WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, May 16, 2010

อภิสิทธิ์ 'นับศพเพื่ออะไร และเมื่อไรจะเสร็จการนับศพ?'

ที่มา ประชาไท


ปัญญาชน นักวิชาการ สื่อ และมนุษย์ทุกคนที่มีเหตุผล ก่อนจะตัดสินอะไรลงไปในเหตุการณ์รุนแรงนองเลือดครั้งประวัติศาสตร์นี้ จำเป็นต้อง “ทบทวน” ข้อเรียกร้องทางการเมืองของคนเสื้อแดงอย่างตรงไปตรงมาให้ชัดเจนก่อน

ข้อเรียกร้องทางการเมืองของมวลชนเสื้อแดงคือขอให้ “ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่” โดยมีเหตุผลหลักๆ คือ

1. รัฐบาลอภิสิทธิ์แม้จะผ่านการโหวตในสภา แต่ข้อเท็จจริงมีการเตรียมการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร โดยมีทหารเครือข่ายรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และอำมาตย์ให้การสนับสนุน ข้อเท็จจริงนี้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมที่พรรคประชาธิปัตย์หลอกสังคมไม่ได้

2. จากข้อ 1 ประกอบกับความขัดแย้งทางความคิดของคนในสังคมที่สืบเนื่องจากรัฐประหาร 19 กันยา ทำให้สังคมเกิดความแตกแยกอย่างกว้างขวางที่นโยบายสมานฉันท์ของรัฐบาลก็แก้ไม่สำเร็จ นอกจากไม่สำเร็จแล้วยังทำให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น เพราะรัฐบาลแสดงบทบาทอยู่ในขั้วตรงข้ามของคู่ขัดแย้ง

ฉะนั้น เมื่อที่มาหรืออำนาจสนับสนุนรัฐบาลไม่ชอบธรรม ก็ทำให้รัฐบาลเป็นรัฐบาลไม่ชอบธรรมตั้งแต่แรก และรัฐบาลเช่นนี้ก็แก้ปัญหาความแตกแยกในสังคมไม่สำเร็จ ทางออกที่ยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้ง และประชาชนทั้งประเทศที่ไม่เลือกฝ่ายใดก็คือ “การยุบสภา-เลือกตั้งใหม่”

ที่ต้องตราไว้เป็นพิเศษ คือ ข้อเรียกร้อง “ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่” ของคนเสื้อแดงไม่ใช่ข้อเสนอเพื่อตัวเองแต่ฝ่ายเดียว เพราะ...

1. มีเหตุผล 2 ข้อดังกล่าวที่ฟังขึ้น

2. ไม่ใช่ข้อเรียกร้องในสถานการณ์ที่พรรคการเมืองของคนเสื้อแดงได้เปรียบ (พรรคการเมืองคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายค้าน อยู่ในสภาพค่อนข้างแตกแยกด้วยซ้ำ) และ

3. เป็นข้อเรียกร้องที่ยุติธรรมทุกพรรคการเมือง และประชาชนทุกสี ทุกคนที่จะได้ใช้สิทธิ์ของตนเองภายใต้กติกาเดียวกัน เพื่อให้ได้รัฐบาลที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันว่าชอบธรรมเพราะถูกเลือกด้วยเสียงข้างมากของประชาชนทั้งประเทศ

จากข้อเรียกร้องดังกล่าวต่อให้…

1. มีวาระซ่อนเร้นเพื่อช่วยทักษิณ หรือสู้เพื่อทักษิณ

2. มีข้อสงสัยเรื่องกองกำลังไม่ทราบฝ่าย (ที่ต่อมารัฐบาลบอกว่า กองกำลังผู้ก่อการร้ายติดอาวุธที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมชุม)

3. มีคนเสื้อแดงบางส่วนประกาศตัวไม่เอาสถาบัน มีการปราศรัยบนเวทีในลักษณะที่ว่ายุบสภาเป็นเพียงหลักกิโลเมตรที่ 1 และน่าสงสัยว่าหลักกิโลเมตรต่อไปอาจกระทบต่อความมั่นคงของสถาบัน (และต่อมารัฐบาลก็เปิดเผยแผนผังเครือข่าย “ขบวนการล้มเจ้า” แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานชัดเจน)

4. มีการกล่าวถึง “รัฐไทยใหม่” และมีการยกระดับการชุมนุมกดดันในลักษณะก้าวร้าวและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงนองเลือด

แต่ทั้งหมดนั้นก็ผูกติดหรือจำกัดอยู่กับการขอใช้ “วิถีทางประชาธิปไตย” เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเมื่อยังอยู่ใน “วิถีทางประชาธิปไตย” (การเลือกตั้ง กระบวนการของรัฐสภา) ต่อให้มีเรื่องช่วยทักษิณ เรื่องสถาบัน เรื่องรัฐไทยใหม่ ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเสื้อแดงหรือพรรคการเมืองของคนเสื้อแดงจะทำทุกสิ่งได้ตามอำเภอใจ (ไม่เหมือนกับการใช้/สนับสนุนกองทัพให้ทำรัฐประหารที่สามารถใช้อำนาจเผด็จการแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้ตามอำเภอใจ)

ฉะนั้น การที่รัฐบาลใช้ข้ออ้างเพียงว่า “ยุบสภาปัญหาก็ไม่จบ” อ้างการกดดันข่มขู่ของกลุ่มผู้ชุมนุม อ้างว่าจะคืนความสงบสุขให้คนกรุงเทพฯ แล้วสั่งสลายการชุมนุมวันที่ 10 เมษายน ทั้งที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะมีคนบาดเจ็บล้มตาย และเมื่อทำไปแล้ว มีคนบาดเจ็บล้มตายแล้ว ก็ยังเพิ่มมาตรการเข้มข้นด้วยข้อกล่าวหาเรื่อง “ขบวนการล้มเจ้า” “กลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ” จนเลยมาถึงการเสนอแผนปรองดองที่ไม่ได้แสดงถึงความจริงใจและความยุติธรรมกับอีกฝ่ายในมาตรฐานเดียวกันอันเป็นเหตุให้อีกฝ่ายปฏิเสธ และรัฐบาลก็ใช้เป็นข้ออ้างในการจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ที่ขณะนี้ (วันที่ 16 พฤษภาคม 2553) มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 23 ราย (รวมตั้งแต่ 10 เมษาเป็นต้นมาก็กว่า 50 ศพแล้ว เฉพาะที่มีในรายงานข่าว)

และกระนั้นแล้ว นายกฯอภิสิทธิ์ยังออกแถลงการณ์ยืนยันให้ทหารเดินหน้าต่อกระชับวงล้อมผู้ชุมนุมภายใต้ข้ออ้างว่า จะพยายามให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด และที่ตัดสินใจทำไปไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่เพื่อประโยชน์ของคนไทยทุกคน เพื่อคืนความสงบสุขของบ้านเมือง พร้อมกับ “อ้อน” ขอกำลังใจและการสนับสนุนจากประชาชน

คำถามที่สังคมต้องถามอย่างตรงไปตรงมาต่อนายกฯอภิสิทธิ์ คือ

1. นายกฯอภิสิทธิ์เชื่อจริงๆหรือว่า ด้วยวิธีการดังกล่าวจะทำให้คืนความสงบสุขสู่สังคมได้จริง (และไม่เคยเชื่อเลยหรือว่า หากยุบสภาทันที หรือภายใน 3 เดือนตามที่ฝ่ายต่างๆเสนอ แม้เลือกตั้งใหม่อาจไม่สงบแต่จะไม่มีการสูญเสียมากขนาดนี้)

2. มีข้อมูลหลักฐานที่ทำให้นายกฯอภิสิทธิ์มั่นใจจริงๆหรือว่า คนเสื้อแดงต้องการใช้การยุบสภาเลือกตั้งใหม่เพื่อช่วยให้ทักษิณพ้นผิด สร้างรัฐไทยใหม่ สถาบันกษัตริย์จะถูกล้ม (ตามข้อกล่าวหา “ขบวนการล้มเจ้า”)

3. ต่อให้มั่นใจในข้อมูลหลักฐานตามข้อ 2 แต่สิ่งที่คนเสื้อแดงขอใช้เพื่อการนั้นก็คือขอใช้ “วิถีทางประชาธิปไตย” นายกฯอภิสิทธิ์มั่นใจจริงๆหรือว่าคนเสื้อแดงจะใช้“วิถีทางประชาธิปไตย” เพื่อช่วยเหลือทักษิณ หรือล้มเจ้าได้สำเร็จต่อหน้าต่อตาประชาชนทั้งประเทศที่ก็คงไม่เห็นด้วยกับคนเสื้อแดงอยู่เป็นจำนวนมหาศาล

4. ที่จริงไม่ต้องคิดเรื่องทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ (ช่วยทักษิณพ้นผิด ล้มเจ้า) ถ้าเรายืนยันว่าสังคมเราเป็นสังคมประชาธิปไตย ก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เรามีความชอบธรรมที่จะฆ่าคนที่เรียกร้องการใช้ “วิถีทางประชาธิปไตย” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ไม่เป็นการทำลายประชาธิปไตยโดยตรง (สังคมนี้เรียกร้องให้ฆ่าคนที่มาขอใช้ “วิถีทางประชาธิปไตย” ได้ แต่ไม่เคยเรียกร้องให้ฆ่าคนทำรัฐประหาร!)

ถ้าการชุมนุมอย่างสันติตั้งแต่แรกของคนเสื้อแดงเพียงเพื่อขอใช้ “วิถีทางประชาธิปไตย” ไม่ว่าจะเพื่อเป้าหมายใดที่ในที่สุดแล้วอธิบายได้ว่าไม่ใช่เป็นการทำลายประชาธิปไตยโดยตรง รัฐบาลย่อมไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะสร้างเงื่อนไขให้การเรียกร้องนั้นนำไปสู่ความรุนแรงอย่างวันที่ 10 เมษายน และต่อๆมา

โดยเฉพาะเมื่อมีทางเลือกอย่างไม่ต้องสูญเสียอะไรเลยคือยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในทันทันที หรือใน 3 เดือน 6 เดือน แต่รัฐบาลก็ไม่เลือกทางเลือกง่ายๆเช่นนี้ตั้งแต่ต้น กลับเลือกทางที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่าจะมีคนตาย จะเกิดสงครามกลางเมือง จึงเป็นการตัดสินใจเลือกที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง

ที่สำคัญเมื่อเกิดการสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังดันทุรังเดินหน้าสู่ความสูญเสียมากขึ้นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอะไรก็ตามที่ไม่มีทาง “คุ้มค่า” กับชีวิตคนที่สูญเสียไปเลย ยิ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่เหลือความเป็นมนุษย์อยู่เลย

เราคงได้แต่ถามอย่างงงงวยหดหู่ และถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ ท่านนับศพเพื่ออะไร และเมื่อไรจะเสร็จการนับศพ?”

ปล. แม้ผมจะมีความเห็นมาตลอดว่า แกนนำ นปช.ใช้ยุทธวิธีผิดพลาด ไม่ให้ความสำคัญกับการรักษาชีวิตของมวลชนเท่าที่ควรจะเป็น และต้องรับผิดชอบทางกฎหมายตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน แต่ก็เห็นว่าอภิสิทธิ์ สุเทพ ในฐานะผู้ใช้อำนาจรัฐอย่างไร้สปิริตประชาธิปไตยและไร้มนุษยธรรมจะต้องรับผิดชอบมากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้!