WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, December 10, 2010

เว็บผู้ให้บริการบัตรเครดิต เจอแฮกเกอร์ถล่มหลังถอนตัวจาก WikiLeaks

ที่มา ประชาไท

9 ธ.ค. 2553 - มติชนออนไลน์ รายงานว่า นักขโมยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ (แฮ็คเกอร์) ได้โจมตีเว็บไซต์ของบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตชั้นนำ อาทิ มาสเตอร์การ์ด และวีซ่าแล้ว หลังจากกลุ่มแฮ็คเกอร์ที่ไม่สามารถระบุตัวได้ ยืนยันที่จะติดตามสองบริษัทดังกล่าวอย่างไม่ลดละ หลังจากที่ทั้งคู่ถอนการให้บริการการชำระเงินจากวิกิลีกส์

ระบบการ ชำระเงินของมาสเตอร์การ์ดถูกรบกวนอย่างหนัก แต่บริษัทกล่าวว่า การกระทำครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้บัตรดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนวีซ่า กล่าวว่าตนประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน

โดย "บุคคลไร้นาม" ซึ่งทำการ "ปฏิบัติการตอบโต้" (Operation Payback) ได้กล่าวในทวิตเตอร์ของตนว่า เว็บไซต์ของวีซ่า "ล่ม" แล้ว

แต่ ภายหลังบริษัทวีซ่าได้กู้ข้อมูลของตนเองกลับมาอีกครั้ง และนายเท็ด คาร์ โฆษกของวีซ่ากล่าวว่า ระบบการปฏิบัติการซึ่งดูแลด้านการทำธุรกรรมของผู้ถือบัตรกลับมาดำเนินการตาม ปกติแล้ว และหน้าทวิตเตอร์ดังกล่าวได้หายไป โดยปรากฏข้อความจากทวิตเตอร์ที่ว่า บัญชีผู้ใช้ดังกล่าวได้ถูกยกเลิกชั่วคราว

ทวิตเตอร์กล่าวว่า ตนจะไม่แสดงความคิดเห็นต่อ "การกระทำต่อบัญชีผู้ใช้เฉพาะราย" อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า ข้อมูลที่ "บุคคลไร้นาม" เผยแพร่ออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก็คือลิงค์เพื่อเชื่อมต่อไปยังแฟ้มข้อมูลของ ผู้ถือบัตรเครดิต

นายพอล มัตตอน จากเน็ตคราฟท์ ซึ่งคอยจับตาดูการโจมตีครั้งนี้ กล่าวว่า บริษัทวีซ่าได้เริ่มจับตากลุ่มแฮ็คเกอร์ที่ใช้อินเตอร์เน็ตในการส่งข้อความ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไปยังบุคคลอื่นๆ (hacktivist) ซึ่งเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มากกว่า 2,000 รายแล้ว เมื่อเทียบกับบริษัทมาสเตอร์การ์ด ซึ่งมีเพียง 400 ราย

มาสเตอร์ การ์ดยอมรับว่า "มีความขัดข้องในการให้บริการ" จริง ซี่งเกี่ยวข้องกับระบบ "SecureCode" (รหัสรักษาความปลอดภัย) และกล่าวเสริมว่า "เราจะไม่ยอมให้สมรรถนะในระบบปฏิบัติการหลักของเราอ่อนแอลง และข้อมูลทั้งหมดของผู้ถือบัตรจะไม่ตกอยู่ในความเสี่ยงเด็ดขาด และยังคงใช้บัตรในการทำธุรกรรมต่างๆได้ตามปกติทั่วโลก

ในขณะที่ "เพย์พัล" (PayPal) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการเพื่อเป็นช่องทางในการบริจาคเงินให้กับวิกิลีกส์ ก็ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีเช่นกัน โดยกล่าวว่าบัญชีผู้ใช้ของวิกิลีกส์ "ละเมิดข้อตกลงด้านการให้บริการ"

"วันที่ 27 พย.ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายไปยังวิกิลีกส์ เพื่อแจ้งว่ากิจกรรมของวิกิลีกส์เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมายของสหรัฐฯ" นายโอซามา เบดิเยร์ ผู้บริหารของเพย์พัล กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่ประเทศฝรั่งเศส

"เราตัดสินใจที่จะยกเลิกการให้บริการแก่วิกิลีกส์ และมันเป็นไปตามความคิดเห็นอย่างสัตย์จริง ไม่มีสิ่งใดแอบแฝงทั้งสิ้น"

นอก จากนั้น ยังมีบริษัทที่ "ตีตัวออกห่าง"วิกิลีกส์ และถูกโจมตีโดยแฮ็คเกอร์แล้ว รวมถึง ธนาคารสวิสแบงค์ และ ธนาคารโพสต์ไฟแนนซ์ ซึ่งยกเลิกบัญชีเงินฝากของนายจูเลียน แอสเซนจ์ ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์

"บุคคลไร้นาม" ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ปฏิบัติการดังกล่าว ถูกจัดตั้งขึ้นอย่างหลวมๆโดยกลุ่มนักแฮ็คเกอร์ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบอร์ดแสดงความเห็นที่อื้อฉาวอย่าง "4chan" และกล่าวว่าตนได้พุ่งเป้าโจมตีไปยังหลายเป้าหมาย โดยกล่าวต่อสำนักข่าวเอพีว่า กลุ่มจะยังคงแสดงการต่อต้านต่อบุคคลใดก็ตาม "ที่ต่อต้านวิกิลีกส์"

ก่อนหน้าการโจมตีมาสเตอร์การ์ด กลุ่ม"บุคคลไร้นาม" ซึ่งเรียกตนเองว่ากลุ่ม "เลือดเย็น" กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนได้กระทำการ "หลายสิ่งหลายอย่าง" โดยพุ่งเป้าไปยังบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ที่ยกเลิกการติดต่อกับวิกิลีกส์ หรือที่พยายามโจมตีเว็บไซต์ดังกล่าว

"เว็บไซต์ที่ยอมก้มหัวให้กับแรง กดดันจากรัฐบาลจะต้องตกเป็นเป้าหมายทั้ง สิ้น ในฐานะองค์กรที่ทำงานเพื่อการแสดงออกอย่างมีเสรีภาพบนอินเตอร์เน็ต เรา รู้สึกว่าวิกิลีกส์เป็นมากกว่าแค่การเปิดเผยข้อมูลลับ แต่กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิรบระหว่างประชาชนและรัฐบาล" สมาชิกกลุ่มรายหนึ่งกล่าว

กลุ่ม "เลือดเย็น" ยอมรับว่า การโจมตีเช่นนี้อาจกระทบต่อประชาชนที่พยายามเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกโจมตี แต่กล่าวเพิ่มเติมว่า "มันอาจกระทบต่อสิ่งที่คนเหล่านั้นต้องการจะบอกบริษัทเหล่านั้นว่า "เรา" ผู้เป็นประชาชน รู้สึก "ไม่พอใจ"

ที่มา - มติชนออนไลน์