แกนนำพันธมิตร ยื่น 4 ข้อ ปธ.วุฒิสภา หวังถอดถอน ส.ส.-ส.ว. เข้าชื่อแก้ไข รธน. อ้างมั่ว 3 มาตรา 68, 122, 291 แจงความผิด ท้ายสุด 20,000 รายชื่อยังไม่โผล่
เมื่อเวลา 10.00 น. ( 26 พ.ค.) ที่อาคารรัฐสภา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนาย สมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายสุริยะใส กตะศิลา ได้เดินทางมาเข้ายื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา นาย ประสพสุข บุญเดช เรื่องขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง กรณีที่ ส.ส. และ ส.ว. บางส่วน เข้าชื่อยื่นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากส่อจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
โดยแกนนำพันธมิตรฯ ได้แจงความผิดซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญระบุว่า การจะยื่นถอดถอนสมาชิกรัฐสภา จะต้องมีการแจงความผิดอย่างชัดเจน โดยเบื้องต้นได้แจงความผิดทั้งหมด 4 ข้อ ดังนี้
1. ความผิดของ ส.ส.ตาม มาตรา 122 การปฎิบัติหน้าที่อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชนน์เนื่องจากมี ส.ส. บางส่วนสังกัดพรรคการเมืองที่กำลังถูกดำเนินคดียุบพรรค ในขณะที่ร่าง รธน. มีจุดมุ่งหมายอย่างชัดเจน เพื่อให้พรรคการเมืองของตนพ้นจากควมผิดยุบพรรค แม้ ส.ส. จะอ้างเอกสิทธิคุ้มครอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ส.ส. จะไม่ได้ใช้เอกสิทธิในทางที่ขัดต่อบทบัญญัติ รธน.
2. ความผิดของ ส.ว. ตาม มาตรา122 การปฎิบัติหน้าที่อันเป็นการขัดกันแห่งประโยชน์เนื่องจากร่างแก้ไขเพิมเติม รธน. ได้มุ่งหมายเปลี่ยนโครงสร้างของวุฒิสภา ทั้งที่มาและอำนาจหน้าที่ หวังเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้ ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยให้ยุบเลิก ส.ว.ที่มาจากการสรรหาทิ้ง ฉะนั้น การที่ ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้งบางส่วน ร่วมลงชื่อแก้ไขเพิ่มเติมร่าง รธน. ฉบันนี้จึงถือเป็นการกระทำที่มีส่วนได้เสีย
3. ความผิดตาม มาตรา 291 เนื่องจากร่างแก้ไขเพิ่มเติม รธน.ฉบับบนี้ ทั้งเนื้อหาและรูปแบบที่เสนอมานั้นไม่ชอบด้วย รธน. 2550 มาตรา 291 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา กล่าวคือให้นำบทบัญญัติของ รธน. 2540 มาใช้บังคับแทนบทบัญญัติ รธน.2550 โดยการยกเลิกเชื่อหมวด ตั้งแต่หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชาวไทยจนถึงบทเฉพาะกาล และให้นำชื่อหมวดและบทบัญญัติ รธน.2540 มาใช้บังคับแทนทั้งหมด โดยเริ่มตั้งแต่หมวด 3 ดังนั้น รูปแบบดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นการให้นำบทบัญญัติ รธน. 2540 มาใช้บังคับแทน 2550 และ
4. ความผิดตาม มาตรา 68 พบว่า บทญัตติการแก้ไขเพิ่มเติม รธน. ทั้งรูปแบบวิธีการและสารสำคัญในร่างแก้ไข ที่เสนอต่อรัฐสภาครั้งนี้เป็นการโละ และล้มล้าง รธน. ทั้งฉบับ จึงเป็นวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจใจการปกครองประเทศ ซึ่งมิได้เป็นไปตามวิธีทางที่บัญญัติไว้ใน รธน.ฉบับปัจจุบัน
ภายหลังรับหนังสือดังกล่าว นายประสพสุข กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องรอรายชื่อที่จะมาถอดถอน ส.ว.จากแกนนำพันธมิตรจำนวน 20,000 รายชื่อก่อน ถ้าได้ครบแล้ว จะส่งรายชื่อไปให้สำนักทะเบียนของกระทรวงมหาดไทย และส่งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไป