ที่มา มติชน
โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 20 พฤษภาคม 2554)
เมื่อ ได้เบอร์ คราวนี้ก็ได้ลุยหาเสียงกันอย่างจริงจัง ชาวบ้านจะเริ่มเห็นภาพผู้สมัครเลือกตั้งเดินชูนิ้วกันว่อน โดยพรรคเพื่อไทยได้เปรียบหน่อย ชูแค่นิ้วเดียว แต่ยังไงก็ขอเป็นนิ้วชี้ อย่าเผลอเป็นนิ้วที่ยาวที่สุดในมือแล้วกัน มันไม่สุภาพ
ส่วนคู่แข่งสำคัญคือประชาธิปัตย์ ลำบากที่ต้องยกทั้งสองมือ แบกันสิบนิ้ว
สำหรับพรรคของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ขอเสนอให้ชูไม้บรรทัดแบบ 1 ฟุตหรือ 12 นิ้วไปเลย เป็นโลโก้ประจำตัวอยู่แล้ว
หมายเลขของพรรคและผู้สมัคร มีส่วนสำคัญอยู่บ้างคือทำให้ผู้ใช้สิทธิจำง่ายหรือยาก
แต่ก็ไม่ใช่ส่วนทั้งหมดอันจะนำไปสู่การชนะหรือแพ้
นโยบายของแต่ละพรรค ความน่าเชื่อถือของตัวบุคคล และกระแสนิยมจากประชาชน มีส่วนสำคัญกว่า
ยิ่งพรรคไหนเคยทำอะไรประทับใจประชาชน ก็จะยิ่งรักษาฐานเสียงเอาไว้ได้มาก
พรรคไหนลงมือทำงานแล้วมีแต่ทำให้ประชาชนยากลำบาก อันนี้ย่อมประทับใจไปอีกแบบ
การทำโพลในช่วงที่ผ่านมา จึงสามารถบ่งบอกได้ไม่ยากว่า พรรคไหนแรงที่สุด
แต่ยังมีเวลาในการพลิกคะแนนเสียงอยู่ จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง 3 กรกฎาคมนั่นแหละ
ระหว่าง 40 กว่าวันนี้ แต่ละพรรคคงต้องงัดกลวิธีเพื่อหาคะแนนเสียงกันอย่างเต็มที่
เข้าใจได้ไม่ยากว่า เหตุใดนายกฯอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ จึงเรียกร้อง "เจ๊ปู" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เบอร์ 1 ของเพื่อไทย ให้ขึ้นเวทีดีเบตทุกวี่ทุกวัน
ตะโกนท้าเหยงๆ กันเลยก็ว่าได้
เพราะการพูดจาเป็นกลเม็ดเด็ดสุดในการหาเสียงของประชาธิปัตย์
ยิ่งหัวหน้าพรรคคนนี้ ยิ่งเก่งที่สุดในเรื่องการพูด
แต่ในทางกลับกัน เรื่องเก่งการพูดนี่แหละ จากจุดแข็งได้กลายเป็นจุดตายของประชาธิปัตย์ไปแล้ว
เพราะระยะหลังโดนโจมตีอย่างหนักว่า "ดีแต่พูด"
กระนั้น ก็ตาม ในทันทีที่เพื่อไทยเปิดตัวเบอร์ 1 เป็นยิ่งลักษณ์ ในทันใดประชาธิปัตย์ไม่รอช้าที่จะงัดจุดแข็งซึ่งกำลังเป็นจุดตาย ให้พลิกกลับมาเป็นจุดทำลายคู่แข่งทางการเมือง
นั่นคือท้าดีเบต
ฝ่ายเจ๊ปูก็ต้องงัดกรรเชียงปูออกมาตีหนีลูกเดียว เพราะการขึ้นเวทีดีเบตเหมือนการเดินไปขึ้นเขียง
แปลง่ายๆ ว่าสู้อภิสิทธิ์ไม่ได้ในเรื่องนี้ ก็ต้องหนีอย่างเดียว
ประชาธิปัตย์ก็พูดถูก ว่าการดีเบตเป็นกระบวนการสากล
แต่ไม่ดีเบตก็ไม่ได้ผิดกติกาอะไร
วันเดียวกับที่จับสลากเบอร์ปาร์ตี้ลิสต์นั้น "เจ๊ปู" ยิ่งลักษณ์ เดินชูนิ้วชี้มาให้สัมภาษณ์เปิดใจกับเครือมติชน
โดยแวะเยี่ยมเยียน "ศูนย์ข่าวเลือกตั้ง-ข่าวสด" ด้วย
เจ๊ปูพูดถึงเรื่องดีเบตว่า ขอใช้เวลาไปพบปะประชาชนเพื่อนำเสนอนโยบาย ดีกว่าไปขึ้นโต้วาที
เลยถามไปว่า ทำไมไม่บอกชัดๆ ไปเลย เป็นคนชอบทำงาน ไม่ได้ดีแต่พูด
คำตอบพร้อมเสียงหัวเราะคือ ยังเกรงใจเขา ไม่อยากใช้คำนั้น
เชื่อว่าประชาธิปัตย์คงจะรุกเรื่องนี้ต่อไปอีก เพราะเหนือกว่า
แต่ถ้ามากไป เดี๋ยวจุดแข็งจะเป็นจุดตายได้อีก ด้วยข้อหานั้นจะย้อนกลับมา
ดีแต่พูด ดีแต่เบต