เป็นครั้งแรกที่...ได้ยินคำว่า “เถยจิต”
หลุดออกมาจากปาก...ของผู้มีอำนาจในคณะ
กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ
เสียหายแก่รัฐ
โอกาสไหน ที่คำว่า “เถยจิต” จะประกาศกัน
ออกมา
ก็เมื่อความผิดนั้นปรากฏชัดออกมาแล้ว
อย่างชัดเจน ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงแปรรูป
เป็นอย่างอื่นไปได้...แต่ฝ่ายผู้ตรวจสอบได้
พบว่า...การกระทำผิดนั้นๆ เป็นไปโดยความหวังดี
มีความเสียหายเกิดขึ้นจริง แต่ผู้กระทำมิได้รับ
ผลประโยชน์...ตอบแทน
หรือ...รัฐได้รับความเสียหาย...แต่รู้ทำให้เกิด
ความเสียหาย...ไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน
จึงไม่น่าที่จะเอาโทษผิดกับเขาผู้นั้น อยากจะยกโทษให้
อยากจะช่วยให้พ้นโทษ
ตรงนี้แหละ ที่คำว่า... “เถยจิต” จะปรากฏ
ออกมา
ดังนั้น...เถยจิตจึงเป็นประโยชน์กับจำเลย. . .
โดยตรง...กล่าวคือ...มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ผู้ก่อ
ให้เกิดความเสียหายไม่มีเถยจิตเป็นโจร...จึงให้ถอน
ฟ้องไม่ต้องโทษพ้นจากคดีความ
คำว่าเถยจิตปรากฏออกมาในครั้งนี้ ในคดี
ที่เกี่ยวข้องกับการ...จัดซื้อจัดหารถดับเพลิงให้กับ
กรุงเทพมหานคร ที่ต่อเนื่องกันมาใน 2 คณะผู้
บริหารกรุงเทพมหานคร...
ยุคของ สมัคร สุนทรเวช...และ อภิรักษ์
โกษะโยธิน
เรื่องการซื้อนั้นยุติลงแล้วโดยสิ้นเชิง...ไม่มี
การเปิดแอลซี...ไปยังบริษัทผู้ขาย...เมื่อไม่มีการ
ซื้อขายก็ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น...ไม่ว่าในส่วน
ของผู้จัดทำงบประมาณ คือ กระทรวงมหาดไทย
หรือผู้ใช้อย่างกรุงเทพมหานคร
แต่เพราะ...มีการย้อนไปเปิดแอลซีใหม่...ทำให้
เกิดการซื้อขายเกิดขึ้น...ข้อกล่าวหาว่าขบวนการจัด
ซื้อจัดหาไม่ถูกต้อง...จึงปรากฏออกมาใหม่...และผู้
ทำให้...การซื้อขายสำเร็จ...กลายเป็น...
อภิรักษ์ โกษะโยธิน...ซึ่งเชื่อกันว่า...เนื้อไม่
ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแขวนคอ
และจนถึงวันนี้...รถดับเพลิงที่จ่ายเงินซื้อมาแล้วนั้น
ก็จอดทิ้งรอการผุพังและสร้างค่าใช้จ่ายอยู่ตาม
โกดังท่าเรือ
เพราะ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ไม่กล้านำออกมาใช้
คดีจึงกลายเป็นบูมเมอแรงที่แกว่งเข้ามา
หาผู้ขว้าง...คำว่าเถยจิตจึงปรากฏขึ้นมา...เพื่อ
เป็น “วีซ่า” ให้ผู้ถูกกล่าวหา...เดินเข้ามาสู่แผ่นดิน
แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง...เถยจิตจึงจะเป็น
ยากันสี...ทำให้สีดำ สีเทา กลายเป็นสีขาว...
อำนาจเป็นของท่าน ใช้กันตามสบายเถิดครับ
● พญาไม้ ●
หลุดออกมาจากปาก...ของผู้มีอำนาจในคณะ
กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ
เสียหายแก่รัฐ
โอกาสไหน ที่คำว่า “เถยจิต” จะประกาศกัน
ออกมา
ก็เมื่อความผิดนั้นปรากฏชัดออกมาแล้ว
อย่างชัดเจน ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงแปรรูป
เป็นอย่างอื่นไปได้...แต่ฝ่ายผู้ตรวจสอบได้
พบว่า...การกระทำผิดนั้นๆ เป็นไปโดยความหวังดี
มีความเสียหายเกิดขึ้นจริง แต่ผู้กระทำมิได้รับ
ผลประโยชน์...ตอบแทน
หรือ...รัฐได้รับความเสียหาย...แต่รู้ทำให้เกิด
ความเสียหาย...ไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน
จึงไม่น่าที่จะเอาโทษผิดกับเขาผู้นั้น อยากจะยกโทษให้
อยากจะช่วยให้พ้นโทษ
ตรงนี้แหละ ที่คำว่า... “เถยจิต” จะปรากฏ
ออกมา
ดังนั้น...เถยจิตจึงเป็นประโยชน์กับจำเลย. . .
โดยตรง...กล่าวคือ...มีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ผู้ก่อ
ให้เกิดความเสียหายไม่มีเถยจิตเป็นโจร...จึงให้ถอน
ฟ้องไม่ต้องโทษพ้นจากคดีความ
คำว่าเถยจิตปรากฏออกมาในครั้งนี้ ในคดี
ที่เกี่ยวข้องกับการ...จัดซื้อจัดหารถดับเพลิงให้กับ
กรุงเทพมหานคร ที่ต่อเนื่องกันมาใน 2 คณะผู้
บริหารกรุงเทพมหานคร...
ยุคของ สมัคร สุนทรเวช...และ อภิรักษ์
โกษะโยธิน
เรื่องการซื้อนั้นยุติลงแล้วโดยสิ้นเชิง...ไม่มี
การเปิดแอลซี...ไปยังบริษัทผู้ขาย...เมื่อไม่มีการ
ซื้อขายก็ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น...ไม่ว่าในส่วน
ของผู้จัดทำงบประมาณ คือ กระทรวงมหาดไทย
หรือผู้ใช้อย่างกรุงเทพมหานคร
แต่เพราะ...มีการย้อนไปเปิดแอลซีใหม่...ทำให้
เกิดการซื้อขายเกิดขึ้น...ข้อกล่าวหาว่าขบวนการจัด
ซื้อจัดหาไม่ถูกต้อง...จึงปรากฏออกมาใหม่...และผู้
ทำให้...การซื้อขายสำเร็จ...กลายเป็น...
อภิรักษ์ โกษะโยธิน...ซึ่งเชื่อกันว่า...เนื้อไม่
ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแขวนคอ
และจนถึงวันนี้...รถดับเพลิงที่จ่ายเงินซื้อมาแล้วนั้น
ก็จอดทิ้งรอการผุพังและสร้างค่าใช้จ่ายอยู่ตาม
โกดังท่าเรือ
เพราะ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ไม่กล้านำออกมาใช้
คดีจึงกลายเป็นบูมเมอแรงที่แกว่งเข้ามา
หาผู้ขว้าง...คำว่าเถยจิตจึงปรากฏขึ้นมา...เพื่อ
เป็น “วีซ่า” ให้ผู้ถูกกล่าวหา...เดินเข้ามาสู่แผ่นดิน
แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง...เถยจิตจึงจะเป็น
ยากันสี...ทำให้สีดำ สีเทา กลายเป็นสีขาว...
อำนาจเป็นของท่าน ใช้กันตามสบายเถิดครับ
● พญาไม้ ●
พญาไม้ทูเดย์ - พญาไม้ทูเดย์