WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, May 16, 2011

ไม่ได้"ลอก"แต่"คล้าย" ฟัง"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"นึกถึง"บารัก โอบามา" จาก"คุณยายเนียม"ถึง"เราเริ่มต้นแล้ว"

ที่มา มติชน



ใน วันที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา และแถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในช่วงค่ำของวันนั้น

คำปราศรัยของ "อภิสิทธิ์" ยังคมคายเช่นเดิมสมกับเป็น "นักพูด" ที่หาตัวจับยาก

เขา เลือกใช้คำที่สละสลวยในการอธิบายเหตุผลการยุบสภา และใช้เวลาส่วนใหญ่แถลงผลงานของรัฐบาล โดยเลือกประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ในการหาเสียงครั้งนี้

และทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา การประกันรายได้เกษตรกร การปรองดองฯลฯ

"อภิสิทธิ์" จะตบท้ายด้วยคำว่า "เราได้เริ่มต้นแล้ว"

เพื่อที่จะบอกว่าเขาได้ทำแล้ว แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ต้องการ

เป็นกลยุทธ์การสร้างความต่อเนื่องกับสโลแกนของพรรคประชาธิปัตย์ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้

.....เดินหน้าต่อไปด้วยนโยบายเพื่อประชาชน

เมื่อ "เริ่มต้นแล้ว" จะได้ "เดินหน้าต่อไป"

กลยุทธ์ การทิ้งคำ "เริ่มต้นแล้ว" ในทุกผลงานที่แถลงของ "อภิสิทธิ์" ทำให้หลายคนนึกถึงคำปราศรัยของ "บารัก โอบามา" ในวันที่รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

วันนั้น "โอบามา" ใช้วิธีการทิ้งคำ "Yes, we can" หรือ "ใช่ เราทำได้" เป็นช่วงๆในตอนท้ายของการปราศรัย

การทิ้งคำลักษณะนี้เป็นการตอกย้ำให้คนจำและรู้สึกตามนั้น

และสร้างความคมคายให้กับการปราศรัย

ความละม้ายคล้ายคลึงดังกล่าวนี้เองทำให้คนนึกถึงการยกตัวอย่าง "คุณยายเนียม" ของ "อภิสิทธิ์" ในวันรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เพราะคล้ายกับ "คุณยายแอนน์ นิกสัน คูเปอร์" อายุ 106 ปีจาก "แอตแลนตา" ในคำปราศรัยวันเดียวกันของ "โอบามา" เพื่อสร้างอารมณ์สะเทือนใจให้กับผู้ฟัง

แต่การสรุปว่า "อภิสิทธิ์" ลอกข้อสอบก็ดูจะไม่เป็นธรรม

เพราะ "อภิสิทธิ์" นั้นจบมาจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเป็นประธานโต้วาทีของมหาวิทยาลัย ย่อมต้องศึกษาเรื่องหลักการพูดแบบตะวันตกมาเป็นอย่างดี

ทำให้วิธีการพูดของเขาละม้ายคล้ายคลึงกับ "โอบามา" โดยบังเอิญถึง 2 ครั้ง

แต่ก็ทำให้คนนึกถึงนโยบาย "บ้านหลังแรก" และ "รักษาฟรี"

ไม่ได้ "ลอก" เพียงแค่ "คล้าย" เท่านั้นเอง

…………………………………





คำปราศรัยของ "บารัก โอบามา" ที่เมืองชิคาโก้ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2551

"การ เลือกตั้งครั้งนี้ได้ก่อ ให้เกิด ′ครั้งแรก′ ในหลายๆ เรื่อง และก่อให้เกิดเรื่องราวมากมายที่เราจะบอกเล่าสู่คนรุ่นต่อไป แต่เรื่องหนึ่งที่อยู่ในใจของผมในคืนนี้เป็นเรื่องของหญิงผู้หนึ่งซึ่งออกมา ลงคะแนนเสียงที่แอตแลนตา เธอก็เหมือนกับคนอื่นๆ อีกนับล้านซึ่งเข้าแถวรอเพื่อจะลงคะแนน

เว้นแต่ว่า แอนน์ นิกสัน คูเปอร์ หญิงผู้นั้นอายุ 106 ปีแล้ว

เธอ เกิดขึ้นมาในยุคของทาส ในห้วงเวลาที่ยังไม่มีรถยนต์วิ่งอยู่บนถนน ไม่มีเครื่องบินอยู่บนท้องฟ้า ในยุคที่คนเช่นเธอไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้ด้วย 2 เหตุผล คือ เพราะเธอเป็นผู้หญิงและเพราะสีผิวของเธอ

และ คืนนี้ ผมคิดว่าทุกสิ่งในอเมริกาที่เธอได้เห็นมา 1 ศตวรรษ ความร้าวรานใจและความหวัง การต่อสู้และความก้าวหน้า ช่วงเวลาที่พวกเราถูกบอกว่าเราไม่สามารถทำได้, กับผู้คนผลักดันความเชื่อของอเมริกา,ใช่ เราทำได้ !!

ณ ห้วงเวลาที่เสียงของผู้หญิงเงียบงัน และความหวังของพวกเธอถูกละเลย เธอดำรงชีวิตอยู่เพื่อมองหญิงเหล่านั้นลุกขึ้น เปล่งเสียง และเรียกร้องสิทธิเลือกตั้ง, ใช่ เราทำได้ !!

เมื่อ เกิดความหดหู่จากพายุใน ภาคกลางที่เกิดจากความแห้งแล้ง และเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วประเทศ เธอเคยมองเห็นประเทศชาติต่อสู้กับความกลัวด้วยข้อตกลงใหม่ งานใหม่ และด้วยสำนึกใหม่, ใช่ เราทำได้ !!

เมื่อ ลูกระเบิดหล่นลงบนอ่าวของ เรา และทรราชย์คุกคามโลก เธออยู่ที่นั่น เป็นพยานของคนในรุ่นนั้นซึ่งเติบโตขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ และประชาธิปไตยที่พวกเราพิทักษ์รักษา, ใช่ เราทำได้ !!

เธอ อยู่ที่นั่นเพื่อได้เห็นรถ เมล์ในมอนท์โกเมอรี่ บ้านในเบอร์มิงแฮม ถนนในเซลมา และบาทหลวงจากแอตแลนตาผู้บอกกับประชาชนว่า ′เราจะได้ชัยชนะ′, ใช่ เราทำได้ !!

ชายซึ่งได้เหยียบดวงจันทร์ กำแพงที่สลายลงในเบอร์ลิน และโลกซึ่งเชื่อมโยงถึงกันด้วยวิทยาศาสตร์และจินตนาการของเรา

และ ในปีนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เธอแตะนิ้วของเธอลงบนจอคอมพิวเตอร์ ออกเสียงเลือกตั้ง เพราะหลังจากผ่านประสบการณ์ 106 ปี ในอเมริกา ทั้งในยามรุ่งเรืองที่สุดและในโมงยามที่มืดมิดที่สุด เธอย่อมรู้ว่าอเมริกาสามารถเปลี่ยนแปลงได้

ใช่ พวกเราทำได้!!!"

......................





ประกาศยุบสภาฯ ของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" วันที่ 9 พฤษภาคม 2554

"ผม พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ครับว่า ท่ามกลางภาวะความยากลำบากเหล่านี้ปัญหาที่เป็นปัญหาพื้นฐานของพี่น้อง ประชาชนนั้นก็ได้มีการเดินหน้าในการแก้ไข ได้มีการเริ่มต้นนโยบายหลายสิ่ง หลายอย่าง ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะใช้เป็นประโยชน์ในการเดินหน้าทำงานต่อไป

ก่อน ที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง นั้น เศรษฐกิจไทยของเรากำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเศรษฐกิจโลก อัตราการขยายตัวติดลบ คนกลัวกันว่าจะมีคนว่างงานพุ่งสูงไปถึง 1 ล้าน 2 ล้านคน สุดท้ายการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้การว่างงานนั้นไปแตะที่ 7 แสนคนเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ลดลงมาอย่างรวดเร็วเหลือ 3 แสนคน ฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวเป็นบวก การส่งออก การท่องเที่ยว สูงสุดเป็นประวัติการณ์แม้แต่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็สูงสุดในรอบเป็นสิบปี

ถาม ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เศรษฐกิจดีเป็นที่พอใจหรือไม่ ก็ต้องตอบครับว่าไม่พอใจ เพราะตราบใดที่ยังมีพี่น้องประชาชนและครอบครัว ตั้งแต่แม่ฮ่องสอน ลงไปนราธิวาส จากกาญจนบุรีไปอุบลราชธานียังคงมีปัญหาที่รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย เราพอใจไม่ได้

แต่ขณะเดียวกันเราก็พูดได้ว่าการแก้ไขปัญหาปูทางไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่ดี….. เป็นงานที่เราได้เริ่มต้นแล้ว

ก่อน ที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง พี่น้องประชาชนและหลายครอบครัวมีภาระมากครับ ทั้งในเรื่องการศึกษาของลูกหลาน ทั้งในเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย รัฐบาลได้มาเริ่มต้นนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ลดภาระค่าใช้จ่ายทางการศึกษาต่าง ๆ ได้นำโครงการเบี้ยยังชีพถ้วนหน้ามาให้พี่น้องประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี แบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชนไปได้

ถาม ว่าเพียงพอหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่พอ เพราะผมเชื่อมั่นว่า ครอบครัวของพี่น้องนั้นก็ต้องการที่จะมีหลักประกันความมั่นคง และการสร้างโอกาสให้กับลูกหลานมากกว่าที่เป็นอยู่

แต่งานที่จะทำสิ่งเหล่านี้นั้น เราไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์...เราได้เริ่มต้นแล้ว

ก่อน ที่ผมจะเข้ามารับหน้าที่ เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศเผชิญกับภาวะความไม่แน่นอนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความผันผวนของราคาของพืชผล รัฐบาลนี้ได้เข้ามาเริ่มต้นโครงการประกันรายได้ เป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรแบบครอบคลุมทั่วถึง เงินสดไปถึงมือ เพื่อเป็นหลักประกันในเรื่องของรายได้เป็นครั้งแรก ทำให้พี่น้องเกษตรกรทำการเกษตรแล้วไม่ขาดทุน พร้อม ๆ กันไปก็ได้อนุมัติโครงการประกันภัยพืชผล ที่จะมีการใช้ต่อไปปลายปีนี้

ถามว่าเพียงพอหรือยังในการที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรให้เป็นที่พึงพอใจ ก็ต้องตอบว่ายัง

แต่ขณะเดียวกันก็พูดได้เช่นเดียวกันว่างานที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร....ได้เริ่มต้นอย่างแท้จริง

พี่ น้องครับ นอกเหนือจากเรื่องของเศรษฐกิจและปากท้องแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องของความขัดแย้งทางการเมืองก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งซึ่ง ยังหนักหน่วงอยู่แน่นอนที่สุด

ถาม ว่าวันนี้มีความปรองดอง สมานฉันท์หรือยังก็ต้องตอบว่ายัง แต่ขณะเดียวกัน 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ยืนยันความเป็นนิติรัฐของประเทศ ให้เห็นว่าประเทศไทยนั้นปกครองด้วยกฎหมาย แล้วก็สามารถทำให้ภาวะต่าง ๆ กลับเข้ามาสู่ความเป็นปกติระดับหนึ่งที่จะคืนอำนาจให้แก่พี่น้องประชาชนได้

ดังนั้นงานที่สร้างความปรองดองสมานฉันท์....ก็ได้เริ่มต้นแล้วเช่นเดียวกัน"

………………………….

คำแถลงวันรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" วันที่ 17 ธันวาคม 2551

"และ สำหรับพี่น้องชาวอีสานครับ 16-17 ปีบนถนนการเมือง ผมไปเยี่ยมเยียนท่านหลายครั้ง ได้รับรู้ปัญหาความทุกข์ ความยากจนของทุกๆ ท่าน และไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ได้ร่วมปั้นข้าวเหนียวข้างเถียงนา ที่สนทนากันที่ไร่มันสำปะหลัง ผมไม่ลืม

และ ที่ผมอดที่จะเอ่ยถึง ไม่ได้นะครับก็คือคุณยายเนียม ที่อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ไปรณรงค์หาเสียงนั้น ท่านได้มอบแหวนวงนี้ให้กับผมและก็บอกกับผมว่ายายหมั้นคุณอภิสิทธิ์ให้กับคน อีสานแล้ว

ผม ไม่ทราบว่าคุณยายเนียมกำลัง ดูหรือฟังสิ่งที่ผมพูดอยู่หรือไม่ แต่อยากจะบอกกับคุณยายครับว่า วันนี้คนที่รับแหวนจากท่านจะทำงานให้ท่าน ทำงานให้กับญาติพี่น้องของท่าน ทำงานให้กับชาวอีสานของท่านและคนไทยร่วมชาติกับท่านอย่างเสมอภาคด้วยความ ทุ่มเท และด้วยความซื่อสัตย์สุจริต"

……………