WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, August 4, 2009

สองเซียน สอนมวย

ที่มา thaifreenews

สรุปข่าว สองเซียน สอนมวย
โดย ice angel
55 ดำผุดดำเชียร์ ฮากันทั่วบ้านทั่วเมือง ผลงานเข้าตา มาตรฐานดวงตาเห็นธรรมฉบับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
นางธาริษา วัฒนเกศ ดร.โกร่ง วีรพงษ์ รางมางกูล
โซ้ย แนวคิด ดร.โกร่ง ที่ออกมาสอนมวย ผู้ว่าการธนาคารตรงๆ ว่า
1.นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ธปท.บอกว่าทำอะไรไม่ได้เลย เงินไหลเข้ามามาก...
2.ต้นปีค่าเงินอ่อน นำเข้าก็เจ๊ง ปลายปีค่าเงินบาทแข็ง ส่งออกก็เจ๊ง สรุปคือเจ๊งทุกคน”
3. มาตรการสินเชื่อก็บอกว่าเป็นเรื่องของภาคเอกชน ทางการออกคำสั่งไม่ได้ จะได้เฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ ก็อยากดูต่อไปว่า ทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกรุงไทยจะทำอะไรได้บ้าง
4. ครึ่งปีหลังของปีนี้เศรษฐกิจของประเทศจะแย่ลงกว่าในช่วงครึ่งปีแรก และในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2553 จะแย่กว่าครึ่งปีหลังของปีนี้อีก
ขณะนี้เศรษฐกิจไทยดิ่งลงไม่ถึงพื้นด้วยซ้ำ และวิกฤตรอบนี้น่าจะยืดเยื้อ
5. รัฐบาลให้น้ำหนักแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพียง 20% น้อยกว่าการเมืองที่ให้น้ำหนัก 80%
อธิบายซะขนาดนี้ นางธาริษา ยังโซ้ยดร.โกร่ง ด้วยมาตรฐานที่ว่า
อย่าใช้อารมณ์ในการตัดสินผลงานรัฐบาลมาร์ค ว๊าว!! ดวงตาเห็นธรรม
ฉบับมาตรฐานผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะเห็นธรรมต่อไหมหลังจากที่
นายโอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย (พท.) บอกว่า
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลนายมาร์ค ว่า นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตอนนี้คิดแต่เรื่องปริมาณการส่งออก ไม่ได้คิดถึงอัตราแลกเปลี่ยน หลักคือมันต้องเพิ่มรายได้ที่เป็นเงินบาท ให้คนในประเทศ เพื่อจะได้เอารายได้เป็นเงินบาทที่ได้เพิ่มขึ้นไปซื้อของอุปโภคบริโภค ลงทุนมากขึ้น

"1.เราต้องหานโยบายในเรื่องค่าเงินบาท ทำรายได้ให้เป็นบาทเพิ่มขึ้น แน่นอนเมื่อการสั่งซื้อลดลง ราคาสั่งสินค้าที่สั่งเป็นดอลลาร์ลดลง แต่เมื่อค่าเงินบาทอ่อน สามารถชดเชยได้ตามการตกลงของดอลลาร์ อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้รายได้ในประเทศสูงขึ้น ไม่ใช่แต่จะช่วยเรื่องเพิ่มปริมาณการส่งออกเท่านั้น"

2. ถ้าใช้เรื่องอัตราแลกเปลี่ยน จะเพิ่มได้ทั่วถึงกว่าการแจกเช็ค 2 พันบาทให้กับคน 10 ล้านคน แล้วไม่ต้องควักเงินรัฐมาจ่ายเช็คช่วยชาติถึง 2 หมื่นล้านบาท เพียงแค่ปรับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนจาก 33 บาท/ดอลลาร์ มาเป็น 36 บาท/ดอลลาร์ ทำอย่างไรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเงินบาทไปซื้อดอลลาร์มากขึ้น ทำให้เงินบาทมีค่ามากขึ้น แล้วดอลลาร์ที่ซื้อมา ก็เอาไปฝากเอาดอกเบี้ยเป็นเงินบาท กำไรขาดทุนตรงนี้ขึ้นกับดอกเบี้ยเงินบาท และดอกเบี้ยต่างประเทศ แล้วถ้าช่วยด้วยการออกนโยบายลดดอกเบี้ยเงินบาทมากขึ้น จะช่วยให้เข้าสู่ 36 บาท/ดอลลาร์ง่ายขึ้น แต่มันต้องเสริมโดยการให้ ธปท. ปั๊มเงินบาทผ่านระบบธนาคาร เพื่อออกไปซื้อดอลลาร์

"ไม่ว่าจะปั๊มเงินด้วยการออกเช็คช่วยชาติ หรือไปซื้อดอลลาร์ ก็เรียกว่า การปั๊มเงินทั้งคู่ แต่มันต้องดูว่า ปั๊มแบบแรกมันได้ 10 ล้านคน แต่ปั๊มแบบที่สองได้มากกว่า" นายโอฬารบอกอีกว่า
3. นโยบายที่จะทำให้คนมีเงินในประเป๋ามากขึ้น คือเรื่องสินเชื่อ โดยรัฐบาลต้องประกาศและโฟกัสลงไปเลยว่า สินเชื่อนั้นช่วยในเรื่องใด เช่น คนสามารถเอาไปซื้อรถยนต์ที่กำลังมียอดจำหน่ายลดลง หรือช่วยกระตุ้นท่องเที่ยว ไทยเที่ยวไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่า 6 เดือนที่ผ่านมา การแก้ปัญหาของรัฐบาลเป็นไปตามหลักที่ถูกต้องหรือไม่ นายโอฬารกล่าวว่า มีอยู่อย่างเดียวคือ การใช้จ่ายภาครัฐ แต่ขาด 2 เรื่อง คือ เรื่องสินเชื่อ ช้ามาก และเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน แค่ยอมรับว่าอัตราแลกเปลี่ยนคือเครื่องมือ แต่วันนี้รัฐบาลยังไม่พยักหน้าหรือสั่งเลย อาจเป็นเพราะ ธปท.ที่รับผิดชอบโดยตรง ไม่มีมุมมองในเรื่องนี้ มองอย่างเดียวว่า อัตราแลกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือเพิ่มปริมาณการส่งออก ไม่ได้มองเป็นเครื่องมือเพิ่มรายได้ประเทศ
55 –ข่าวแบบนี้น่าจะเรียกว่า 2 เซียนสอนมวย ผู้ว่าการธนาคาร ซะแล้ว