แม้ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จังหวัดเชียงรายของพรรคชาติไทยจะได้ขอถอนคำร้อง คัดค้านผลการเลือกตั้ง ที่กล่าวหานายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส. สัดส่วนของพรรคพลังประชาชน ว่ากระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งไปแล้วก็ตาม แต่มีปัญหาว่า กกต.จะอนุญาตให้ถอนได้หรือไม่? และการถอนคำร้องจะมีผลกระทบต่อการพิจารณา วินิจฉัยของ กกต.หรือไม่?
ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยคนนี้เป็นคนแรกที่ร้องเรียนต่อ กกต.กลาง กล่าวหาว่า รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนทุจริตการเลือกตั้ง และได้ขอให้ กกต.ตรวจสอบกำนันกว่า 10 คน ที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ก่อนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม และ กกต.ก็ได้ทำการ สืบสวนสอบสวนมีผลคืบหน้าไปตามสมควร มีเสียงวิจารณ์ว่ากรณีนี้อาจมีการให้ใบแดง และมีผลกระทบถึงยุบพรรค
เหตุผลในการถอนคำร้อง ผู้สมัครส.ส.พรรคชาติไทยอ้างแต่เพียงว่า “เพื่อแสดงสปิริต ทางการเมือง” และไม่มีแรงกดดันทาง การเมืองใดๆ สปิริตทางการเมืองในที่นี้อาจหมายความ ว่าเมื่อพรรคชาติไทยตกลงที่จะเข้าร่วมรัฐบาล กับพรรคพลังประชาชน แล้วก็ควรจับมือกัน และการถอนคำร้องหมายความว่าให้เลิกแล้วต่อกัน ที่ผ่านๆมาเป็นเพียง การกล่าวหาลอยๆ
ถ้าหากการถอนคำร้องหมาย ความว่า นายยงยุทธไม่เคยทำผิดใดๆ การกล่าวหา เป็นเพียงการกล่าวร้ายป้ายสีทางการเมือง ผู้ถอนคำร้องก็จะต้องเสี่ยงต่อการถูกกล่าวหาว่ากลั่น แกล้งให้ผู้สมัครคนอื่นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือโดนใบแดง ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และยังมีโทษปรับอีกต่างหาก
ส่วนผลกระทบต่อการพิจารณาวินิจฉัย เพื่อจะให้ใบแดง ใบเหลือง หรือยกคำร้องของ กกต. เจ้าหน้าที่ กกต.เชียงราย เห็นว่าการถอนคำร้องไม่น่าจะมีผล เพราะเรื่องอยู่ในขั้นตอน การสอบสวนของ กกต. กลางแล้ว และมีหลักฐานหลายด้าน อันที่จริงคดีทุจริต การเลือกตั้งถึงจะไม่มีโจทก์เป็นผู้ฟ้อง กกต.ก็มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดได้ ถ้า “มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า...” มีการทำผิด
ในกรณีนี้ ถ้า กกต.ยกคำร้อง หลังจากที่ผู้ร้องได้ถอนคำร้องและให้ใบขาวแก่ผู้ที่ถูกกล่าวหา กกต.ก็จะถูกสังคมวิพากษ์ วิจารณ์ในทางลบ และอาจถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ซึ่งเป็นความผิด ทางอาญา และเป็นข้อกล่าวหาที่กรรมการองค์กรอิสระต่างๆ เคยโดนฟ้อง และต้องคำพิพากษา ให้จำคุกมาแล้วหลายคน
การถอนคำร้องเป็นสิทธิของผู้ร้อง ส่วนประชาชนทั่วไปก็จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป หลังการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ระหว่างพรรคพลังประชาชนกับพรรคชาติไทย จะมีการกระทำ ในลักษณะซูเอี๋ยกันอีกหรือไม่? จะจับมือกันออกกฎหมายนิรโทษ-กรรมให้ใครหรือไม่? หรือจะมีการออกกฎหมายลบล้างความผิดให้ใครหรือไม่? จะกระทำเพื่อประโยชน์ ส่วนตัวหรือประโยชน์ส่วนรวม?
บทบรรณาธิการ