ที่มา บางกอกทูเดย์
หนึ่งในบรรดารัฐมนตรีในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่มีนิสัยดี น่ารัก และเป็นคนที่ “ไม่พูดมากปากแฉะ”เหมือนรัฐมนตรี ปชป. โดยทั่วไป วิทยา แก้วภราดัย คือ“หนึ่ง” ในจำนวนนั้นแต่บนความเป็น “คนดี” ที่น่ารักน่าคบหานั้น หากนำมาเปรียบเทียบกับ “มาตรฐาน” การเป็น รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข ที่กำลังมีวิกฤติเรื่อง หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009แล้ว เขายังอยู่ห่างกับเก้าอี้ตัวนี้เหลือเกินทั้งบุคลิกความเป็นผู้นำส่วนตัว ประสบการณ์จากงานสาธารณสุข วิทยา แก้วภราดัย เป็นคนดีที่เฉื่อยชาเกินไปสำหรับตำแหน่งนี้??วิทยาในวัย 54 ปี เขาน่าจะแอ็กทีฟกว่านี้ แต่ก็อีกนั่นแหละ คนที่เรียบจบมาทางด้านกฎหมาย ปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกอบอาชีพทนายความ ก่อนหันเข้าสู่แวดวงการเมืองในนามพรรคประชาธิปัตย์คิดยังไง?? มองอย่างไร?? เขาก็ถนัดในการเป็น “หมอความ”มากกว่า “หมอยา”จุดเปราะที่น่าจะเป็นจุดอ่อนของวิทยาอีกประการหนึ่งคือ ไม่เคยมีตำแหน่งทางการเมืองสูงๆ ยกเว้นรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เมื่อปี 2537-2538มาเรมิ่ เปน็ รฐั มนตรกี บั เขาบา้ง กแ็ หกโคง้มานงั่ ในกระทรวงใหญ่ที่น่าจะเรียก “กระทรวงปราบเซียน” อย่างกระทรวงสาธารณสุขด้วยเหตุนี้เลยทำให้ น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ปลัดกระทรวง มีบทบาทโดดเด่นกว่ารัฐมนตรีว่าการในแทบทุกเรื่อง??จะเรียกว่ารัฐมนตรีวิทยามักจะเดินตามปลัดปราชญ์ก็ไม่น่าจะผิด!!
แต่เรื่องนั้นไม่ใช่อุปสรรคปัญหาในการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของ วิทยา แก้วภราดัย เพราะน.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ก็ถือเป็นปรมาจารย์คนหนึ่งในกระทรวงนี้สองวันก่อน น.พ.ปราชญ์ กับรัฐมนตรีวิทยาไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ห้องยาได้นำวัคซีน 2 ตัว มาโชว์ให้คุณวิทยาและปลัดกระทรวงดู1. “โอเซลทามิเวียร์” (ชื่อทางการค้าว่า ทามิฟลู) เป็นยาที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กอ่อนถึงผู้ใหญ่ มีตัวยาทั้งที่เป็นเม็ดและเป็นน้ำ แต่มีผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนั้นในเด็กอาจมีอาการปวดท้องเลือดกำเดาออก ปัญหาเรื่องหู และโรคตาแดง2. “ซานามิเวียร์” (ชื่อทางการค้าว่า รีเลนซา) เป็นยาที่ใช้ได้เฉพาะในผู้ป่วยอายุมากกว่า 5 ปี และไม่แนะนำให้ใช้ในคนที่เป็น โรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคหืด หรือผู้ป่วยในสถานพยาบาล และผู้ที่มีอาการ แพ้สารแลคโตสในการไปตรวจเยี่ยมวันนั้น รัฐมนตรีวิทยาก็ทำตัวเหมือนน.พ.ปราชญ์ ทำ คือ หยิบซองยาวัคซีนนี้ให้สื่อถ่ายภาพแต่เป็นการแสดงแบบที่ “ไม่เป็นธรรมชาติ” มันเหมือนจะทำให้คนระดับ “เสนาบดี” มากลายเป็น “นายแบบ”หรือ “พรีเซ็นเตอร์” ยาวัคซีนที่ว่านี้ไปโดยปริยายในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่รอการดูแลช่วยเหลือจาก 2ผู้ยิ่งใหญ่กระทรวงสาธารณสุข ทั้ง น.พ.ปราชญ์ และรัฐมนตรีวิทยา อยากจะเห็นรัฐมนตรีสาธารณสุขแก้ปัญหา“หวัดนรก” ที่กำลังลุกลาม ด้วยการใช้สมองสั่งการที่“ถูกจุด” กว่านี้ไม่ใช่มาเดินเยี่ยมองค์การเภสัช แล้วแสดงท่าเหมือน“นายแบบ!!” อย่าไปเจริญรอยตามสโลแกน “กินร้อนช้อนกลาง ล้างมือ” ที่น่าจะเป็นผลงานของ “นักกลอน”มากกว่ารัฐมนตรีผู้บริหารประเทศ?? ■