ที่มา มติชนออนไลน์ พท.ร้องป.ป.ช.สอบ"ชวรัตน์"ขัดกม. เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีระกูล รมว.มหาดไทย มีคำสั่งให้นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ออกคำสั่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทั่วประเทศ จัดตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการถอดถอนรายชื่อที่เคยลงไว้ในการถวายฎีกา ซึ่งถือเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และถือเป็นการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือไม่ เพราะคำว่าฎีกานั้น มีความหมายถึงคำร้องทุกข์ที่ราษฎรสามารถทูลเกล้าฯถวายต่อพระมหากษัตริย์ และตามรัฐธรรมนูญมาตรา 191 บัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ
"จตุพร"ไม่สนตั้งโต๊ะคัดค้าน ลั่นเดินหน้าล่าชื่ออีกชุดหนุนยื่น"ถวายฎีกา" ถือเป็นตัวตัดสิน มั่นใจรวมแล้วยอดเหยียบ 10 ล้านคน โวยใช้งบ ประมาณทำสื่อโจมตีเสื้อแดง เพื่อไทยยื่นป.ป.ช.สอบ"ชวรัตน์" อ้างขัดม.157 จวกมท.ทำเกินหน้าที่บ้านเมืองแตกแยก
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นถือว่าการดำเนินการของประชาชนที่อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ และเมื่อรัฐบาลออกมาต่อต้าน จะกลายเป็นการขัดขวางการใช้พระราชอำนาจของพระองค์ได้ อีกทั้งทำให้ประชาชนเกิดความแตกแยกกันมากขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ประชาชนดำเนินการไปตามขั้นตอน สุดท้ายเมื่อทูลเกล้าฯถวายฎีกาไปแล้วก็เป็นเรื่องที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งทุกฝ่ายต้องน้อมรับ
"วันนี้กระทรวงมหาดไทยทำเกินหน้าที่ และทำให้บ้านเมืองมีความแตกแยก เพราะมีการให้จังหวัดตั้งโต๊ะให้ประชาชนลงชื่อ โดยที่ประชาชนไม่รู้ว่าเป็นการนำมาถอนฎีกา จึงอยากให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพราะผมยอมรับว่าประชาชนหนึ่งเสียงไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไรเราต้องฟัง เสียงของแมลงสักหนึ่งเสียงที่อยู่ข้างหูเราๆต้องฟัง แต่วันนี้ประชาชนเกือบ 6 ล้านรายชื่อที่มีเสียงตามรัฐธรรมนูญสามารถดำเนินการไปได้" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
"เสื้อแดง"เดินหน้าล่าชื่อหนุนฎีกา
ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรค พท. และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมว่า เหตุผลที่คนเสื้อแดงต้องลงชื่อสนับสนุนการถวายฎีกา เพราะที่ผ่านมามีการสั่งการให้จังหวัดกดดันให้ประชาชนถอนชื่อ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องเปลี่ยนมาเป็นการลงชื่อเพื่อคัดค้านการถวายฎีกาแทน ดังนั้นจากวันนี้จนถึงวันที่ 17 สิงหาคม ที่คนเสื้อแดงจะนำใบฎีกายื่นต่อสำนักพระราชวัง คนเสื้อแดงจะรวบรวมรายชื่อประชาชนอีกครั้งหนึ่ง โดยประชาชนที่ต้องการลงชื่อสนับสนุนการถวายฎีกา ต้องไม่เป็นผู้ที่เคยลงชื่อถวายฎีกามาก่อน การรวบรวมรายชื่อสนับสนุนครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่างผู้ที่สนับสนุนและคัดค้านการถวายฎีกา คาดว่าจะมีประชาชนร่วมลงชื่อสนับสนุนจำนวนมาก หากรวมกับยอดที่ลงชื่อถวายฎีกาไปแล้ว จะมีถึง 10 ล้านคน
นายจตุพร กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องขอความร่วมมือให้ส.ส.พรรค พท.ช่วยรวบรวมรายชื่อให้ เพราะประชาชนที่ต้องการสนับสนุนการถวายฎีกาจะมาหาส.ส.เอง เพราะคนเหล่านั้นถูกบีบบังคับจากจังหวัดและอำเภอให้ลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา
ปูดใช้งบฯ รัฐทำสื่อโจมตีเสื้อแดง
"ขณะนี้มีการใช้งบประมาณรัฐจัดทำหนังสือโจมตีแกนนำเสื้อแดง ด้วยถ้อยคำที่เป็นเท็จ พิมพ์โดยโรงพิมพ์กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ขอเตือนบรรดาข้าราชการทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ท่านเชิญหาความสำราญกันให้สบาย แต่ถ้าเรากลับไปเมื่อไหร่คุณโดนแน่" นายจตุพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่กำหนดถวายฎีกาวันที่ 17 สิงหาคม เพราะตั้งใจกดดันศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะตัดสินคดีกล้ายางของนายเนวิน ชิดชอบ หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจให้ตรงกัน แต่ที่กำหนดวันที่ 17 สิงหาคม เพราะกระบวนการตรวจสอบเอกสารจะแล้วเสร็จวันที่ 15 สิงหาคมซึ่งเป็นวันเสาร์ วันที่ 16 สิงหาคม เป็นวันอาทิตย์ก็ยื่นไม่ได้ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมถวายฎีกาไม่น้อยกว่า 3-4 แสนคน หลังถวายฎีกาจะแยกย้ายกันกลับ จะไม่มีการชุมนุมต่อ
"ล่าสุดผมเห็นข่าวพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีต ผบ.สส.ออกมาให้สัมภาษณ์การถวายฎีกาอาจนำไปสู่การปฏิวัติ ซึ่งใครอยากปฏิวัติอีกก็เชิญ แต่คนเสื้อแดงจะต่อสู้ โดยคนเสื้อแดงเป็นแค่เหยื่อ แต่ความจริงคืออดีต คมช.แตกกันเอง" นายจตุพรกล่าว