หงุดหงิดกันมากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ถือกันว่าเป็นประชาธิปไตยที่สุดในไทย ได้เป็นตัวสร้างความหงุดหงิดให้กับบรรดา “อำมาตยาธิปไตย” ทั้งหลายเป็นอย่างมากเพราะในการเลือกตั้ง “วุฒิสมาชิก” โดยประชาชนทั้งชาติครั้งที่ 2 เมื่อต้นปี 2549 ได้มีบรรดา “เมียส.ส.” ลงสมัครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด และได้รับเลือกตั้งเข้ามาหลายคนมากนั่นก็เพราะบารมี “ผัว” ที่เป็น ส.ส.อยู่
เรียกอย่างเย้ยหยันกันว่า“สภาผัวเมีย”ในการที่คณะปฏิวัติโดย ผบ.ทหารทุกเหล่าทัพ ร่วมกันยึดอำนาจการปกครองไปเสียจาก “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อวันที่ 19กันยายน 2549 แล้ว คำว่า “สภาผัวเมีย” ก็เป็นอีกแรงขับเคลื่อนคนไทยได้ไชโยโห่ร้องต้อนรับคณะปฏิวัติ เพราะเกลียดพวกนักการเมืองที่เอาเมียลงสมัครเป็นส.ว.และเมื่อมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นหัวหน้าใหญ่ ก็ได้มีการกำหนดบทบัญญัติ “คุมกำเนิด”สภาผัวเมียไว้หลายมาตรามาก เพื่อให้จั๋งหนับ ให้สูญพันธุ์โดยห้ามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ส.ส. ในลักษณะ ลูก เมีย พ่อแม่ ญาติพี่น้องอีกหลายชั้น มาลงสมัครวุฒิสมาชิก ไม่ว่าสมาชิกเลือกตั้งโดยประชาชน หรือวุฒิสมาชิกที่มาจากการสรรหาแล้วแต่งตั้งและเพื่อให้ “อำมาตยาธิปไตย” ยังสามารถควบคุมอำนาจการเมืองได้อยู่ รัฐธรรมนูญปี 2550 ให้มีวุฒิสมาชิก ทั้งหมด 150คน แบ่งเป็น 2 จำพวกมาจากการเลือกตั้งของประชาชน 76 คนมาจากการสรรหาแล้วแต่งตั้ง 74 คน
วันที่ 2 มี.ค.ที่จะถึงนี้ คนไทยจะได้เลือกตั้งวุฒิสมาชิกกันแล้ว เป็นฝ่ายเลือกตั้ง76 คน ให้จังหวัดละ 1 คนเท่ากันหมดกรุงเทพฯ มีคนมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 5.5 ล้านคน ก็มีส.ส.ได้ 1 คน เท่า จังหวัดระยอง ที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 2แสนกว่าคนเป็นความเท่าเทียมแบบแปลกคนไทยส่วนมากเห็นด้วย ที่รัฐธรรมนูญกีดกันไม่ให้เมียส.ส.มาเป็นส.ว.และเรากำลังจะได้รู้ว่า คนไทยจะมีความรู้สึกอย่างไร เมื่อได้รู้แล้วว่าเมียของ คมช.เป็น ส.ว.ได้เมีย ส.ส. เป็น ส.ว. ไม่ได้แต่เมีย คมช. เป็น ส.ว. ได้เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2551 “สมาคมภริยาแม่บ้านทหารเรือ”ได้ส่งชื่อ “นางพรเพ็ญ เกยานนท์” ภรรยาของ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และเป็น 1 ใน 7 คมช.ฝ่ายทหาร ยื่นสมัครที่สำนักงาน กกต. เข้าแข่งขันเป็นส.ว.สายแต่งตั้งรุ่งขึ้น 17 ม.ค. นักข่าวสายทหารนำเรื่องนี้ไปถามพล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ถึงเหตุจูงใจ ซึ่งท่าน ผบ.ทร. ก็ตอบชี้แจงมาว่า“เขาเห็นว่า สมาคมภริยาทหารเรือ เป็นนิติบุคคลที่สามารถส่งผู้แทนเข้าสมัครคัดเลือกเป็น ส.ว.ได้ และทางสมาคมควรจะส่งผู้แทนเข้ารับเลือก อีกทั้งเขามีความพร้อมที่จะไปรับใช้ประเทศชาติ เนื่องจากผ่านงานด้านสังคมสงเคราะห์ ดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวทหารและประชาชนที่อยู่ใกล้พื้นที่ทหาร โดยที่ผ่านมา
เคยตั้งชมรมแม่บ้านอาสา ให้ความสำคัญเรื่องให้เด็กดื่มนมแม่ ซึ่งขณะนี้ชมรมดังกล่าวที่จังหวัดจันทบุรีและที่สัตหีบ ชลบุรี มีความก้าวหน้ามาก ประชาชนในพื้นที่และครอบครัวทหารให้ความสนใจเรื่องดังกล่าวและมาสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้น เขาคิดว่าเขามีประสบการณ์เรื่องสังคมสงเคราะห์ และยังเคยเป็นนักธุรกิจมาก่อน เขาเลยคิดว่าน่าจะมีความรู้ความสามารถเพียงพอ เข้าไปช่วยเหลือทำงานด้านนี้ได้บ้าง ถ้ามีโอกาส จึงเสนอตัวเอง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ไม่เคยมีความสนใจเรื่องการเมืองเลย เพราะเขาเป็นคนพูดตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูด จริงๆ แล้วไม่เหมาะกับการเมือง แต่มองแล้ว ส.ว.ไม่ถึงกับการเมืองนัก เพราะเป็นการคัดสรรเข้าไป ไม่ได้สังกัดพรรค น่าจะทำงานได้ดี ถ้าได้ทำงาน อยากจะผลักดันงานด้านสังคมสงเคราะห์มากกว่า”ฟังผบ.ทร. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ พูดถึงความตั้งใจของภรรยาที่จะเข้ามา ผลักดันงานด้านสังคมสงเคราะห์แล้วดูดีมากแม้ว่างานหลักของวุฒิสมาชิก ตามรัฐธรรมนูญ คือการกลั่นกรองกฎหมาย และควบคุมการทำงานของรัฐบาลก็ตามเปิดดูเรื่องราวอันเป็นผลงานชิ้นเอกของ “พรเพ็ญ เกยานนท์”มีเขียนเอาไว้ว่า
หลังจากได้ขึ้นเป็นนายกสมาคมภริยาแม่บ้านทหารเรือแล้ว ก็ได้เดินหน้าปรับปรุงร้านค้าภริยาทหารเรือ ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าช้าง ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างขนานใหญ่ จนสามารถแปลงโฉมจากร้านเชยๆ เป็นร้านเปรี้ยวจี๊ด ทันสมัยทุกกระเบียดนิ้ว
มีมุมขายสินค้าที่ระลึกทหารเรือ สินค้าจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร และมีมุมกาแฟ พร้อมเบเกอรี่ ขนมไทยและอาหารขบเคี้ยวที่เอามาจากสัตหีบด้วย โดยเพิ่งจะเปิดอย่างใหญ่โตเมื่อวันที่ 18 พ.ค.50บรรดาคนไฮโซเห็นร้านภริยาทหารเรือแล้ว ชมกันตรึมและ “พรเพ็ญ เกยานนท์” ยังมีผลงาน หาสวัสดิการให้กับครอบครัวทหารเรือได้ยอดเยี่ยมมากด้วยพรเพ็ญ เป็นลูกสาวทหารอากาศ ขณะเรียนปี 1 จุฬาฯ
เพื่อนสาวที่มีแฟนเป็นทหารเรือ ชวนไปเที่ยวงานเลี้ยงฉลองกระบี่ของทหารเรือ พอไปถึงงานเพื่อนเจอแฟนก็ทิ้งให้อยู่คนเดียว เปิดช่องให้ทหารเรือหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า “สถิรพันธุ์ เกยานนท์” เข้ามาจีบ และอาสาขับรถไปส่งบ้านหลังงานเลิก จากนั้นก็คบกันมา 5 ปีชายหนุ่มจึงขอแต่งงานมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิงชื่อ ลูกเต๋า-ฐิตะวดี จบปริญญาโทจากจอร์จทาวน์ สหรัฐอเมริกา ขณะนี้เป็นผู้จัดการฝ่าย
ตลาดยูนิลีเวอร์ลูกชายชื่อ ลูกกอล์ฟ-ฐิติพันธ์ จบปริญญาตรีพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ เป็นนักร้องนำวง ออล ฟอร์ เมน ค่ายอาร์เอส และทำงานหลักกับซีพีพรเพ็ญ เป็นเจ้าของบริษัท เอ็ม เพรส แทรเวล ขยันมาก บางครั้งทำหน้าที่แม่บ้านทำความสะอาดบริษัทเอง“บางกอกทูเดย์” มีความเห็นว่า คนเก่งๆ ที่มีความสามารถและมีผลงานเด่นด้านสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือครอบครัวทหารเรือ ตัดสินใจมาสมัครชิงเป็น วุฒิสมาชิก สายแต่งตั้งอย่างนี้
เป็นการดีแก่ประเทศชาติอย่างมากเราขอ Welcomeส่วนจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นก็อีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตัดสินเสนอชื่อของ กกต.เป็นด่านแรก และไปจบที่ คณะกรรมการสรรหาที่มีอยู่ 6 คนเราเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยเลยว่า ไม่มีการ “ล็อกหวย” แน่นอน แม้ว่าจะเป็นภรรยา ผบ.ทร.และยังเป็นคมช.ใหญ่ ด้วยก็ตาม เพราะกรรมการสรรหาตงฉินทุกคนจะว่าเป็น “สภาผัวเมีย” ก็ไม่ได้ด้วยเพราะถึง “พรเพ็ญ เกยานนท์” จะได้เป็นส.ว.แต่งตั้ง แต่พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ไม่ได้เป็น ส.ส.ว่าไปแล้วการเป็น วุฒิสมาชิกแต่งตั้ง ตามรัฐธรรมนูญปี2550 ยังดีกว่า เป็นวุฒิสมาชิก ยุดก่อนหน้านี้ หลังปฏิวัติที จะมีวุฒิฯ แต่งตั้ง แบบว่าชี้ๆ เอากับพวกวิ่งสอพลอหัวหน้าโควตายุค คมช.ให้ผ่านการสรรหา โก้ขึ้นมาอีกนิด
เรียกอย่างเย้ยหยันกันว่า“สภาผัวเมีย”ในการที่คณะปฏิวัติโดย ผบ.ทหารทุกเหล่าทัพ ร่วมกันยึดอำนาจการปกครองไปเสียจาก “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อวันที่ 19กันยายน 2549 แล้ว คำว่า “สภาผัวเมีย” ก็เป็นอีกแรงขับเคลื่อนคนไทยได้ไชโยโห่ร้องต้อนรับคณะปฏิวัติ เพราะเกลียดพวกนักการเมืองที่เอาเมียลงสมัครเป็นส.ว.และเมื่อมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นหัวหน้าใหญ่ ก็ได้มีการกำหนดบทบัญญัติ “คุมกำเนิด”สภาผัวเมียไว้หลายมาตรามาก เพื่อให้จั๋งหนับ ให้สูญพันธุ์โดยห้ามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ส.ส. ในลักษณะ ลูก เมีย พ่อแม่ ญาติพี่น้องอีกหลายชั้น มาลงสมัครวุฒิสมาชิก ไม่ว่าสมาชิกเลือกตั้งโดยประชาชน หรือวุฒิสมาชิกที่มาจากการสรรหาแล้วแต่งตั้งและเพื่อให้ “อำมาตยาธิปไตย” ยังสามารถควบคุมอำนาจการเมืองได้อยู่ รัฐธรรมนูญปี 2550 ให้มีวุฒิสมาชิก ทั้งหมด 150คน แบ่งเป็น 2 จำพวกมาจากการเลือกตั้งของประชาชน 76 คนมาจากการสรรหาแล้วแต่งตั้ง 74 คน
วันที่ 2 มี.ค.ที่จะถึงนี้ คนไทยจะได้เลือกตั้งวุฒิสมาชิกกันแล้ว เป็นฝ่ายเลือกตั้ง76 คน ให้จังหวัดละ 1 คนเท่ากันหมดกรุงเทพฯ มีคนมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 5.5 ล้านคน ก็มีส.ส.ได้ 1 คน เท่า จังหวัดระยอง ที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 2แสนกว่าคนเป็นความเท่าเทียมแบบแปลกคนไทยส่วนมากเห็นด้วย ที่รัฐธรรมนูญกีดกันไม่ให้เมียส.ส.มาเป็นส.ว.และเรากำลังจะได้รู้ว่า คนไทยจะมีความรู้สึกอย่างไร เมื่อได้รู้แล้วว่าเมียของ คมช.เป็น ส.ว.ได้เมีย ส.ส. เป็น ส.ว. ไม่ได้แต่เมีย คมช. เป็น ส.ว. ได้เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2551 “สมาคมภริยาแม่บ้านทหารเรือ”ได้ส่งชื่อ “นางพรเพ็ญ เกยานนท์” ภรรยาของ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และเป็น 1 ใน 7 คมช.ฝ่ายทหาร ยื่นสมัครที่สำนักงาน กกต. เข้าแข่งขันเป็นส.ว.สายแต่งตั้งรุ่งขึ้น 17 ม.ค. นักข่าวสายทหารนำเรื่องนี้ไปถามพล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ถึงเหตุจูงใจ ซึ่งท่าน ผบ.ทร. ก็ตอบชี้แจงมาว่า“เขาเห็นว่า สมาคมภริยาทหารเรือ เป็นนิติบุคคลที่สามารถส่งผู้แทนเข้าสมัครคัดเลือกเป็น ส.ว.ได้ และทางสมาคมควรจะส่งผู้แทนเข้ารับเลือก อีกทั้งเขามีความพร้อมที่จะไปรับใช้ประเทศชาติ เนื่องจากผ่านงานด้านสังคมสงเคราะห์ ดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวทหารและประชาชนที่อยู่ใกล้พื้นที่ทหาร โดยที่ผ่านมา
เคยตั้งชมรมแม่บ้านอาสา ให้ความสำคัญเรื่องให้เด็กดื่มนมแม่ ซึ่งขณะนี้ชมรมดังกล่าวที่จังหวัดจันทบุรีและที่สัตหีบ ชลบุรี มีความก้าวหน้ามาก ประชาชนในพื้นที่และครอบครัวทหารให้ความสนใจเรื่องดังกล่าวและมาสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้น เขาคิดว่าเขามีประสบการณ์เรื่องสังคมสงเคราะห์ และยังเคยเป็นนักธุรกิจมาก่อน เขาเลยคิดว่าน่าจะมีความรู้ความสามารถเพียงพอ เข้าไปช่วยเหลือทำงานด้านนี้ได้บ้าง ถ้ามีโอกาส จึงเสนอตัวเอง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ไม่เคยมีความสนใจเรื่องการเมืองเลย เพราะเขาเป็นคนพูดตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูด จริงๆ แล้วไม่เหมาะกับการเมือง แต่มองแล้ว ส.ว.ไม่ถึงกับการเมืองนัก เพราะเป็นการคัดสรรเข้าไป ไม่ได้สังกัดพรรค น่าจะทำงานได้ดี ถ้าได้ทำงาน อยากจะผลักดันงานด้านสังคมสงเคราะห์มากกว่า”ฟังผบ.ทร. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ พูดถึงความตั้งใจของภรรยาที่จะเข้ามา ผลักดันงานด้านสังคมสงเคราะห์แล้วดูดีมากแม้ว่างานหลักของวุฒิสมาชิก ตามรัฐธรรมนูญ คือการกลั่นกรองกฎหมาย และควบคุมการทำงานของรัฐบาลก็ตามเปิดดูเรื่องราวอันเป็นผลงานชิ้นเอกของ “พรเพ็ญ เกยานนท์”มีเขียนเอาไว้ว่า
หลังจากได้ขึ้นเป็นนายกสมาคมภริยาแม่บ้านทหารเรือแล้ว ก็ได้เดินหน้าปรับปรุงร้านค้าภริยาทหารเรือ ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าช้าง ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างขนานใหญ่ จนสามารถแปลงโฉมจากร้านเชยๆ เป็นร้านเปรี้ยวจี๊ด ทันสมัยทุกกระเบียดนิ้ว
มีมุมขายสินค้าที่ระลึกทหารเรือ สินค้าจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร และมีมุมกาแฟ พร้อมเบเกอรี่ ขนมไทยและอาหารขบเคี้ยวที่เอามาจากสัตหีบด้วย โดยเพิ่งจะเปิดอย่างใหญ่โตเมื่อวันที่ 18 พ.ค.50บรรดาคนไฮโซเห็นร้านภริยาทหารเรือแล้ว ชมกันตรึมและ “พรเพ็ญ เกยานนท์” ยังมีผลงาน หาสวัสดิการให้กับครอบครัวทหารเรือได้ยอดเยี่ยมมากด้วยพรเพ็ญ เป็นลูกสาวทหารอากาศ ขณะเรียนปี 1 จุฬาฯ
เพื่อนสาวที่มีแฟนเป็นทหารเรือ ชวนไปเที่ยวงานเลี้ยงฉลองกระบี่ของทหารเรือ พอไปถึงงานเพื่อนเจอแฟนก็ทิ้งให้อยู่คนเดียว เปิดช่องให้ทหารเรือหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่า “สถิรพันธุ์ เกยานนท์” เข้ามาจีบ และอาสาขับรถไปส่งบ้านหลังงานเลิก จากนั้นก็คบกันมา 5 ปีชายหนุ่มจึงขอแต่งงานมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิงชื่อ ลูกเต๋า-ฐิตะวดี จบปริญญาโทจากจอร์จทาวน์ สหรัฐอเมริกา ขณะนี้เป็นผู้จัดการฝ่าย
ตลาดยูนิลีเวอร์ลูกชายชื่อ ลูกกอล์ฟ-ฐิติพันธ์ จบปริญญาตรีพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ เป็นนักร้องนำวง ออล ฟอร์ เมน ค่ายอาร์เอส และทำงานหลักกับซีพีพรเพ็ญ เป็นเจ้าของบริษัท เอ็ม เพรส แทรเวล ขยันมาก บางครั้งทำหน้าที่แม่บ้านทำความสะอาดบริษัทเอง“บางกอกทูเดย์” มีความเห็นว่า คนเก่งๆ ที่มีความสามารถและมีผลงานเด่นด้านสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือครอบครัวทหารเรือ ตัดสินใจมาสมัครชิงเป็น วุฒิสมาชิก สายแต่งตั้งอย่างนี้
เป็นการดีแก่ประเทศชาติอย่างมากเราขอ Welcomeส่วนจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นก็อีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตัดสินเสนอชื่อของ กกต.เป็นด่านแรก และไปจบที่ คณะกรรมการสรรหาที่มีอยู่ 6 คนเราเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยเลยว่า ไม่มีการ “ล็อกหวย” แน่นอน แม้ว่าจะเป็นภรรยา ผบ.ทร.และยังเป็นคมช.ใหญ่ ด้วยก็ตาม เพราะกรรมการสรรหาตงฉินทุกคนจะว่าเป็น “สภาผัวเมีย” ก็ไม่ได้ด้วยเพราะถึง “พรเพ็ญ เกยานนท์” จะได้เป็นส.ว.แต่งตั้ง แต่พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ ไม่ได้เป็น ส.ส.ว่าไปแล้วการเป็น วุฒิสมาชิกแต่งตั้ง ตามรัฐธรรมนูญปี2550 ยังดีกว่า เป็นวุฒิสมาชิก ยุดก่อนหน้านี้ หลังปฏิวัติที จะมีวุฒิฯ แต่งตั้ง แบบว่าชี้ๆ เอากับพวกวิ่งสอพลอหัวหน้าโควตายุค คมช.ให้ผ่านการสรรหา โก้ขึ้นมาอีกนิด