ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา ห้องรัชดา พันทิป
6 สิงหาคม 2552
วันที่ 6 สิงหาคม 6 พรรคร่วมรัฐบาล แถลงผลงานรอบ 6 เดือน เป็นรหัสสัญญาณ"666" ซึ่งบรรดาผู้คนที่เชื่อในเรื่องลึกลับถือกันว่าเป็นรหัสที่ซาตานผู้ต่อต้านพระเจ้าจะมีพลังอำนาจออกมายึดครองโลกให้ตกอยู่ใต้อาณัติสัญญาณของมัน ดังนั้นต้องรวมพลังกันปราบซาตานชั่วร้ายในวันนี้ด้วยเช่นกัน
"แหม๊!เดิมว่าจะแถลงวันที่3สิงหาคม ทำไมต้องเลื่อนมาแถลงฤกษ์ซาตานด้วยก็ไม่รู้"กนก รัตน์วงศ์สกุล สื่อกองเชียร์รายสำคัญของรัฐบาลออกอาการหัวเสีย ส่วนคู่หูนรกเนชั่นคือธีระ ธัญวงศ์ไพบูลย์ได้แค่ขานรับว่า"ก็นั่นหนะสิ"ในการจัดรายการทางเนชั่นทีวีช่วงสายวันนี้
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรหัส666 ว่า ในฐานะที่ผมเรียนที่ต่างประเทศมานาน 12 ปี ก็เข้าใจวัฒนธรรมของฝรั่งในเรื่องความเชื่อรหัส 666 เป็นอย่างมาก เพราะถือกันว่าเป็นรหัสของซาตานที่จะกลับมาครองโลกจึงต้องช่วยกันกำจัด ซึ่งตามตำนานของชาวตะวันตกบอกว่าซาตานพยายามจะมาทำลายพระเจ้าเพื่อที่จะเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ ซึ่งจะทำให้โลกถูกความชั่วครอบครอง และความดีจะสูญสิ้น
"ดังนั้นการที่วันแถลงผลงานมาตรงกับเลข 666 เพื่อสะท้อนว่าเราพยายามจะกำจัดและต่อสู่ก้บความชั่วร้าย และเราก็หวังว่าจะชนะเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า"นายปณิธาน กล่าว
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า ไม่กลัวกับรหัสดังกล่าวเพราะมีพระปราบมารอยู่แล้ว
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจให้กำหนดการแถลงผลงานตรงกับรหัสซาตาน แต่ในเมื่อมันตรงกันก็ดีเพราะจะตรงกับชื่อหนังจะได้ดังเหมือนหนัง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดระบอบอำมาตย์ที่ขึ้นสู่ตำแหน่งโดยไร้ความชอบธรรมได้ร่วมกับ6พรรคร่วมรัฐบาลแถลงผลงานในรอบ 6 เดือน อ้างถึงความสำเร็จหลายด้าน ทั้งเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศที่กลับมาจากที่เคยระส่ำระสาย และการฟื้นฟูเศราฐกิจ
สื่อมวลชนได้ถามว่า ขณะที่รัฐบาลแถลงผลงานความสำเร็จ6เดือนแต่มีคนประท้วงรัฐบาล แสดงว่าความเดือดร้อนยังไม่หมดใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า การประท้วงก็คงมีกันไม่จบหรอก แต่มาประท้วงเราก็รับฟัง และให้สิทธิแสดงออก ผมคิดว่าปัญหาก็ต้องมีคู่กับประเทศไทย
ส่วนการตามตัวดำเนินคดีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นเรื่องยากที่จะตามตัวเมื่อไปอยู่ในต่างประเทศ เพราะต้องประสานงานกับระดับสากล
ไม่ว่าการออกมาแถลงนโยบายครั้งนี้จะเป็นฤกษ์ซาตานหรือไม่ แต่ก็น่าสนใจที่ว่า แม้แต่ชาวกรุงชนชั้นกลางมีเก๋งขับที่เคยโอบอุ้มเป็นกองเชียร์ให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ก็หันกลับมาเป็นเดือดเป็นแค้นรัฐบาล6พรรคอย่างแรง ถึงขั้นประกาศว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่ลงคะแนนให้แล้ว
เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์แหลลงตับว่าเข้ามาเป็นรัฐบาลจะเสกให้น้ำมันถูกลงภายใน 99 วัน ดันกลายเป็นคนละเรื่องกันไปเลย กลายเป็นเรื่องชาวกรุงชนชั้นกลางกำลังปวดตับอย่างแรง หน็อย!ดันมาแหกตาให้คนฉลาดอย่างพวกเราเสียค่าโง่อื้อซ่า แบบนี้มันรับไม่ได้
ปมสำคัญของชาวกรุงชนชั้นกลางมีรถเก๋งขับ บ้านมีรั้วถือเป็นปมเขื่องของตัวเองก็คือ พวกตัวเป็นคนฉลาดหลักแหลมรู้ทันคน
ภูมิใจว่าตัวเองเจ๋ง ใครหลอกไม่ได้ แถมหมิ่นแคลนรากหญ้าคนบ้านนอกว่าโง่เง่าไม่รู้เท่าทัน เลยโดนทักษิณหลอก
แต่ไปๆมาๆเวลานี้ชนชั้นกลางชาวกรุงมีเก๋งขับที่เคยสมหวังกับการเป็นกองเชียร์มาร์คขึ้นมาเป็นนายกฯก็ต้องถึงคราวตีอกชกหัวตัวเองเข้าให้ว่า แท้ที่จริงพวกเราต่างหากที่โง่กว่าชาวรากหญ้า
เพราะชาวรากหญ้าที่เขาเป็นกองเชียร์ทักษิณนั้นยังจับต้องได้ในสิ่งที่ทักษิณโฆษณานโยบายไว้ ไม่ว่าจะเป็น30บาทรักษาทุกโรค,กองทุนหมู่บ้านละล้าน,โอท็อปฯลฯ แต่คนกรุงเทพที่เป็นกองเชียร์นายมาร์คจับต้องได้แต่พระเอกลิเกหน้านวลลอยหน้าลอยตาไปวันๆ
กว่าจะรู้ทันก็โดนนายมาร์คล้วงกระเป๋าตังค์ไปซะเกลี้ยงในเวลาขับรถไปเติมน้ำมัน ตื่นมาเช้าวันนี้ขึ้นอีกแล้ว80ตังค์ อย่างแก๊สโซฮอลล์91ที่ว่าถูกสุดยังพุ่งทะลุ30บาทต่อลิตรเข้าไปแล้ว
ปัญหาราคาน้ำมันแพง กลายเป็นเรื่องที่ชนชั้นกลางในเมืองกำลังเป็นเดือดเป็นแค้นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเวลานี้ โดยเฉพาะเพิ่งมารู้เอาว่าโดนรัฐบาลนี้แหกตา
เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์แหลลงตับว่าเข้ามาเป็นรัฐบาลจะเสกให้น้ำมันถูกลงภายใน 99 วัน ดันกลายเป็นคนละเรื่องกันไปเลย วันนี้โดนอีก80ตังค์ต่อลิตร กลายเป็นเรื่องชาวกรุงชนชั้นกลางกำลังปวดตับอย่างแรง หน็อย!ดันมาแหกตาให้คนฉลาดอย่างพวกเราเสียค่าโง่อื้อซ่า แบบนี้มันรับไม่ได้
เพราะพรรคประชาธิปัตย์เคยหาเสียงกับคนในเมืองที่ใช้รถใช้น้ำมันว่าหากเข้ามาเป็นรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงได้ภายใน 99 วัน ตอนนี้ผ่านไป 6 เดือน ปรากฏว่ารัฐบาลเป็นต้นเหตุขึ้นน้ำมันแพงหูฉี่ซะเอง
ชนชั้นกลางคนมีรถเก๋งขับเลยเข้าไปตั้งกระทู้ในห้องรัชดา พันทิปในหัวข้อเรื่อง”ตาสว่างเลย น้ำมันแพงเพราะอย่างนี้นี่เอง” และกลายเป็นกระทู้ยอดนิยม คนเข้ามาด่ารัฐบาลจมหู
คนที่ตั้งกระทู้นี้ได้หยิบยกบทความของ”แม่ลูกจันทร์”ในไทยรัฐมานำเสนอดังต่อไปนี้
“ปัญหาจากราคาน้ำมันแพงกลายเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายพุ่งเป้าโจมตีไปที่ ปตท. ข้อหาคือ ปตท.กำหนดราคาขายปลีกน้ำมันสูงเพื่อสร้างผลกำไร การอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ ทำให้ ราคาน้ำมันเมืองไทยแพงเกินควร
กลายเป็น ปตท.เป็นต้นเหตุที่ราคาน้ำมันแพง
ในขณะที่นักการเมือง ทั้งรัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีพลังงานหุบปากเงียบ ไม่ออกมาชี้แจงต้นเหตุที่แท้จริง
ทั้งๆที่ในความเป็นจริง รัฐบาลนั่นแหละคือตัวการที่ทำให้น้ำมันแพง ตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมันขายปลีกลิตรละ 30 บาท รัฐบาลหักค่าต๋งไปเนื้อๆเนตๆ 15 บาทโดยประมาณ
เพราะน้ำมันหนึ่งลิตร ต้องบวกภาษีสรรพสามิต 7 บาท บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7 เปอร์เซ็นต์ บวกภาษีเทศบาล 70 สตางค์ หักเข้ากองทุนน้ำมัน 6 บาท หักเข้ากองทุนพัฒนาพลังงานอีก 1 บาท
แถมขายปลีกหน้าปั๊มยังเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มซ้ำอีก 7 เปอร์เซ็นต์!!
รวมเบ็ดเสร็จ น้ำมันทุกลิตรเป็นต้นทุนจริง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นรายได้รัฐบาลอีก 50 เปอร์เซ็นต์
ยิ่งราคาน้ำมันแพงเท่าไหร่ รายได้ของรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นไปด้วยในสัดส่วนเท่ากัน
พูดชัดๆคือ น้ำมันลิตรละ 30 บาท เป็นราคาน้ำมันจริงๆลิตรละ 15 บาท อีก 15 บาท เป็นค่าต๋งไหลเข้ากระเป๋ารัฐบาล
หรือพูดให้ชัดยิ่งขึ้นอีกคือ ราคาน้ำมันดิบ บวกค่าขนส่ง บวกค่ากลั่น บวกค่าการตลาด รวมเบ็ดเสร็จลิตรละ 15 บาทเท่านั้นเอง
ก็เพราะยังงี้ไง ราคาน้ำมันขายปลีกเมืองไทยถึงต้องแพงกว่าสิงคโปร์ ทำให้คนไทยต้องใช้น้ำมันแพงเกินจริงไปถึงเท่าตัว
นี่คือความจริงนอกจอที่นักการเมืองไม่ยอมบอกประชาชน
แต่ที่แสบริดสีดวงยิ่งกว่าคือ พรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไว้ในแผน 99 วัน ทำได้จริง ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจะเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทันที
และจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงเห็นผลทันตา
นอกจากไม่ทำตามสัญญา ยังขึ้นภาษีน้ำมันซะจั๋งหนับบุเรงนอง”
..............
พอมีคนนำเอามาแฉดังนี้ คนขับรถเก๋งที่เข้ามาเล่นอินเตอร์เน็ตในเวบไซต์ยอดนิยมพันทิป ก็เลยพากันรุมด่ารัฐบาลหูแฉะ ท่านใดอยากแจมก็เชิญที่กระทู้นี้http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V8158342/V8158342.html
ที่หนักไปกว่านั้นคือมีการตั้งกระทู้ด่ารัฐบาลอีกอันในห้องรัชดา เวบพันทิป ซึ่งถือว่าเป็นเสมือนกับชุมชนของชนชั้นกลางที่มีรถเก๋งขับ เป็นตัวแทนของคนในเมือง หรือชาวกรุงที่ตั้งหัวข้อกระทู้เรื่อง”รัฐบาล..ตอนน้ำมันดิบโลกลง10ดอลลาร์ มันลดค้าปลีก40ตังค์ พอน้ำมันดิบโลกขึ้น5ดอลลาร์ มันขึ้น80ส.ต.”(ดูกระทู้ที่ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V8123272/V8123272.html)
เนื้อหาของกระทู้บอกว่า
“เป็นไงล่ะ รัฐบาลเทพประทาน ใครจะมาแถว่าให้ดู ตลาดโน้น ตลาดนี้ ก็เข้ามาเลยครับ รัฐบาลถังแตก มาขูดรีด กับ ภาษีสรรพสามิต เลือกตั้งครั้งหน้า ยังจะเลือกพวกมันอีกไหม?”
คำตอบก็อย่างที่พอเดากันได้ คือมีการด่าประณามรัฐบาลอภิสิทธิ์กันเต็มที่ และหัวข้อใหญ่ที่ชาวกรุงคนขี่เก๋งทนไม่ได้ก็คือเรื่องที่ถูกพรรคประชาธิปัตย์แหกตาว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะทำให้น้ำมันถูกลงภายใน 99 วัน โดยการยกเลิกส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าเวลานี้โพลล์ไหนสำรวจคนกรุงว่าคะแนนนิยมต่อรัฐบาลเป็นอย่างไร ผลก็ออกมาว่าสอบตกกันทุกที
ขืนยังให้รัฐบาลอภิสิทธิ์สอบผ่านก็เสียชื่อชาวกรุง คนขี่เก๋งกันหมดพอดี แต่ก่อนชอบพูดนักว่าตัวเองฉลาดหลักแหลมรู้ทันทักษิณ มีแต่พวกบ้านนอกโดนทักษิณหลอก แต่คนกรุงฉลาดเลยเลือกประชาธิปัตย์...
ครับ คนเราพลาดกันได้ เสียรู้นายอภิสิทธิ์กับพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาถือว่าเพราะ”รู้ไม่ทันมาร์ค” แต่หากรู้ทันแล้วยังไปเลือกมาเป็นรัฐบาล หรือถือหางกันต่อไป
คนไทยเขาเรียกว่า “โง่”นะครับท่านชนชั้นกลางชาวกรุงขี่เก๋งทั้งหลาย อันนี้รากหญ้าคนบ้านนอก เขาฝากบอกมา