WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, August 5, 2009

แนะลากคอมาร์ค-เทือกเข้าคุกฐานละเว้นจับผู้ก่อการร้ายยึดสนามบิน

ที่มา Thai E-News



แนะทนายเสื้อแดงลุยเอามาร์ค,เทือกเข้าคุกฐานละเว้นจับโจรยึดสนามบิน

ประชาชนที่ติดตามคดีผู้ก่อการร้ายพันธมิตรยึดสนามบินได้เรียกร้องให้มีการแจ้งดำเนินคดีฐานละเว้นหน้าที่ต่อนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และหัวหน้าชุดดำเนินคดียึดสนามบินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ฐานละเว้นต่อหน้าที่ ไม่ออกหมายจับผู้ก่อการร้ายพันธมิตร หลังจากออกหมายเรียกให้มารายงานตัวเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับมีการยกพวกไปม็อบกดดันจนตำรวจต้องล่าถอยเพื่อไปประชุมถอนข้อหาก่อการร้ายให้

"ผมเห็นเงียบไปเลย หลังจากพล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส เจ้าของคดีชมว่าเป็นผู้ก่อการดี พันธมิตรก็ไล่กลับให้ไปเปลี่ยนข้อหา ตำรวจก็ดันบ้าจี้จะไปเปลี่ยนข้อกล่าวหาให้พวกมัน ตามกฎหมายแล้วให้เกียรติกันออกหมายเรียก ตามขั้นตอนเมื่อออกหมายเรียกแล้วไม่มารายงานตัว(แต่เสือกมาม็อบกดดันตร.แทน)ขั้นตอนต่อไปก็ต้องออกหมายจับไม่ใช่เหรอ"คือข้อความในกระทู้ที่บอร์ดประชาไท

พร้อมกับได้เสนอให้ทีมทนายของเสื้อแดง หรือพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งสัมมนาไปวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า หากตำรวจไม่ดำเนินการตามกฎหมายคือออกหมายจับผู้ก่อการร้าย แต่จะไปเปลี่ยนข้อหาโดยถอดข้อหาก่อการร้ายออก ก็ต้องแอ็คชั่นด้วยการแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดนายกรัฐมนตรี รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงที่คุมตำรวจคือสุเทพ เทือกสุบรรณ และพล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส หัวหน้าชุดดำเนินคดียึดสนามบิน

ทั้งนี้กฎหมายอาญากำหนดไว้ว่า “มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”

พงศ์เทพหยันให้ตร.ออกหมายกราบขอความเมตตาโจรก่อการร้าย

มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ได้จัดงานเสวนาเรื่อง "ผู้ก่อการร้าย-ผู้ก่อการดี กรณียึดสนามบินสุวรรณภูมิ"เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(2ส.ค.) มีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษามูลนิธิ 111 ไทยรักไทย และโฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

โดย นายพงศ์เทพ กล่าวว่า การยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรถือเป็นการสร้างความหายนะให้กับประเทศกว่าแสน ล้านบาท เป็นการกระทำที่ถือว่าประทุษร้ายต่อร่างกาย จิตใจ รวมถึงเสรีภาพ ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบขนส่งและระบบโทรคมนาคม การกระทำเช่นนี้ถือว่าทำผิดกฎหมายหลายมาตรา แต่ความผิดที่ชัดเจนที่สุดคือการก่อการร้าย โดยโทษหนักที่สุดถึงขั้นประหารชีวิต

"ที่ผ่านมายังไม่เคยมีคนเลวคนไหน หรือคนเลวกลุ่มใด ที่เพียงแค่สิบวัน ทำประเทศเสียหายไปกว่าแสนล้านบาท ผมอยากเตือนว่า ความผิดในครั้งนั้นไม่ได้เป็นความผิดเฉพาะกลุ่มแกนนำเท่านั้น แต่ผู้ที่เข้าร่วมทั้งหมดที่มีกว่าหมื่นคนจะมีความผิดเช่นเดียวกัน โทษฐานที่เป็นตัวการการก่อการร้ายด้วย แต่เรื่องนี้ตำรวจคงไม่ต้องออกหมายเรียก แต่ต้องออกหมายกราบขอความเมตตาให้มารายงานตัวแทน เพราะมิเช่นนั้นอาจจะถูกกดดันอีก และเรื่องนี้ทำให้สังคมไทยเกิดความผิดเพี้ยนมาก" นายพงษ์เทพกล่าว

เหวงยันโจรก่อการร้ายจะอ้างใช้สิทธิตามรธน.มิได้

น.พ.เหวง กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มพันธมิตร เห็นได้ชัดว่ามีความผิดฐานเป็นผู้ก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 135/1 รวมทั้งผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2551 เนื่องจากมีพฤติกรรมทำให้การบินหยุดชะงัก ทำลายทรัพย์สิน ขัดขวางการจราจร หากผลสรุปออกมาว่าการใช้อาวุธยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตร เป็นก่อการดีตามที่นายตำรวจผู้ใหญ่บางคนพูด ตนก็ไม่รู้ว่าคนไทยในประเทศจะมีหน้ายืนอยู่ในสังคมโลกได้อย่างไร นอกจากนี้การอ้างว่าการชุมนุมเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ตนเห็นว่า กลุ่มพันธมิตร ไม่ควรได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว เพราะเห็นได้ชัดว่ามีทั้งอาวุธ มีเจตนาที่จะประทุษร้าย และทำให้คนในสังคมหวาดกลัว อยากให้จับตาดูการตัดสินคดีของกลุ่มพันธมิตร ว่าจะออกมาในทิศทางใด โดยอยากให้เปรียบเทียบกับคดีของกลุ่มคนเสื้อแดง ส่วนตัวเชื่อว่าอีกไม่นานคดีดังกล่าวก็จะเงียบหายไป เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มีสองมาตรฐาน

เตือนจะเป็นบรรทัดฐานให้มีการยึดสนามบินต่อรองในอนาคต

ด้านนายสงคราม กล่าวว่า คำว่าผู้ก่อการดีคือคนที่ต้องต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย ส่วนคำว่าผู้ก่อการร้าย คือการใช้ความรุนแรง คุกคาม เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์าทางการเมืองของกลุ่มบุคคล จนทำให้ประชาชนหวาดกลัว เหมือนที่กลุ่มพันธมิตร ได้กระทำการ ส่งผลทำให้ประเทศชาติเสียหายกว่าแสนล้านบาท ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ต่อการท่องเที่ยว โดยธนาคารแห่งประเทศไทยระบุตัวเลขความเสียหายไว้กว่า 2.9 แสนล้าน นอกจากนี้การก่อการร้ายครั้งนี้ไม่ใช่การก่อการร้ายธรรมดาแต่เป็นการก่อการ ร้ายสากล ทำให้ประเทศไทยต้องตกเป็นประเทศที่มีอันดับความเสี่ยงเป็นอันดับสองของ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตนเชื่อว่า หากผลสรุประบุว่าการบุกสนามบินเป็นการกระทำที่ก่อการดี ในอนาคตอาจจะมีการยึดสนามบินเพื่อใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมืองอีกอย่าง แน่นอน ทั้งนี้ระหว่างการเสวนาได้มีการนำเทปบันทึกภาพเหตุการณ์ที่กลุ่มพัน ธมิตร ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถืออาวุธมาเปิดให้ผู้ร่วมฟังเสวนาได้ชมด้วย เพื่อเป็นการยืนยันการเสวนา

ไทยอีนิวส์เปิดหลักฐานโต้หลักแถมัดคอผู้ก่อการร้ายโทษประหาร

สรุป เมื่อหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ การที่กลุ่มโจรก่อการร้ายพันธมิตรอ้างว่า พวกตนไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายในการยึดสนามบิน เพราะเป็นการชุมนุมทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญจึงฟังไม่ขึ้น เนื่องจากศาลมีคำสั่งให้ยุติการยึดสนามบินและนำมวลชนออกจากสนามบินทันที เพราะเป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และยังเป็นการกระทำผิดคำสั่งศาลอีกด้วย


การที่พันธมิตรโต้แย้งว่า การกระทำผิดของพวกตนไม่เข้าข่ายความผิดก่อการร้าย ตามกฎหมายอาญามาตรา135/1 โดยอ้างว่าเนื่องจากกฎหมายระบุยกเว้นให้"การกระทำในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง โต้แย้ง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือ หรือให้ได้รับความเป็นธรรมอันเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นการกระทำความผิดฐานก่อการร้าย(ดูรายละเอียดกฎหมายตาม ลิ้งค์ )

อย่างไรก็ดีหากย้อนไปที่เหตุการณ์พันธมิตรยึดสนามบินสุวรรณภูมิจะพบว่า ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551นั้น"ศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้พันธมิตรยกเลิกการชุมนุมยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้นการชุมนุมยึดสนามบินจึงเป็นการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญ และขัดต่อคำสั่งศาล เพราะหลังจากศาลมีคำสั่งให้ยุติการยึดสนามบินแล้ว การณ์ปรากฎว่าพันธมิตรยังคงกระทำผิดต่อมาถึงวันที่3ธันวาคม2551

ทั้งนี้ศาลแพ่งได้ไต่สวนฉุกเฉินกรณีบริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ยื่นฟ้องพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อค่ำวันที่26พฤศจิกายน2551 หลังจากการยึดสนามบินผ่านไปเกือบ2วัน โดยมีคำสั่งให้แกนนำพันธมิตรนำมวลชน ออกจากพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้แม้พันธมิตรฯ จะมีเสรีภาพในการชุมนุม แต่ไม่สามารถหน่วงเหนี่ยวเสรีภาพของบุคคลอื่น ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 34 วรรค 1

ศาลแพ่งรัชดามีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณี นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่ากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯกับ พวก รวม 13 คน ในความผิดฐานละเมิดและขับไล่ และยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกไปจากบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยศาลวิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยทั้ง 13 คนที่ทำการขับไล่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน โดยการชักนำมวลชนมาร่วมชุมนุม ปิดล้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2550 มาตรา 34วรรค 1 ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิได้ตามปกติ กรณีมีเหตุผลอันสมควรที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวพิพากษามาบังคับใช้ จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้ง 13 คน ออกไป และนำกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้พนักงานผู้ให้บริการและประชาชนทั่วไปสามารถใช้บริการได้ตามปกติในทันที

สำหรับรัฐธรรมนูญ มาตรา34วรรค1 กำหนดไว้ดังนี้ "บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการเดินทางและมีเสรีภาพในการเลือกถิ่นที่อยู่ ภายในราชอาณาจักร

การจำกัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติ แห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน การผังเมือง หรือเพื่อสวัสดิภาพของผู้เยาว์"

สรุป เมื่อหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้ การที่กลุ่มโจรก่อการร้ายพันธมิตรอ้างว่า พวกตนไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายในการยึดสนามบิน เพราะเป็นการชุมนุมทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญจึงฟังไม่ขึ้น เนื่องจากศาลมีคำสั่งแล้วว่าเป็นการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และยังเป็นการกระทำผิดคำสั่งศาลอีกด้วย

ตบเกรียนโจรก่อการร้าย ตรงไหนที่ไม่ใช่ก่อการร้าย ตรงไหนที่ว่าเว่อร์

เพื่อให้ประชาชนได้ทำความเข้าใจอย่างแท้จริง ไทยอีนิวส์จึงขอให้พิจารณาหลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อโต้กระแสทวนการแถของโจรก่อการร้ายพันธมิตรดังต่อไปนี้

Q-การตั้งข้อหาแกนนำพันธมิตรยึดสนามบินก่อการร้ายนั้นถือว่าเว่อร์เกินไป

A-เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นเว่อร์เกินไปหรือไม่ แต่เป็นเรื่องฐานความผิดที่มีหลักฐาน และมีกฎหมายเอาโทษถึงประหารชีวิต นอกจากผิดกฎหมายก่อการร้ายตามมาตรา135/1ยังผิดกฎหมายสากลอีกด้วย ดังนี้

-จะเห็นว่าการแจ้งข้อหาแกนนำพันธมิตรแบ่งเป็น2คดี คดีแรกกรณียึดสนามบินดอนเมือง ซึ่งไม่มีการแจ้งข้อหาก่อการร้าย เป็นแค่ข้อหาบุกรุก เพราะดอนเมืองเป็นสนามบินภายในประเทศ แต่อีกคดีคือสุวรรณภูมิมีข้อหาก่อการร้าย เพราะเป็นสนามบินสากล มีชาวต่างชาติได้รับผลกระทบ ที่สำคัญมีกฎหมายระหว่างประเทศบังคับไว้

-กฎหมายสากลนี้คือพิธีสารข้อตกลงมอนทรีออล ที่มีนานาชาติลงนามรับรอง ไทยลงนามรับรองไว้เมื่อ14พ.ค.2539 ความสำคัญตอนหนึ่งระบุว่า"บุคคลหนึ่งบุคคลใดกระทำความผิด ทำให้การบริการของท่าอากาศยานซึ่งให้บริการการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หยุดชะงักลง หากการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตราย ต่อความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานนั้น" เป็นการกระทำผิดตามพิธีสารเพื่อการปราบปรามการกระทำรุนแรงอันมิชอบด้วยกฎหมาย ณ ท่าอากาศยานสากลฉบับนี้

-กฎหมายที่ออกมารองรับพิธีสารฉบับนี้-เมื่อไทยลงนามแล้วก็ได้มาออกกฎหมายพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2521 (แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2538)มีใจความสำคัญว่า "ผู้ใดทำให้การให้บริการของท่าอากาศยานหยุดชะงักลง ทั้งนี้ โดยใช้กลอุปกรณ์ วัตถุ หรืออาวุธใด ๆ และการกระทำนั้นเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานนั้น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี"

-ส่วนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1เขียนไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับการก่อการร้าย ดังต่อไปนี้ (2) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ

ถ้าการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ผู้นั้นกระทำความผิดฐานก่อการร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงหนึ่งล้านบาท

เมื่อเป็นดังนี้โจรก่อการร้ายพันธมิตรจะกล่าวอ้างลอยๆว่า"เว่อร์เกินไป"ได้อยู่หรือ?

Q-แต่กฎหมายอาญา135/1ก็ยกเว้นไว้นะว่าหากเป็นการชุมนุมทางการเมืองก็ไม่เข้าข่ายฐานความผิดก่อการร้าย แบบนี้มั่วหรือเปล่า

อย่างที่อธิบายไปข้างบนแล้วว่า การกระทำของโจรก่อการร้ายพันธมิตรไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะศาลมีคำสั่งแล้วว่าฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และสั่งให้ออกจากสุวรรณภูมิทันที จึงไม่เข้าข่ายต้องยกเว้นให้แต่อย่างใด แถมเป็นการทำผิดคำสั่งศาลอีกต่างหาก

Q-แต่ก็ยังเว่อร์เกินกว่าเหตุ

A-จะว่าเกินกว่าเหตุได้อย่างไร เพราะการก่อการร้ายดังกล่าวมีผลให้ผู้โดยสารต่างชาติตกค้างอยู่ในไทยนานนับสัปดาห์กว่า 4 แสนคน รวมทั้งมกุฎราชกุมารราชอาณาจักรเดนมาร์คที่มาเยือนไทยเป็นอาคันตุกะส่วนพระองค์ของในหลวง ในช่วงนั้นก็ต้องตกค้าง มีคนที่เดินทางเข้าประเทศไม่ได้หลายแสนคน

-ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานประเทศชาติเสียหายด้านต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม 270,000 ล้านบาท

-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่าอากาศยานฯ การบินไทย สายการบินต่างชาติได้เรียกร้องขอให้รัฐบาลชดเชยความเสียหายให้มากกว่า 19,000 ล้านบาท ที่เป็นผลเสียหายโดยตรง

-โจรก่อการร้ายพันธมิตรยึดเครื่องบินโดยสารต่างชาติไว้ช่วงเกิดเหตุการณ์กว่า 88 ลำ จนทูตชาติมหาอำนาจ 6 ชาติ คือสหรัฐ สหภาพยุโรป เป็นต้นเข้ายื่นโนติสกับกระทรวงการต่างประเทศขอให้ยุติและอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ทำให้ไทยเสี่ยงต่อการถูกมหาอำนาจแทรกแซงอธิปไตย

-โจรก่อการร้ายพันธมิตรได้กลุ้มรุมทำร้ายคนสาหัสปางตายในเหตุการณ์นี้ และขัดขวางทำร้ายพนักงานรักษาความปลอดภัยสนามบินด้วย

แล้วอะไรคือสิ่งที่โจรก่อการร้ายพันธมิตรเห็นว่าไม่ได้"เกินกว่าเหตุ"กรุณาอธิบายมาด้วย

Q-กษิตแค่ขึ้นเวทีเฉยๆทำไมโดนข้อหาก่อการร้ายด้วย
ดูคลิปข่าวกษิตยึดสุวรรณภูมิ (คลิ้ก )
A-แถแบบนี้หากไม่รู้กฎหมายก็น่าเห็นใจ แต่ส่วนใหญ่นั้นรู้แต่แกล้งไม่รู้ กฎหมายพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2521 (แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2538)มาตรา 11(2)เขียนไว้ดังนี้"ผู้ใดเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดตามมาตรา 5 มาตรา 6 หรือมาตรา 6 ทวิ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการ" พูดง่ายๆคือผู้ใดสนับสนุนให้โจรก่อการร้ายพันธมิตรไปยึดสนามบิน จนทำให้การบริการท่าอากาศยานสากลสุวรรณภูมิหยุดชะงักลง ก็ต้องผิดและโทษถึงประหารเหมือนตัวการ

คำถามคือนายกษิตไปที่สุวรรณภูมิในตอนยึดสนามบินแค่ไปกินข้าวฟรี ฟังดนตรีไพเราะแล้วกลับบ้านหรือไม่ ความจริงนายกษิตไปสนับสนุนการกระทำความผิด ขึ้นพูดให้การสนับสนุนบนเวทีหลักฐานก็มี ยังจะมาเถียงอีกว่า"ผมทำผิดตรงไหน!"

Q-พันธมิตรไม่ได้ปิดสนามบิน ผอ.สุวรรณภูมิเป็นคนปิดเอง

A-จะพูดจะแถอย่างไรก็ได้ แต่ดูหลักฐานนี่ก่อน

-หลังเข้ายึดสนามบินไว้ได้แล้วเมื่อค่ำวันที่25พ.ย.2551นั้น พันธมิตรได้ออกแถลงการณ์ในเวลา21.57น.วันนั้น เป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 26/2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ความสำคัญตอนหนึ่งคือ"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุม และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืนโดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข

-เมื่อยึดไว้จนกดดันให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบ3พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลในวันที่2ธ.ค.2551ทำให้รัฐบาลนายสมชายสิ้นสภาพลง ต่อมาวันรุ่งขึ้นเวลา09.20น.พลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นผู้แทนพันธมิตรทำพิธีส่งมอบสนามบินคืนแก่นายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ ประธานบอร์ดการท่าอากาศยานต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

วิญญูชนหรือสามัญชนที่มีสามัญสำนึกย่อมพิจารณาเป็นไปอย่างอื่นไม่ได้ว่า หากพันธมิตตรไม่ได้เป็นคนยึดแล้วไปออกแถลงการณ์ปิดสุวรรณภูมิทำไม และหากไม่ได้ยึดเอาไว้ จะไปทำพิธีส่งมอบคืนทำไม?

Q-เป็นข้อหาทางการเมืองที่ประชาธิปัตย์สกัดพรรคการเมืองใหม่ ทำไมปล่อยไว้ตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาเล่นงานตอนนี้ แบบนี้เข้าข่ายละเว้นต่อหน้าที่ไหม?

A-ใครอยากให้ช้า หากไปดูดีๆจะพบว่ามีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าและพนักงานสอบสวนหลายหน

-ตอนแรกๆรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เข้ามาบริหารประเทศแทนรัฐบาลนายสมชายก็ว่าจะเร่งคดี แต่เอาไปเอามาจากวันที่25ธ.ค.2551ที่ก่อการร้ายทำความผิด กว่าจะออกหมายเรียกก็วันที่ 1 ก.ค.2552กินเวลา221วัน หรือ7เดือนกับ9วัน ส่วนว่าพรรคประชาธิปัตย์สกัดพรรคการเมืองใหม่หรือไม่ให้ไปไล่เบี้ยกันเอง เพราะเป็นพวกเดียวกัน ทำงานรับส่งเข้าขากันมาตลอด

-มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าชุดและพนักงานสอบสวนสืบสวนหลายชุด เดี๋ยวก็จะแยกคดีดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ เดี๋ยวก็จะรวม มีการโยกย้ายคนที่จะเอาจริงเอาจังพ้นหน้าที่

-สุดท้ายก็ว่ารอให้กรมการขนส่งทางอากาศรวบรวมข้อกฎหมายและร้องทุกข์มา กว่าจะครบทั้งพยาน หลักฐาน ข้อกฎหมายก็เลยกินเวลานานมาก ส่วนจะเล่นงานกันเรื่องละเว้นหรือไม่ละเว้นก็เชิญจัดการกันเอง

แต่ที่แน่ๆประชาชนผู้รักความเป็นธรรมเห็นว่าช้ามาก และไม่เป็นการยุติธรรม เพราะเวลาเสื้อแดงโดนออกหมายจับทันควัน แต่โจรก่อการร้ายเสื้อเหลืองมีคดีปล่อยเรื่องมานาน7เดือนเศษ แถมให้เกียรติแค่ออกหมายเรียกอีกต่างหาก

Q-แล้วทำไมไม่เล่นงานพวกเสื้อแดงข้อหาก่อการร้ายบ้าง ทีพันธมิตรทำไมโดนหนักๆทั้งกบฎ ทั้งก่อการร้าย

A-เสื้อแดงเขาได้ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นสนามบินสากล มีพิธีสารมอนทรีออลคุ้มครองไหมหละ ถึงต้องโดนคดีก่อการร้าย เขาได้เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลไว้นานเป็นเดือนๆเพื่อล้มล้างรัฐบาลไหมหละ ถึงต้องโดนข้อหากบฎ เขาได้บุกยึดโทรทัศน์NBTจนต้องโดนข้อหาบุกรุกและคุกคามสื่อหรือไม่

Q-แต่ยังไงกษิตก็ยังไม่ผิด จนกว่าศาลจะตัดสิน ดังนั้นกษิตก็เป็นรัฐมนตรีต่อได้ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ก็เป็นส.ส.ต่อได้

A-แล้วตอนกรณีเขาพระวิหารทำไมไล่นพดล ปัทมะออกหละ ทำไมคดีจักรภพ เรื่องยังไม่ถึงศาล ทำไมไล่บี้ให้ออกแสดงความรับผิดชอบ และรัฐบาลสมัครกับรัฐบาลสมชายทำไมเสื้อเหลืองพากันก่อกบฎก่อการร้ายกดดันให้พ้นตำแหน่ง ทำไมไม่รอให้ศาลตัดสินคดีก่อนบ้างหละ

Q-ยังไงๆก็เห็นว่าเว่อร์นะคดีก่อการร้าย ถือว่าเกินกว่าเหตุจริงๆ

A-??!! ก็ลองดูหลักฐานต่อไปนี้ดูว่าเกินกว่าเหตุไหม เว่อร์ไหม ที่จริงโจรก่อการร้ายพันธมิตรต่างหากที่ประท้วงเว่อร์และทำเกินกว่าเหตุ ก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือที่ต้องโดน

-คลิปข่าว สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ พูดกลางสภาว่าพาคนไปยึดสนามบินเอง คลิ้กที่นี่

-คลิปข่าวพันธมิตรคลุมหน้าไอ้โม่งบุกปิดหอบังคับการบินสุวรรณภูมิ คลิ้กที่นี่

-คลิปข่าว ร.ต.แซมดินมือขวาของจำลองพาพันธมิตรคลุมหัวไอ้โม่งบุกยึดหอบังคับการบิน คลิ้กที่นี่

-คลิปข่าวพลตรีจำลองเป็นตัวแทนพันธมิตรส่งมอบคืนสนามบินสุวรรณภูมิ คลิ้กที่นี่