WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 7, 2010

คนเสื้อแดงร่วมทอล์คโชว์ “วอน นอน คุก” ล้อปัญหาการเมืองไทย

ที่มา ประชาไท

บก.ลาย จุดจัดทอล์คโชว์ “วอน นอน คุก” ล้อเลียนเรื่องการเมือง คนเสื้อเเดงร่วมงานล้นหลาม เผยเตรียมตั้งโรงเรียนเเกนนอน สอนประชาธิปไตย สร้างความเข้มแข็ง โดยไม่ต้องพึ่งแกนนำ

วาน นี้ (6 ธ.ค.) ที่ชั้น 6 ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ได้จัดการแสดงทอล์คโชว์ "วอน นอน คุก" ขึ้น หลังจากที่ได้เลื่อนการจัดงานจากวันที่ 5-6 ธ.ค.มาเป็นวันที่ 6 ธ.ค.เพียงวันเดียว โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมงานจำนวนมาก

สำหรับเนื้อหาในการทอล์ก โชว์นั้น มีการกล่าวพาดพิงถึงกลุ่มบุคคลกลุ่มต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองไทยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 การร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 การสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือน เม.ย.- พ.ค.2553 และการสืบสวนข้อเท็จจริงที่อยู่ในการดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รวมทั้งเรื่อง 2 มาตรฐานในสังคมไทย

นอกจากนั้น นายสมบัติยังได้นำบทกลอนของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อที่เขียนผ่านกรงขัง ลงชื่อจาก "คนนอนคุก" มาอ่านบนเวทีเรียกเสียงปรบมือก้องห้องประชุม อีกทั้งยังมีการขับร้องเพลง ชื่อ "ศิษย์เก่าราชประสงค์" ที่แต่งโดยกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ในโอกาสครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร 8 เดือนราชประสงค์ โดยกลุ่มศิลปินลูกหลานคนเสื้อแดง

ส่วนบรรยากาศภายใน ฮอลล์ชั้น 6 ผู้ชมส่วนใหญ่สวมใส่เสื้อผ้าสีแดง และมีสัญลักษณ์ทั้งผ้าพันคอและตีนตบมาประกอบการชม นอกจากนี้บริเวณชั้น 5 และ 6 ของห้างยังมีการจัดขายเสื้อสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ เสื้อวันอาทิตย์สีแดง และเสื้อที่มีข้อความเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำและคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขัง อยู่ในเรือนจำ รวมทั้งมีการออกร้านขายอาหารและเครื่องดื่มกันอย่างคึกคัก

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบัติ กล่าวภายหลังจบการแสดงรอบแรกว่า การเคลื่อนไหวต่อจากนี้ตนจะขอเป็นหลักในวันที่ 19 ธันวาคม จะมีกิจกรรมครบรอบ 8 เดือนราชประสงค์ เชิญชวนประชาชนทั่วประเทศพับนกกระดาษสีแดงจำนวน 1 ล้านตัว นำมาติดห้อยตามต้นไม้รอบๆ ราชประสงค์ เพื่อให้ระลึกถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง นำไปสู่การจองจำ

นาย สมบัติ อธิบายว่า นกกระดาษสีแดงนี้จะเป็นสัญลักษณ์ให้ปล่อยหรือประกันตัวนักโทษการเมือง เพราะจากการที่ได้เดินทางไปเยี่ยมนักโทษการเมืองในหลายจังหวัด พบว่าเป็นการลงโทษไม่เหมาะสม เช่น เรื่องโทษวางเพลิงที่ออกหมายจับถึง 400 กว่าคนถือว่าโหดมาก ทั้งที่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำ และแม้แต่แกนนำที่เข้ามอบตัวก็ควรได้รับการประกันตัว รัฐบาลต้องส่งสัญญาณให้ชัดเจนในเรื่องการประกันตัว

นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า ในปีหน้าจะลดบทบาทการเคลื่อนไหวกิจกรรมของกลุ่มอาทิตย์สีแดง และจะเน้นวางรากฐานทางความคิดในโรงเรียนประชาธิปไตยในรูปแบบแกนนอน คู่ขนานไปกับโรงเรียน นปช. ของนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ โดยวางว่าจะทำงานด้านความคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตยให้มาก และหลักสูตรของโรงเรียนจะเน้นใน 4 ประเด็น คือ 1.ประชาธิปไตยคืออะไร 2.ว่าด้วยเรื่องการสื่อสารประชาธิปไตยให้คนต่างสีเข้าใจ คนเสื้อแดงต้องเป็นนักอธิบายได้ 3.รวมกลุ่มหรือจัดตั้งองค์กรประชาธิปไตย และ 4.สามารถออกแบบกิจกรรมประชาธิปไตยได้เอง

ทั้งนี้ เขาได้วางแผนที่จะก่อตั้งโรงเรียนแกนนอนให้ได้ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยหลังจากทอล์กโชว์ครั้งนี้ก็จะเริ่มทำการเวิร์คชอปในต้นเดือน ม.ค.2554 ทันที

นาย สมบัติ กล่าวอีกว่า การตั้งโรงเรียนแกนนอนไม่ได้จุดประสงค์หรือโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องการที่จะสร้างประชาธิปไตยในระดับพื้นฐานให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งส่วนตัวสนใจในแกนนำระดับซอย เเละระดับหมู่บ้านที่จะทำให้คนเหล่านี้สามารถรวมกลุ่มแล้วเข้าใจประชาธิปไตย ที่ถูกต้องว่าคืออะไร ไม่สนใจแกนนำในระดับจังหวัด ซึ่งตั้งเป้าว่าจะสอนกลุ่มละ 15-30 คนขึ้นไป กระจายเป็นกลุ่มๆ เล็กๆ ทั่วประเทศ โดยหลักสูตรหนึ่งจะใช้เงินไม่เกิน 150 บาทต่อคน เมื่อกลุ่มเหล่านี้กระจายไปทั่วประเทศก็จะสามารถรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมได้ ด้วยตัวเองได้อย่างเข้มแข็ง โดยไม่ต้องพึ่งแกนนำ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว โดยตนไม่ต้องออกมาเป็นแกนนำตลอดไป จะมีคนเหล่านี้ขึ้นมาทำกิจกรรม อย่างใดอย่างหนึ่งได้ทันทีและทั้งประเทศในเรื่องประชาธิปไตย

เรียบเรียงเนื้อหาบางส่วนจาก: มติชนออนไลน์ และ เนชั่นทันข่าว