องหยุดขบวนการทั้งในพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีลักษณะการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข และ สาม ต้องหยุดพฤติกรรมการทุจริตคอร์รัปชัน
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า เมื่อมองอีกมุมหนึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า พรรคการเมืองไม่ได้เป็นสมบัติของประชาชนอย่างแท้จริง แต่กลายเป็นว่าผู้มีอิทธิพลในพรรคสามารถกำหนดชี้ขาดให้ญาติพี่น้องของตัวเอง มาเป็นหัวหน้าพรรคหรือคู่ชิงนายกฯ ได้ นี่คือตัวอย่างของการเมืองที่ล้มเหลว รวมทั้งในฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความพยายามโน้มน้าวว่านักการเมืองไม่ได้ เลวทุกคนนั้น ก็เป็นเพียงคำกล่าวอ้างของนักการเมืองในระบบที่พยายามปกป้องคนในกลุ่มอาชีพ ของตัวเองทั้งสิ้น ไม่ต่างจากการยกมือสนับสนุนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง แม้ว่าบางคนจะถูกชี้มูลโดย ป.ป.ช.ก็ตาม แสดงให้เห็นว่าระบบพรรคการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องนั้น ไม่สามารถที่จะเอื้ออำนวยให้เกิดการปฏิรูประบบคนดีในสภาผู้แทนราษฎรได้ และจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นสาเหตุที่ประชาชนต้องร่วมมือกันรณรงค์กาในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน เพื่อส่งสัญญาณการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่
“การโหวตโน คือการไม่ทำบาปทำร้ายประเทศชาติ และยังถือเป็นการทำบุญให้แก่ประเทศ โดยไม่ส่งเสริมพรรคการเมืองข้างใดข้างหนึ่งที่จะนำเสียงของเราไปแอบอ้างใน การทำร้ายประเทศ หรือปล่อยให้คนชั่วมาปกครองบ้านเมือง” นายปานเทพกล่าว
นอกจากนี้ นายปานเทพยังกล่าวว่า จะมีการไปรณรงค์โหวตโน ในที่สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ด้วย