ที่มา Thai E-News
โดย จิตร พลจันทร์
ที่มา คอลัมน์ “คมความคิด จิตร พลจันทร์” นิตยสารVoice of Taksin" ฉบับที่ 2
งานนี้อาจจะไม่เรียกว่าเสี่ยสั่งลุย แต่เป็นซ้อสั่งเอง..อ่านมาด้วยกันถึงตรงนี้แล้วขอเป็นอกาธา คริสตี้อีกหน่อยเถอะครับ เจ้าแม่ฆาตกรรมรายนี้เขาไม่มียอมเอ่ยชื่อฆาตกรออกมาตรงๆ เป็นเด็ดขาด แต่จะเฉลยผ่านปากเนียนๆ ของปัวโรต์ หรือมิสมาร์เปิ้ล
วันนี้ขึ้นต้นยังกะนิยายนักสืบของอกาธา คริสตี้ ไม่ว่าจะสุดยอดนักสืบผู้ดีอย่างเมอร์ซิเออร์ปัวโรต์หรือชาวบ้านหัวแหลมอย่างมิสมาร์เปิ้ล สุดท้ายก็ต้องหาตัวฆาตกรในหมู่ผู้ต้องสงสัยห้าคนสิบคนให้ได้
คดียิงหัวแป๊ะลิ้ม-สนธิ ลิ้มทองกุล นักปั่นราคาธุรกิจเพื่อขายต่อ ที่กลายมาเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “อำมาตย์แค้น” จนนึกว่าควบคุมเขาได้ในกำมือ แต่กลับพบว่านอกจากจะคุมเขาไม่ได้แล้วยังถูกไล่ตัดหัวเจ็ดชั่วโคตรอีกต่างหาก ก็เข้าข่ายนี้
ตัวละครมีห้าหกคนเหมือนกัน ฆาตกรที่เราโกรธแค้นกันมาก เพราะยิงภาษาบ้าบออะไรไม่ตาย ก็แทรกอยู่ในกลุ่ม
แต่แหล่งข่าวของเรารู้สึกจะแน่กว่าคุณหญิงอกาธา เพราะเดินเรื่องไม่กี่หน้าก็โยงพล็อตได้ถึงคนขนาดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
กว่าจะตีพิมพ์บทความชิ้นนี้ เผลอๆ คุณพัชรวาทย์ วงศ์สุวรรณอาจจะกลายเป็นอดีตผู้บัญชาการฯ ไปแล้วด้วยซ้ำไป นี่ก็จ้องจะย้ายกันอยู่ชนิดนับชั่วโมง
ไม่ใช่เพราะคุณพัชรวาทย์ (ชิดชอบ) วงศ์สุวรรณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลงมือสังหารหัวหน้าม็อบเสื้อเหลืองในขณะที่ฝ่ายหลังกำลังเดินทางออกจากบ้านเมียเก็บคนหนึ่ง ถึงได้มีบอดี้การ์ดน้อยผิดปกติ เพราะเป็นภารกิจที่ทางการ กอ.รม.นวย เรียกว่า “เอาลับๆ”
แต่แกถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะเป็นเรื่องแบบที่คนเก่าๆ เขาเรียกว่า “เลือดข้นกว่าน้ำ”
คุณพัชรวาทย์จะล่วงรู้แผนฆ่าสนธิลิ้มมาก่อนหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่เมื่อเกิดเหตุแล้วไม่รู้ไม่ได้ ในฐานะนายตำรวจเบอร์หนึ่ง คุณพัชรวาทย์จะต้องสอบสวนสืบสวนให้รู้เช่นเห็นชาติ และจะต้องจับผู้ร้าย (ที่ได้รับความนิยมอยู่อย่างเกรียวกราว) ให้ได้ ถ้าจับเค้าอะไรไม่ได้เอาเลย อย่างน้อยควรเดินไปที่หน้าห้องทำงานของตัวเอง อ่านนามสกุลตัวเองเสียให้ชัดเจนแจ่มแจ๋ว แล้วอะไรมันก็จะลุกโพลงขึ้นมาในใจเอง
เพราะป้ายนั้นเขียนไว้ว่า .................. วงศ์สุวรรณ
คำเดียวก็พอถมไปแล้วล่ะครับท่านผู้บัญชาการ (หรือจะให้ซ้อมเรียกว่าท่านอดีตผู้บัญชาการเพื่อความคุ้นชินก็ได้ พวกเรายินดี)
ท่านสามารถจะเอาคำๆ นี้มาโยงกับการส่งคนสามคนออกนอกพระราชอาณาจักรได้ ไอ้ครั้นจะให้บอกกรงๆ เลยว่าที่ไหนอย่างไร ใครดูแลอยู่ที่บ้านไหน มันก็จะหลู่เกียรติตำรวจไทยเกินไปจั๊กหน่อย เอาเป็นว่าแหล่งข่าวของเราเป็นประเภทความรู้ดีมีมารยาทก็แล้วกัน
คนสามคนนี้บอกรายละเอียดได้ยิบๆ ถึงการวางแผนและการลงมือปฏิบัติการ จะให้ทำท่ายิงปืนแบบต้องกดปลายกระบอกปืนลงสุดๆ แต่ยังไงก็ไม่ถึงตัวคนที่หลบอยู่ก็ยังได้
นี่ถ้าทางผู้ถูกยิงไม่ไหวตัวมาก่อนบ้างและไม่ยิงตอบโต้ ป่านนี้ก็คงจะถอยรถปิ๊คอัพคันที่มือปืนนั่งมาให้ประชิดรถของคุณลิ้มและกดยิงลงมาจากที่สูงให้เรียบร้อยโรงเรียนเจ๊ไปแล้ว
อ้าว ดันไปพูดว่า เจ๊ โน่น แหล่งข่าวของเราความรู้ดีมีมารยาท แต่ขาดความสำรวมปาก หรือจะเรียกว่าเป็นโรคปากเปื่อยก็ว่าได้ ทำให้เท้าที่ไม่เปื่อยปลิวไสวมาทีเดียว
ตอนนี้คนที่วางแผนมาอย่างดี ตั้งใจจะเอาผลงานใส่พานให้สวยเลยนั้น กำลังปวดกบาลเพราะดันยิงเขาแล้วไม่ตาย เขาก็เลยลุกขึ้นมาป้องกันตัวเองด้วยแผนอารักขา ๖ ชั้น แถมเตรียมแฉโพยอย่างไม่ต้องเว้นระดับชั้นอีกต่างหาก ผู้คนก็ถามกันให้ควัก พูดทำนองว่าเรื่องนี้ “รัฐมนตรีโสด” ทำให้ใครเขาก็รู้อยู่ แต่ทำโดยถามก่อนแล้วหรือไม่คือสิ่งที่เขาอยากรู้
อายุความเรื่องนี้ ๒๐ ปี เพราะฉะนั้นเพลย์บอย (ไม่) หนุ่มของเราก็เดือดเนื้อร้อนใจ เพราะจะครองตำแหน่งหรูหรานี้ไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ กลัวว่าก้าวลงเมื่อไหร่แล้วจะถูกดัดหลัง หากผู้บงการเขาเกิดเหนื่อยล้าขึ้นมาและคร้านที่จะปกป้อง ตัดเชือกให้กลายสภาพจากคนอวบๆ กลายเป็นแพะอ้วนๆ ไปในตอนแก่จะเข้าโลง
๒๐ ปีนี่หมายความว่าเขาเอามาใช้กดศีรษะหรือไล่ล่าได้จนกระทั่งเจ้าตัวเกือบเก้าสิบเลยนะครับท่านเพลย์บอย
ท่านเพลย์บอยแกก็เลยลำบากยุ่งยากใจ ถ้าเป็นช่วงก่อน ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ หรือวันปีใหม่ของปีเดียวกันนั้นแกจะไม่ทุกข์ใจอะไรเลย เพราะโรค “กลัวทักษิณ” กำลังแพร่ระบาดไปทั่วประเทศไทยและในอีกหลายประเทศทั่วโลกในขณะนั้น หมูหมากาไก่ที่ไหนก็ยินดีเข้าร่วมขบวนการกำจัดทักษิณกันหมด เรียกว่าเป็นเวลาที่หาเพื่อนไม่ยาก
แต่มาวันนี้รัฐมนตรีผู้อวบอ้วนและมีวิสัยเป็นเพลย์บอยของเรารู้ดีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันเปี๊ยนไป๋แล้ว เพื่อนหาไม่ได้ แถมคนที่เป็นน้องอาจจะหาเงาหัวมาช่วยบังตัวเองให้พ้นภัยไม่ได้อีกต่างหาก คนที่เป็น “นาย” เขาก็ทำแบ๊ะๆ ถ้าสำเร็จและเนียนดีล่ะก็ร่วมด้วยช่วย ๒ บาท แต่ถ้ากระโตกกระตากขึ้นมาก็ถือว่าทำการกุศลตามอำเภอน้ำใจก็แล้วกันนะจ๊ะ
พวกนี้ไม่อ่านหนังสือประวัติศาสตร์เสียบ้าง เขาใช้คนแบบเอาเข้าปากไปเคี้ยวๆ และถุยทิ้งมาไม่รู้เท่าไหร่แล้วตั้งแต่ยึดอำนาจคืนมาได้จากนายปรีดี แล้ว ฯพณฯ เพลย์บอยหัวหลิมไปคิดว่าตัวเองพิเศษหรือวิเศษมาจากไหนจึงจะฆ่าไม่ตายขายไม่ขาด ถลำตัวไปเที่ยวหาปืนหากระสุนอะไรวุ่นวายมาจนบัดนี้
น้องชายนอกไส้อีกคนหนึ่ง คนที่เขาสีเขียวสี่ดาวนั่นก็อย่าไปหวังเขาเลยนะครับ เขาเตรียมให้การเต็มที่อยู่แล้ว โดยจะทำตัวเป็นผู้ใจกว้างสุดขีดไม่เก็บความดีอะไรไว้กับตัวเองเลย เขาจะบอกว่าทั้งหมดก็ของท่านเพลย์บอย โดยท่านเพลย์บอย และเพื่อท่านเพลย์บอยโดยแท้ ท่านจะตะโกนจนสุดเสียงว่าอั๊วทำให้ซ้อก็จะไม่มีใครฟัง เขาอาจจะลงดาบสองเร็วขึ้นก็เท่านั้นเอง
งานนี้อาจจะไม่เรียกว่าเสี่ยสั่งลุย แต่เป็นซ้อสั่งเอง
อ่านมาด้วยกันถึงตรงนี้แล้วขอเป็นอกาธา คริสตี้อีกหน่อยเถอะครับ เจ้าแม่ฆาตกรรมรายนี้เขาไม่มียอมเอ่ยชื่อฆาตกรออกมาตรงๆ เป็นเด็ดขาด แต่จะเฉลยผ่านปากเนียนๆ ของปัวโรต์หรือมิสมาร์เปิ้ล จะให้เอ่ยว่าใผเป็นใผคงจะผิดผี
ปัญหาเดียวในขณะนี้คือ คดีเพลย์บอยแพะอ้วน หรือคดีกล้ายางของเทพบุตรสุดหล่อชาวบุรีรัมย์ที่จะรู้ดำรู้แดงกันในวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๒ นี้ คดีไหนจะปรากฏผลขึ้นก่อนกันเท่านั้น
เรื่องนี้น่าลุ้น แต่ทายยากเป็นบ้า
บอกได้แต่ว่าคดีหลังนี้เตรียมการดีกว่าคดีแรกมาก รายแรกได้แค่ส่งลูกน้องมาเก็บซุ่มกลัวจะเปิดปาก แผนการเกี่ยวกับตัวเองยังงงๆ อยู่ว่าจะถูกหักหลังถึงขั้นต้องหนีหรือไม่ แต่รายหลังนี่ผู้ปกครองซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าอุตส่าห์ลากสังขารเดินทางไกลมาจ่ายแป๊ะเจี๊ยะไว้กับโรงเรียนข้างบ้านเรียบร้อยไปแล้ว จวนตัวเมื่อไหร่กระโดดเข้าโรงเรียนภาคฤดูฝนทันที
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่กฎแห่งกรรมของ ท.เลียงพิบูลย์ หรอกนะครับ เขาเรียกว่าวิถีโจร มาอย่างโจรก็ต้องไปอย่างโจรเท่านั้นเอง
เป็นธรรมดาของตัวเงินตัวทองที่ไม่ได้มาจากไข่หงษ์