ที่มา thaifreenews
โดย bozo
สัปดาห์ที่แล้ว ผมส่งต้นฉบับ
เปลี่ยน ศอฉ. เป็น ศอจ. (ศูนย์แอบดูจิ๋ม!) ไปให้เจ้าหน้าที่ เตรียมออนไลน์ล่วงหน้าสองวัน
เพราะจะติดวันหยุดยาว
แต่พอถึงวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.2553 ต้นฉบับขึ้นโชว์หน้าเว็บ เป็นวันเดียวกับหนังสือพิมพ์ลงข่าว ว่า
ฝ่ายพันธมารประกาศ ระงับการชุมนุมซะแล้ว โดยอ้างเหตุว่า
เนื่องจากเป็นเดือนมงคล จึงขอเลื่อน แต่ก็ยังทำปากเก่งว่า
...จะไปชุมนุมกันปีหน้า!
โง่จนไม่รูว่า เป็นเดือนมงคล...ดูมัน!
จึงเป็นเหตุให้ข้อเขียน เปลี่ยน ศอฉ. เป็น ศอจ. (ศูนย์แอบดูจิ๋ม!) ของผม เลยดูกร่อยไปหน่อย
เพราะคิดไม่ถึง เถรจำลองฯและแก๊งพันธมารจะหาทางออก ด้วยการเล่นมุกควายง่ายๆแบบนี้
อย่างไรก็ตาม
พอถึงวันอังคาร ที่ 7 ธ.ค. 2553 ราชการเปิดทำการ
พนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดี ที่กลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึด 'ทำเนียบ-สนามบิน'
หากอัยการมีความเห็น “สั่งฟ้อง” ก็จะต้องนำตัวตาเถรจำลองฯ แอนด์เดอะแก๊งไปศาล
แต่ทางอัยการท่านก็ใจดี เลื่อนการสั่งคดีไปอีก 1 ครั้ง
คดีดังกล่าว อัยการได้นัดฟังคำสั่งครั้งแรก ตั้งแต่ 28 พ.ค. 52
แต่มีการเลื่อนไป เป็นวันที่ 14 ก.ค.52 จากนั้นก็ติดโรคเลื่อน
และเลื่อนๆๆๆๆๆ ต่อเนื่องมาอีกถึง 7 ครั้ง 7 ครา
หนสุดท้ายคือครั้งที่ 7 เลื่อนจาก 7 ต.ค.53 มาเป็น 7 ธ.ค.53
ครั้นพอถึงวัดนัดครั้งที่ 7 ก็ประกาศเลื่อนอีกครั้ง เป็น ครั้งที่ 8
ไปโดยเลื่อนไปเป็น วันที่ 9 ก.พ. 54 โน่น
จากนัดครั้งแรก หรือครั้งที่ 1 ไปจนถึงการนัดครั้งที่ 8
ก็รวมเวลาได้ 1 ปี กับอีก 9 เดือน
คอการเมืองพากันวิพากษ์วิจารณ์กันว่า นี่เป็นทางการตอบแทน
ที่พันธมารไม่ชุมนุมเดือนมงคล เลยมีการเม้าท์เสียดสีกันเล็กๆว่า
“แม่งงงง!...ถ้าเลื่อนไปถึงชาติหน้าได้ มันคงเลื่อนให้!”
ท่านอธิบดีอัยการ กายสิทธิ์ พิศวงปราการ ก็อย่าไปถือสาหรือพิศวงงงงวยอะไรเลย
เพราะปากคนไทยที่กินน้ำพริก ก็จัดจ้านเป็นธรรมดา อย่างนี้แหละน่า!!...555
ก่อนถึงวันเฉลิมฯ ได้มีข่าวเรื่องข่าวของ วิกิลีกส์ (Wikileaks)
แพร่ออกมาเป็นข่าวนำทางสื่อทุกชนิด และกลายเป็นหัวข้อ ให้ผู้คนในบ้านเมืองของเรา
ได้สนทนาด่าทอกันลั่น โดยมีรัฐบาลทั้งสหรัฐและไทย ตกเป็นจำเลยขี้ปากของทั้งคอการเมือง
และพวกที่ไม่ใช่
ภาพลักษณ์อเมริกันชน ซึ่งเคยค่อนข้างดี
ในความคิดคนไทยมายาวนาน มาหนนี้ ได้ถึงกาลตกต่ำไปอย่างน่ากลัว
ผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ วิพากษ์วิจารณ์เอาเสียๆหายๆว่า
การเปิดเผยของวิกิลีกส์ครั้งนี้ ทำเอาความเชื่อถือของคนไทยที่เคยมีต่อสหรัฐ
เสื่อมทรุดลง อย่างเห็นได้ชัด!
สหรัฐอเมริกานั้น เป็นชาติใหญ่ที่แทบจะไม่เคยมีเรื่อง
ด้านการสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนไทย แถมอเมริกันชน
และรัฐบาลของพวกเขา
ยังเคยมีบทบาทในการช่วยเหลือเมืองไทย มากกว่าชาติอื่นๆด้วยซ้ำไป เช่น
ในเรื่องด้านการศึกษาของไทยนั้น
คณะมิชชันนารีอเมริกัน ได้เข้ามาวางรากฐานให้กับเมืองไทย
โดยเฉพาะการศึกษาของผู้หญิง
ด้วยการตั้งโรงเรียนกุลสตรีวังหลัง จนกลายมาเป็นโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยในปัจจุบัน
ผู้สำเร็จจากโรงเรียนนี้ในระยะต้น ได้กลายเป็นกำลังสำคัญ
ในการวางรากฐาน ให้กับโรงเรียนสตรีอื่นๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคด้วย
นอกจากนั้น การเผยแพร่คริสต์ศาสนาทางภาคเหนือของไทย
ก็ทำให้เกิดสถานศึกษาที่สำคัญ และพัฒนารุ่งเรืองมา จนกระทั่งทุกวันนี้ นั่นคือ
มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่
การศึกษาอย่างภาษาอังกฤษนั้น
คนอเมริกันก็มีส่วนอย่างสำคัญ มากกว่าชาวอังกฤษเจ้าของภาษาด้วยซ้ำ
แม้แต่พจนานุกรมของไทย คุณหมอปลัดเล และ มิสเตอร์แมคฟาแลนด์
ก็ทำให้ชาวเรามาก่อนคนไทยจะคิดทำ นานถึงครึ่งค่อนศตวรรษ
เพราะกว่า คุณ ส.เสถบุตร จะพิมพ์พจนานุกรมไทย- อังกฤษ
ซึ่งเป็นที่รู้จักก็ปี พ.ศ.2480 เข้าไปแล้ว
ที่ถือว่าสหรัฐอเมริกา มีบุญคุณต่อเมืองไทยอยู่มาก และไม่อาจลืมได้เลย นั่นคือ
การสนับสนุนไทย ไม่ต้องกลายเป็น “ผู้แพ้” ตามญี่ปุ่น “มหามิตร” ในสงครามโลกครั้งที่ 2
เรื่องนี้...ใหญ่หลวงนัก!
ทางการไทยก็ซาบซึ้งในเรื่องดังกล่าว และตอบแทนด้วยการยกที่ดิน
ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐปัจจุบันให้ เป็นการสำนึกในบุญคุณชาวอเมริกัน
แม้จะทดแทนกันได้ไม่หมดก็ตาม
ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้ผมแปลกใจมาก ก็คือ
เมื่อ “ไอ้บัง กบฏ” กับพวก มันกระทำการละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์เจ้าชาวสยาม
ด้วยการเข้ายึดอำนาจของปวงชนชาวไทย
เมื่อ 19 ก.ย.2549 นำความฉิบหายใหญ่หลวง มาสู่บ้านเมืองของเรา
จนยับเยินมากระทั่งถึงปัจจุบัน นั้น
รัฐบาลอเมริกันหรือสถานทูตของเขา
ในฐานะที่เป็นผู้นำของโลกประชาธิปไตย กลับนิ่งเงียบ ไม่เคลื่อนไหว ออกมาประณาม
หรือแสดงทีท่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารครั้งชั่วร้ายนั้น แต่อย่างใดเลย!
ผิดวิสัยผู้นำชาติ ในโลกเสรียิ่งนัก!!
นอกจากนั้น รัฐบาลลุงแซมยังทำให้คนรักในระบอบประชาธิปไตย
ต้องขุ่นเคืองใจ ที่ดันไปออกวีซ่าให้ “ไอ้บัง กบฏ”
มันเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา ไปลอยหน้าลอยตา
สาธยายเรื่องการทำรัฐประหารของมัน ให้คนไทยในสหรัฐฟังเสียอีก
รัฐบาลอเมริกันเลยถูกมองว่า ไม่ยึดหลักการในการเป็นชาติพี่เบิ้มของโลกเสรี
แต่ดันกลับข้างไปสนับสนุน ผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย
ซึ่งทางอเมริกันก็ทราบดีแก่ใจดีว่า
รัฐประหารในครั้งนั้น ทำให้เมืองไทยถอยหลัง บ้านเมืองทรุดโทรม
ผู้คนในชาติแตกแยกกันล้ำลึก แต่ไอ้พวกระยำที่ร่วมกันก่อการเลวในครั้งนั้น
กลายเป็น ‘ผู้มั่งคั่ง’ ...ร่ำรวยกันไปถ้วนทั่ว!!!
สิ่งที่รัฐบาลอเมริกันทำไป ให้ประชาชนคนไทยได้เห็นในตอนรัฐประหารเลวร้ายครั้งนั้น
ก็เพียงแค่ปฏิบัติตามกฎของตน ในการไม่ขายอาวุธให้รัฐบาลไทย
ที่มาจากการรัฐประหาร แต่กลับเป็นการเปิดโอกาส ให้กองทัพไทยสามารถไปชอปปิ้ง
ซื้อหาอาวุธยุทโธปกรณ์ จากชาติอื่นด้วยความสนุกสนาน เช่น
ไปเครื่องบินรบจากสวีเดน ในราคาที่แพงลิบลิ่ว!
นายมาร์ค มกควาย ในฐานะผู้นำรัฐบาล “โคตรคอรัปฯ” ทนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไหว
ต้องทำทีเป็นสั่งตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนฝ่ายทหารแบบเกรงๆ กลัวๆ
ทั้งนี้ ก็เพราะ...
รัฐบาลของตัวเอง ก็มีเรื่องทุจริตมากมายนับกันไม่หวาดไม่ไหว
ที่ฝ่ายทหารสามารถนำไปอ้าง เป็นสาเหตุแห่งการปฏิวัติ ได้ง่ายดายมากกว่า
ที่คณะรัฐประหารต่างๆ เคยใช้เป็นข้ออ้างมาแล้วในอดีตด้วยซ้ำไป เพราะ...
รัฐบาลโลซกชุดนี้ มีสาเหตุอัปรีย์ดังกล่าว ปรากฏต่อสาธารณชน...เพียยยยยบ!
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงวันนี้ คนไทยยังถกกันให้อื้ออึง ถึงเรื่องวิกิลีกส์
ที่จงใจ Leak หรือทำให้ “รั่ว” ออกมาซึ่งข่าวสาร ที่เกี่ยวกับรัฐบาลไทยและอเมริกัน ในทำนองว่า
ฝ่ายอเมริกันนั้น ใช้อิทธิพลเข้ามา กดดันรัฐบาลไทยมากเกินเหตุ!
เรื่องที่แย่มากสุดก็คือ กรณีของมิสเตอร์ วิคเตอร์ บูธ
ซึ่งทำให้ศาลไทยมัวหมองไปด้วย
เพราะนายอภิแสบฯถูกนินทาว่า ใช้อิทธิพลเข้ากดดันศาล ตามคำเรียกร้องของสหรัฐอเมริกา
นี่เอง...ยิ่งทำให้คนไทย อารมณ์เสียเพิ่มขึ้นอีกเป็นอันมาก เลยด่ายับเยินไปเลย
ทั้งรัฐบาลอเมริกา และรัฐบาลโลซกของไทย
ปัญหาต่อไป ก็มีอยู่ว่า
จะมีเรื่องเลวร้ายอะไรมากไหม ที่จะหลั่งไหลออกจากวิกิลีกส์ มาสู่สาธารณชนอีก?
คนไทยทั้งหลาย ตั้งตาคอยอยู่ อย่างกระหายใคร่รู้ เพราะดูเหมือนว่า
ความเลวร้ายต่างๆ ตั้งแต่ “ไอ้บัง กบฏ” ได้ปฏิบัติการกาลีทำลายบ้านเมืองไทยของเราแล้ว
ความระยำตำบอนต่างๆ ทั้งบุคคล หน่วยงาน องค์การ สถาบันต่างๆ
ก็ได้ถูกตีแผ่ออกมาทางสื่อสาธารณะ ทั้งลับและแจ้ง จนดูเหมือนว่า
เมืองไทยของเรานั้น จะหา ‘คนดี’ ได้ยากเต็มทีแล้ว!
สำหรับผมนั้น มีความเห็น ว่า
กรณีวิกิลีกส์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยครั้งนี้ รัฐบาลอเมริกันน่าจะสำเหนียกว่า
ในภูมิภาคนี้ มีแต่ประเทศไทยและคนไทยเท่านั้น ที่ยังแสดงความเป็นมิตร
และจริงใจกับอเมริกันชน มากกว่าคนชาติอื่น
ลาว เขมร และเวียตนาม นั้น
สหรัฐอเมริกาก็ได้สร้างความพินาศฉิบหาย ให้กับบ้านเมืองของพวกเขา
อย่างมากมายพันลึก ผู้คนในถิ่นอินโดจีนต้องบาดเจ็บ ล้มตาย และพิการ เพราะ...
ฝีมืออเมริกัน...นับล้านๆคน!
ส่วนประเทศพม่า นั้นหรือ ไม่ต้องพูดถึง พวกเขาเกลียดชังอเมริกัน...เข้าไส้!!
สำหรับมาเลเซีย เป็นชาติมุสลิม ดังนั้น ไอ้เรื่องจะให้ไว้วางใจอเมริกันนั้น...ไม่มีเสียละ!!
เหลือที่ยืนหยัดโด่เด่ เป็นมิตรกับอเมริกัน ก็ไทยแลนด์ ‘แดนสยอง’ นี่แหละ!!!
คนมีอายุมากอย่างผม ก็ได้แต่คิดว่า
ถ้าหากคนไทยเราเกิดชิงชังอเมริกัน ตามชาติเพื่อนบ้านเขาไปด้วย
(ซึ่งปัจจุบันกำลังทวีจำนวนมากขึ้น ในบ้านเมืองของเรา)
การไปมาในภูมิภาคนี้ ของอเมริกันชนคงจะหาความสบายใจ และความปลอดภัย ค่อนข้างยาก
คนอเมริกันก็อาจไม่อยากมา
หรือลดจำนวนไปจากภูมิภาคนี้ หรือหากจะหลงเหลือติด ก็คงน้อยลงเต็มที!
ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนในฐานะ “มือข่าว” เก่า มีโอกาสทั้งได้ยินได้ฟัง
และได้เห็นหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ ภาพนิ่ง และคลิปเสียงฯลฯ ต่างๆมากมาย
ซึ่งมีมาถึงผม จากหลากหลายช่องทาง
ล้วนแล้วแต่ทำให้บุคคล องค์การ สถาบันต่างๆในประเทศของเราต้องเสื่อมเสียร้ายแรง
จนทำให้จิตใจของผม
หดหู่เอามากๆ!
ไม่นึกเลยว่า บ้านเมืองของเรา จะตกต่ำไปในวังวนแห่งความชั่วร้าย ได้มากมายถึงเพียงนี้
บอกตรงๆว่า
ศรัทธาและความเชื่อมั่น ที่เคยมีให้ประเทศของเราอย่างเต็มเปี่ยมนั้น
ได้ถูกบั่นทอน ให้ลดน้อยถดถอยลงเป็นอันมาก จนต้องมานั่งนึกว่า
บ้านเมืองของเรา ตกต่ำมาถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน? จนถึงขั้นสื่อต่างชาติบอกว่า
เมืองไทยเรานั้น ได้กลายเป็น “ดินแดนอันตราย” ไปเสียแล้ว
ผมต้องขอทิ้งให้ท่านผู้อ่าน หนุ่มสาว อยู่ในวัยทำงานและแข็งแรง ได้โปรดช่วยกันคิด
และหาทางออกให้กับชาติของเราด้วย
อยากจะบอก กับท่านผู้อ่านว่า
เราอย่าไปคาดหวัง หรือฝากอนาคตของบ้านเมือง ไว้กับ
รัฐบาลโลซกของ นายมาร์ค มุกควาย ที่ผมวิจารณ์กระหน่ำแหลกลาญนมนานมาแล้ว
เพราะรู้สันดานพรรคนี้ดี ตั้งแต่ไอ้คนพวกนี้ ยังไม่ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำไป
ลองเปิดคอลัมน์เก่าของ “วาทตะวัน” ย้อนอ่านดู ท่านก็จะพบความจริง
ผมเห็นว่า...
ไอ้แก๊งดักดานนี้ มันทำแต่เรื่องไม่ชอบมาพากล
พอมีโอกาสบริหารบ้านเมืองคราใด ก็ทุจริตเหลือกำลังลากครานั้น
แต่ข่าวที่ leak เล็ดลอดจากวิกิลีกส์ในครั้งนี้
ทำให้คนไทยมีรื่องต้องด่ารัฐบาล ‘อัปลักษณ์-ร้อยศพ’ ชุดนี้เพิ่มเติม
โดยเฉพาะเรื่องการรั่วไหลข่าวสารจากวีกิลีกส์
นายมาร์ค มุกควาย ตอหลดในครั้งแรก ว่า
คุณโอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐไม่เคยโทรมาหา ตามรายงานที่ปรากฏในวิกิลีกส์
แต่ตอนหลังกลับบอกว่า คุณโอบามาโทรมาคุยเรื่อง Ipad เท่านั้น
พูดเหมือนคนไทย เอาแกลบและรำ หุงแทนข้าว!
ก็แล้วอย่างนี้ จะไม่ถูกด่าได้อย่างไรกัน!!?
สำหรับรัฐบาลอเมริกันและสถานทูต
และตัวเอกอัครราชทูต ที่ออกมาตีสองหน้า แถลงแถด้วยภาษาการทูตวกๆวนๆ
ก็สมควรจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ และโดนด่าร่วมกับนายมาร์ค มุกควาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
ผู้เขียนไม่ขอด่า หรือตำหนิ ฝ่ายอเมริกันด้วยตัวเอง
เพราะจะโดนเก็บเอาไปนินทาว่า เป็นคน ‘ปากร้าย’
เลยต้องให้อดีตประธานาธิบดี จอร์จ บุช ช่วยแสดงออกถึงความไม่พอใจ รัฐบาลสหรัฐ
และสถานทูตอเมริกัน ในกรณีวิกิลีกส์ แทนพวกเราคนไทยทั้งประเทศด้วย...
คุณบุชไม่ได้ใช้คำพูด ต่อว่าต่อขานรัฐบาลและสถานทูตอเมริกันโดยตรง
แต่ก็ได้แสดงออกถึงทีท่าไม่พอใจอย่างขึงขังและเข้มแข็ง แทนพวกเราคนไทยไปแล้ว...
อย่างที่ท่านเห็นในภาพ...นั่นแหละครับ!!
..........................
***หมายเหตุ ยังไม่ได้บอกท่านอดีตประธานาธิบดี
ให้ช่วยแสดงท่าที กับรัฐบาลโลซกของ นายมาร์ค มุกควาย แทนพวกเราคนไทยด้วย
ทั้งนี้ ก็เพราะเป็นห่วงว่า...
คุณบุชจะชูนิ้ว ค้างหราไว้...ไม่ยอมเอาลง!!!
(บทความตอน ต้องให้ ‘จอร์จ บุช’ แสดงแทนคนไทย ออนไลน์วันเสาร์ ที่ 11 ธันวาคม 2553)
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=266
เปลี่ยน ศอฉ. เป็น ศอจ. (ศูนย์แอบดูจิ๋ม!) ไปให้เจ้าหน้าที่ เตรียมออนไลน์ล่วงหน้าสองวัน
เพราะจะติดวันหยุดยาว
แต่พอถึงวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค.2553 ต้นฉบับขึ้นโชว์หน้าเว็บ เป็นวันเดียวกับหนังสือพิมพ์ลงข่าว ว่า
ฝ่ายพันธมารประกาศ ระงับการชุมนุมซะแล้ว โดยอ้างเหตุว่า
เนื่องจากเป็นเดือนมงคล จึงขอเลื่อน แต่ก็ยังทำปากเก่งว่า
...จะไปชุมนุมกันปีหน้า!
โง่จนไม่รูว่า เป็นเดือนมงคล...ดูมัน!
จึงเป็นเหตุให้ข้อเขียน เปลี่ยน ศอฉ. เป็น ศอจ. (ศูนย์แอบดูจิ๋ม!) ของผม เลยดูกร่อยไปหน่อย
เพราะคิดไม่ถึง เถรจำลองฯและแก๊งพันธมารจะหาทางออก ด้วยการเล่นมุกควายง่ายๆแบบนี้
อย่างไรก็ตาม
พอถึงวันอังคาร ที่ 7 ธ.ค. 2553 ราชการเปิดทำการ
พนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดี ที่กลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึด 'ทำเนียบ-สนามบิน'
หากอัยการมีความเห็น “สั่งฟ้อง” ก็จะต้องนำตัวตาเถรจำลองฯ แอนด์เดอะแก๊งไปศาล
แต่ทางอัยการท่านก็ใจดี เลื่อนการสั่งคดีไปอีก 1 ครั้ง
คดีดังกล่าว อัยการได้นัดฟังคำสั่งครั้งแรก ตั้งแต่ 28 พ.ค. 52
แต่มีการเลื่อนไป เป็นวันที่ 14 ก.ค.52 จากนั้นก็ติดโรคเลื่อน
และเลื่อนๆๆๆๆๆ ต่อเนื่องมาอีกถึง 7 ครั้ง 7 ครา
หนสุดท้ายคือครั้งที่ 7 เลื่อนจาก 7 ต.ค.53 มาเป็น 7 ธ.ค.53
ครั้นพอถึงวัดนัดครั้งที่ 7 ก็ประกาศเลื่อนอีกครั้ง เป็น ครั้งที่ 8
ไปโดยเลื่อนไปเป็น วันที่ 9 ก.พ. 54 โน่น
จากนัดครั้งแรก หรือครั้งที่ 1 ไปจนถึงการนัดครั้งที่ 8
ก็รวมเวลาได้ 1 ปี กับอีก 9 เดือน
คอการเมืองพากันวิพากษ์วิจารณ์กันว่า นี่เป็นทางการตอบแทน
ที่พันธมารไม่ชุมนุมเดือนมงคล เลยมีการเม้าท์เสียดสีกันเล็กๆว่า
“แม่งงงง!...ถ้าเลื่อนไปถึงชาติหน้าได้ มันคงเลื่อนให้!”
ท่านอธิบดีอัยการ กายสิทธิ์ พิศวงปราการ ก็อย่าไปถือสาหรือพิศวงงงงวยอะไรเลย
เพราะปากคนไทยที่กินน้ำพริก ก็จัดจ้านเป็นธรรมดา อย่างนี้แหละน่า!!...555
ก่อนถึงวันเฉลิมฯ ได้มีข่าวเรื่องข่าวของ วิกิลีกส์ (Wikileaks)
แพร่ออกมาเป็นข่าวนำทางสื่อทุกชนิด และกลายเป็นหัวข้อ ให้ผู้คนในบ้านเมืองของเรา
ได้สนทนาด่าทอกันลั่น โดยมีรัฐบาลทั้งสหรัฐและไทย ตกเป็นจำเลยขี้ปากของทั้งคอการเมือง
และพวกที่ไม่ใช่
ภาพลักษณ์อเมริกันชน ซึ่งเคยค่อนข้างดี
ในความคิดคนไทยมายาวนาน มาหนนี้ ได้ถึงกาลตกต่ำไปอย่างน่ากลัว
ผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ วิพากษ์วิจารณ์เอาเสียๆหายๆว่า
การเปิดเผยของวิกิลีกส์ครั้งนี้ ทำเอาความเชื่อถือของคนไทยที่เคยมีต่อสหรัฐ
เสื่อมทรุดลง อย่างเห็นได้ชัด!
สหรัฐอเมริกานั้น เป็นชาติใหญ่ที่แทบจะไม่เคยมีเรื่อง
ด้านการสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนไทย แถมอเมริกันชน
และรัฐบาลของพวกเขา
ยังเคยมีบทบาทในการช่วยเหลือเมืองไทย มากกว่าชาติอื่นๆด้วยซ้ำไป เช่น
ในเรื่องด้านการศึกษาของไทยนั้น
คณะมิชชันนารีอเมริกัน ได้เข้ามาวางรากฐานให้กับเมืองไทย
โดยเฉพาะการศึกษาของผู้หญิง
ด้วยการตั้งโรงเรียนกุลสตรีวังหลัง จนกลายมาเป็นโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยในปัจจุบัน
ผู้สำเร็จจากโรงเรียนนี้ในระยะต้น ได้กลายเป็นกำลังสำคัญ
ในการวางรากฐาน ให้กับโรงเรียนสตรีอื่นๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคด้วย
นอกจากนั้น การเผยแพร่คริสต์ศาสนาทางภาคเหนือของไทย
ก็ทำให้เกิดสถานศึกษาที่สำคัญ และพัฒนารุ่งเรืองมา จนกระทั่งทุกวันนี้ นั่นคือ
มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่
การศึกษาอย่างภาษาอังกฤษนั้น
คนอเมริกันก็มีส่วนอย่างสำคัญ มากกว่าชาวอังกฤษเจ้าของภาษาด้วยซ้ำ
แม้แต่พจนานุกรมของไทย คุณหมอปลัดเล และ มิสเตอร์แมคฟาแลนด์
ก็ทำให้ชาวเรามาก่อนคนไทยจะคิดทำ นานถึงครึ่งค่อนศตวรรษ
เพราะกว่า คุณ ส.เสถบุตร จะพิมพ์พจนานุกรมไทย- อังกฤษ
ซึ่งเป็นที่รู้จักก็ปี พ.ศ.2480 เข้าไปแล้ว
ที่ถือว่าสหรัฐอเมริกา มีบุญคุณต่อเมืองไทยอยู่มาก และไม่อาจลืมได้เลย นั่นคือ
การสนับสนุนไทย ไม่ต้องกลายเป็น “ผู้แพ้” ตามญี่ปุ่น “มหามิตร” ในสงครามโลกครั้งที่ 2
เรื่องนี้...ใหญ่หลวงนัก!
ทางการไทยก็ซาบซึ้งในเรื่องดังกล่าว และตอบแทนด้วยการยกที่ดิน
ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านพักของเอกอัครราชทูตสหรัฐปัจจุบันให้ เป็นการสำนึกในบุญคุณชาวอเมริกัน
แม้จะทดแทนกันได้ไม่หมดก็ตาม
ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้ผมแปลกใจมาก ก็คือ
เมื่อ “ไอ้บัง กบฏ” กับพวก มันกระทำการละเมิดต่อองค์พระมหากษัตริย์เจ้าชาวสยาม
ด้วยการเข้ายึดอำนาจของปวงชนชาวไทย
เมื่อ 19 ก.ย.2549 นำความฉิบหายใหญ่หลวง มาสู่บ้านเมืองของเรา
จนยับเยินมากระทั่งถึงปัจจุบัน นั้น
รัฐบาลอเมริกันหรือสถานทูตของเขา
ในฐานะที่เป็นผู้นำของโลกประชาธิปไตย กลับนิ่งเงียบ ไม่เคลื่อนไหว ออกมาประณาม
หรือแสดงทีท่าไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารครั้งชั่วร้ายนั้น แต่อย่างใดเลย!
ผิดวิสัยผู้นำชาติ ในโลกเสรียิ่งนัก!!
นอกจากนั้น รัฐบาลลุงแซมยังทำให้คนรักในระบอบประชาธิปไตย
ต้องขุ่นเคืองใจ ที่ดันไปออกวีซ่าให้ “ไอ้บัง กบฏ”
มันเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา ไปลอยหน้าลอยตา
สาธยายเรื่องการทำรัฐประหารของมัน ให้คนไทยในสหรัฐฟังเสียอีก
รัฐบาลอเมริกันเลยถูกมองว่า ไม่ยึดหลักการในการเป็นชาติพี่เบิ้มของโลกเสรี
แต่ดันกลับข้างไปสนับสนุน ผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย
ซึ่งทางอเมริกันก็ทราบดีแก่ใจดีว่า
รัฐประหารในครั้งนั้น ทำให้เมืองไทยถอยหลัง บ้านเมืองทรุดโทรม
ผู้คนในชาติแตกแยกกันล้ำลึก แต่ไอ้พวกระยำที่ร่วมกันก่อการเลวในครั้งนั้น
กลายเป็น ‘ผู้มั่งคั่ง’ ...ร่ำรวยกันไปถ้วนทั่ว!!!
สิ่งที่รัฐบาลอเมริกันทำไป ให้ประชาชนคนไทยได้เห็นในตอนรัฐประหารเลวร้ายครั้งนั้น
ก็เพียงแค่ปฏิบัติตามกฎของตน ในการไม่ขายอาวุธให้รัฐบาลไทย
ที่มาจากการรัฐประหาร แต่กลับเป็นการเปิดโอกาส ให้กองทัพไทยสามารถไปชอปปิ้ง
ซื้อหาอาวุธยุทโธปกรณ์ จากชาติอื่นด้วยความสนุกสนาน เช่น
ไปเครื่องบินรบจากสวีเดน ในราคาที่แพงลิบลิ่ว!
นายมาร์ค มกควาย ในฐานะผู้นำรัฐบาล “โคตรคอรัปฯ” ทนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ไหว
ต้องทำทีเป็นสั่งตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนฝ่ายทหารแบบเกรงๆ กลัวๆ
ทั้งนี้ ก็เพราะ...
รัฐบาลของตัวเอง ก็มีเรื่องทุจริตมากมายนับกันไม่หวาดไม่ไหว
ที่ฝ่ายทหารสามารถนำไปอ้าง เป็นสาเหตุแห่งการปฏิวัติ ได้ง่ายดายมากกว่า
ที่คณะรัฐประหารต่างๆ เคยใช้เป็นข้ออ้างมาแล้วในอดีตด้วยซ้ำไป เพราะ...
รัฐบาลโลซกชุดนี้ มีสาเหตุอัปรีย์ดังกล่าว ปรากฏต่อสาธารณชน...เพียยยยยบ!
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงวันนี้ คนไทยยังถกกันให้อื้ออึง ถึงเรื่องวิกิลีกส์
ที่จงใจ Leak หรือทำให้ “รั่ว” ออกมาซึ่งข่าวสาร ที่เกี่ยวกับรัฐบาลไทยและอเมริกัน ในทำนองว่า
ฝ่ายอเมริกันนั้น ใช้อิทธิพลเข้ามา กดดันรัฐบาลไทยมากเกินเหตุ!
เรื่องที่แย่มากสุดก็คือ กรณีของมิสเตอร์ วิคเตอร์ บูธ
ซึ่งทำให้ศาลไทยมัวหมองไปด้วย
เพราะนายอภิแสบฯถูกนินทาว่า ใช้อิทธิพลเข้ากดดันศาล ตามคำเรียกร้องของสหรัฐอเมริกา
นี่เอง...ยิ่งทำให้คนไทย อารมณ์เสียเพิ่มขึ้นอีกเป็นอันมาก เลยด่ายับเยินไปเลย
ทั้งรัฐบาลอเมริกา และรัฐบาลโลซกของไทย
ปัญหาต่อไป ก็มีอยู่ว่า
จะมีเรื่องเลวร้ายอะไรมากไหม ที่จะหลั่งไหลออกจากวิกิลีกส์ มาสู่สาธารณชนอีก?
คนไทยทั้งหลาย ตั้งตาคอยอยู่ อย่างกระหายใคร่รู้ เพราะดูเหมือนว่า
ความเลวร้ายต่างๆ ตั้งแต่ “ไอ้บัง กบฏ” ได้ปฏิบัติการกาลีทำลายบ้านเมืองไทยของเราแล้ว
ความระยำตำบอนต่างๆ ทั้งบุคคล หน่วยงาน องค์การ สถาบันต่างๆ
ก็ได้ถูกตีแผ่ออกมาทางสื่อสาธารณะ ทั้งลับและแจ้ง จนดูเหมือนว่า
เมืองไทยของเรานั้น จะหา ‘คนดี’ ได้ยากเต็มทีแล้ว!
สำหรับผมนั้น มีความเห็น ว่า
กรณีวิกิลีกส์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยครั้งนี้ รัฐบาลอเมริกันน่าจะสำเหนียกว่า
ในภูมิภาคนี้ มีแต่ประเทศไทยและคนไทยเท่านั้น ที่ยังแสดงความเป็นมิตร
และจริงใจกับอเมริกันชน มากกว่าคนชาติอื่น
ลาว เขมร และเวียตนาม นั้น
สหรัฐอเมริกาก็ได้สร้างความพินาศฉิบหาย ให้กับบ้านเมืองของพวกเขา
อย่างมากมายพันลึก ผู้คนในถิ่นอินโดจีนต้องบาดเจ็บ ล้มตาย และพิการ เพราะ...
ฝีมืออเมริกัน...นับล้านๆคน!
ส่วนประเทศพม่า นั้นหรือ ไม่ต้องพูดถึง พวกเขาเกลียดชังอเมริกัน...เข้าไส้!!
สำหรับมาเลเซีย เป็นชาติมุสลิม ดังนั้น ไอ้เรื่องจะให้ไว้วางใจอเมริกันนั้น...ไม่มีเสียละ!!
เหลือที่ยืนหยัดโด่เด่ เป็นมิตรกับอเมริกัน ก็ไทยแลนด์ ‘แดนสยอง’ นี่แหละ!!!
คนมีอายุมากอย่างผม ก็ได้แต่คิดว่า
ถ้าหากคนไทยเราเกิดชิงชังอเมริกัน ตามชาติเพื่อนบ้านเขาไปด้วย
(ซึ่งปัจจุบันกำลังทวีจำนวนมากขึ้น ในบ้านเมืองของเรา)
การไปมาในภูมิภาคนี้ ของอเมริกันชนคงจะหาความสบายใจ และความปลอดภัย ค่อนข้างยาก
คนอเมริกันก็อาจไม่อยากมา
หรือลดจำนวนไปจากภูมิภาคนี้ หรือหากจะหลงเหลือติด ก็คงน้อยลงเต็มที!
ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนในฐานะ “มือข่าว” เก่า มีโอกาสทั้งได้ยินได้ฟัง
และได้เห็นหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ ภาพนิ่ง และคลิปเสียงฯลฯ ต่างๆมากมาย
ซึ่งมีมาถึงผม จากหลากหลายช่องทาง
ล้วนแล้วแต่ทำให้บุคคล องค์การ สถาบันต่างๆในประเทศของเราต้องเสื่อมเสียร้ายแรง
จนทำให้จิตใจของผม
หดหู่เอามากๆ!
ไม่นึกเลยว่า บ้านเมืองของเรา จะตกต่ำไปในวังวนแห่งความชั่วร้าย ได้มากมายถึงเพียงนี้
บอกตรงๆว่า
ศรัทธาและความเชื่อมั่น ที่เคยมีให้ประเทศของเราอย่างเต็มเปี่ยมนั้น
ได้ถูกบั่นทอน ให้ลดน้อยถดถอยลงเป็นอันมาก จนต้องมานั่งนึกว่า
บ้านเมืองของเรา ตกต่ำมาถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน? จนถึงขั้นสื่อต่างชาติบอกว่า
เมืองไทยเรานั้น ได้กลายเป็น “ดินแดนอันตราย” ไปเสียแล้ว
ผมต้องขอทิ้งให้ท่านผู้อ่าน หนุ่มสาว อยู่ในวัยทำงานและแข็งแรง ได้โปรดช่วยกันคิด
และหาทางออกให้กับชาติของเราด้วย
อยากจะบอก กับท่านผู้อ่านว่า
เราอย่าไปคาดหวัง หรือฝากอนาคตของบ้านเมือง ไว้กับ
รัฐบาลโลซกของ นายมาร์ค มุกควาย ที่ผมวิจารณ์กระหน่ำแหลกลาญนมนานมาแล้ว
เพราะรู้สันดานพรรคนี้ดี ตั้งแต่ไอ้คนพวกนี้ ยังไม่ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำไป
ลองเปิดคอลัมน์เก่าของ “วาทตะวัน” ย้อนอ่านดู ท่านก็จะพบความจริง
ผมเห็นว่า...
ไอ้แก๊งดักดานนี้ มันทำแต่เรื่องไม่ชอบมาพากล
พอมีโอกาสบริหารบ้านเมืองคราใด ก็ทุจริตเหลือกำลังลากครานั้น
แต่ข่าวที่ leak เล็ดลอดจากวิกิลีกส์ในครั้งนี้
ทำให้คนไทยมีรื่องต้องด่ารัฐบาล ‘อัปลักษณ์-ร้อยศพ’ ชุดนี้เพิ่มเติม
โดยเฉพาะเรื่องการรั่วไหลข่าวสารจากวีกิลีกส์
นายมาร์ค มุกควาย ตอหลดในครั้งแรก ว่า
คุณโอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐไม่เคยโทรมาหา ตามรายงานที่ปรากฏในวิกิลีกส์
แต่ตอนหลังกลับบอกว่า คุณโอบามาโทรมาคุยเรื่อง Ipad เท่านั้น
พูดเหมือนคนไทย เอาแกลบและรำ หุงแทนข้าว!
ก็แล้วอย่างนี้ จะไม่ถูกด่าได้อย่างไรกัน!!?
สำหรับรัฐบาลอเมริกันและสถานทูต
และตัวเอกอัครราชทูต ที่ออกมาตีสองหน้า แถลงแถด้วยภาษาการทูตวกๆวนๆ
ก็สมควรจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ และโดนด่าร่วมกับนายมาร์ค มุกควาย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
ผู้เขียนไม่ขอด่า หรือตำหนิ ฝ่ายอเมริกันด้วยตัวเอง
เพราะจะโดนเก็บเอาไปนินทาว่า เป็นคน ‘ปากร้าย’
เลยต้องให้อดีตประธานาธิบดี จอร์จ บุช ช่วยแสดงออกถึงความไม่พอใจ รัฐบาลสหรัฐ
และสถานทูตอเมริกัน ในกรณีวิกิลีกส์ แทนพวกเราคนไทยทั้งประเทศด้วย...
คุณบุชไม่ได้ใช้คำพูด ต่อว่าต่อขานรัฐบาลและสถานทูตอเมริกันโดยตรง
แต่ก็ได้แสดงออกถึงทีท่าไม่พอใจอย่างขึงขังและเข้มแข็ง แทนพวกเราคนไทยไปแล้ว...
อย่างที่ท่านเห็นในภาพ...นั่นแหละครับ!!
..........................
***หมายเหตุ ยังไม่ได้บอกท่านอดีตประธานาธิบดี
ให้ช่วยแสดงท่าที กับรัฐบาลโลซกของ นายมาร์ค มุกควาย แทนพวกเราคนไทยด้วย
ทั้งนี้ ก็เพราะเป็นห่วงว่า...
คุณบุชจะชูนิ้ว ค้างหราไว้...ไม่ยอมเอาลง!!!
(บทความตอน ต้องให้ ‘จอร์จ บุช’ แสดงแทนคนไทย ออนไลน์วันเสาร์ ที่ 11 ธันวาคม 2553)
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=266