ก.ต่างประเทศ 8 ส.ค. - อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ เผยการเดินทางเยือนไทยของประธานาธิบดีสหรัฐ อาจพิจารณาให้ไทยออกจากกลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ นางนงนุช เพ็ชรรัตน์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กล่าวถึงผลที่ประเทศไทยได้รับจากการเดินทางเยือนของนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างวันที่ 6-7 สิงหาคม ว่า ด้านความสัมพันธ์เป็นการย้ำว่า ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชีย และที่ผ่านมา ในด้านการค้าไทยได้ดุลถึงปีละ 300,000 ล้านบาท และด้วยพื้นฐานความสัมพันธ์ดังกล่าวไทยยังได้ย้ำผ่านผู้นำสหรัฐ ให้พิจารณาปรับสถานะของประเทศไทยออกจากกลุ่มประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) โดยคำนึงถึงความคืบหน้าในความร่วมมือระหว่างไทยกับสหรัฐ ด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้แผนปฏิบัติการระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทยและสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยให้ความร่วมมือการคุ้มครองสิทธิ์ นางนงนุช กล่าวว่าโอกาสนี้ไทยได้แสดงข้อกังวลต่อสหรัฐ ว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายคว่ำบาตรพม่า เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อประชาชนของพม่าแล้ว ยังกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ส่งออกอัญมณีไทย โดยหวังว่าสหรัฐจะพิจารณาหามาตรการรองรับ เพื่อปกป้องไทยจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายดังกล่าว ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐยังไม่ได้มีคำตอบ เพราะในการพูดคุยเรื่องดังกล่าวระหว่างนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีบุช ไม่ได้พูดคุยกันในสิ่งที่เป็นรายละเอียด หากสหรัฐเปลี่ยนรัฐบาลสิ่งที่ได้พูดคุยกันจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นั้น นางนงนุช กล่าวว่า การพูดของประธานาธิบดีบุช เหมือนเป็นการวางกรอบไว้ว่า รัฐบาลต่อไปจะต้องหันมาดูว่ารัฐบาลที่แล้วสร้างความสัมพันธ์ไว้ในระดับใด ซึ่งแน่นอนว่ารัฐบาลต่อมาจะต้องทำความสัมพันธ์ไม่น้อยกว่ารัฐบาลที่แล้ว. - สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-08-08 17:22:21