เมื่อวานนี้ ผมเขียนเรื่องการปลุกระดมเชื้อชาติ โดยการใช้เสื้อ “ลูกจีนรักชาติ” เป็นชนวนสร้างความแตกแยกนั้น ปรากฏว่ามีผู้อ่านบอกกล่าวกันมามากมาย ในทำนองว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กำลังขอเงินสนับสนุนจากพ่อค้าเชื้อสายจีนอยู่
ในการปลุกระดมครั้งนี้ เพียงเพื่อต้องการเงินสนับสนุนเท่านั้น พ่อค้าเชื้อสายจีนบางรายตอนนี้ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพื่อหลบการรีดไถ
ดังนั้น พี่น้องประชาชนทั้งหลาย ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ เพราะมีพ่อค้าบางรายเท่านั้นที่โยนเศษเงินให้ ส่วนคนเชื้อสายจีนรุ่นใหม่ต่างก็รู้และต้องการระบอบประชาธิปไตยทั้งนั้น ไม่มีใครให้ราคา นายสนธิ ลิ้มทองกุล อย่างที่เขาประเมินไว้หรอก
อันที่จริงเรื่องนี้ก็พอทราบอยู่บ้าง เพราะบรรดานักธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ ต่างก็เคยโดนทาบทามมาออกรายการเอเอสทีวีหมดแล้ว
พวกนี้ไม่ได้เกลียดรัฐบาล ไม่ได้ชิงชัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่พอมาออกเอเอสทีวีแล้วก็โดนตีหัวเข้าบ้าน และถ้าไม่เลือกข้างก็โดนกลั่นแกล้งให้เสียหาย
เหมือนกับที่ตอนนี้ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ 2 ค่าย ทั้งลาดพร้าว และอโศก กำลังโดนนายสนธิใส่ร้าย กล่าวหาว่าไม่รักชาติ ทำให้ทั้งอาเฮีย ทั้งอากู๋ ต่างส่ายหัวถึงความเลวทรามต่ำช้าของเดนนรกคนนี้ทีเดียว
และจากสัญญาณอันดีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์พิธีบวชศีลจารี และศีลจาริณี ในโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 76 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม
นายกฯ สมัคร ระบุว่า ได้นำความกราบบังคมทูลขอพึ่งพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการจัดงาน "จากวันพ่อถึงวันแม่ 116 วัน" เพราะเห็นว่าบ้านเมืองมีความแตกแยกออกเป็น 2 ฝ่าย อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะทำอย่างไรต่อไป ตนจะไม่ขอริเริ่มและสร้างความรุนแรง เพราะเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องการให้ทำงานสร้างความสามัคคี
ทันทีที่ข่าวนี้ออกมา หลายคนก็รู้สึกดีใจ เพราะบ้านเมืองน่าจะดีขึ้นบ้าง แต่เสียงจากฝั่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดูไม่ค่อยแฮปปี้นักกับการที่รัฐบาลจะจัดงานใหญ่ครั้งนี้
เพราะแม้แต่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เคยเป็นทหารที่ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณ มียศถึงพลตรี ยังออกมาตะแบงว่า รัฐบาลจัดงาน “จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน” มีอะไรแอบแฝงหรือไม่
ผมไม่นึกว่า พล.ต.จำลอง จะออกมาพูดเช่นนี้ เพราะถ้า พล.ต.จำลอง ไม่ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมือง บริวารคนใกล้ชิดที่อ้างว่าจงรักภักดีก็น่าจะนำข้อมูลมาบอก พล.ต.จำลอง ให้หูตาสว่างบ้าง
เพราะนายกฯ สมัคร กล่าวย้ำหลายครั้งว่า ได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวง จึงนำความมาสู่พี่น้องประชาชนทั้งหลาย เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินโปรดที่จะให้ทำงานสมัครสมานสามัคคี ขอให้โปรดทราบว่า แม้ว่าท่านทั้งหลายจะทำช่วงสั้นๆ สิ่งที่ท่านทั้งหลายทำ เป็นสิ่งที่ตนได้กราบบังคมทูลว่า...
“เราจะมีความสมัครสมานสามัคคี แตกแยกไม่ไหว ใครจะไปอย่างไรก็สุดแท้แต่เขา แต่ทางฝ่ายข้าพระพุทธเจ้า
พล.ต.จำลอง รู้บ้างไหมว่า ในหลวงทรงรับสั่งว่าอย่างไร ท่านตรัสว่า ขอให้สำเร็จ!
ได้ยินได้ฟังแบบนี้ คุณไม่สำนึกบ้างเลยหรือ และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะ พล.ต.จำลอง เคยบังอาจออกมาไล่ตำรวจจัดเส้นทางเสด็จฯ หลบไปทางอื่นมาแล้ว
ดังนั้น คำพูดและทัศนคติของ พล.ต.จำลอง สะท้อนกลับต่อคำกล่าวหาว่าคนอื่นไม่มีความจงรักภักดีต่อชาติและสถาบัน
การกระทำเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น “ท่าที” หรือ “คำพูด” ของ พล.ต.จำลอง ล้วนเป็นการจุดชนวนความเกลียดชังและความแตกแยกให้บ้านเมือง
พล.ต.จำลอง คงไม่อยากให้คนไทยตีกันเอง จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
ถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนั้น พล.ต.จำลอง จงหยุดการกระทำที่เลวทรามต่ำช้า และเลิกทำตัวเป็นคนประเภทมือถือสาก ปากถือศีล ได้แล้ว!