ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ไม่ได้เหนือความคาดหมายเลย
สำหรับกรณีศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์คดีเงินบริจาคทีพีไอ 258 ล้านบาท
ก่อนหน้าที่ลุ้นกันอยู่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะแค่นัดพร้อมคู่กรณี
หรือจะมีคำพิพากษาออกมาในวันเดียวกันเลย
แต่สุดท้ายตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินคดีนี้ทันที
มีมติออกมา 4 ต่อ 3 ให้ยกคำร้อง
ให้เหตุผลว่า นายทะเบียนพรรคการเมืองไม่ได้มีความเห็นให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
และการที่กกต.เสียงข้างมาก 4 เสียงมีมติส่งให้อัยการสูงสุด
เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์คดีเงินบริจาค 258 ล้านเป็นการข้ามขั้นตอน
ชนะฟาวล์เหมือนกับคดีกกต. 29 ล้าน!
ว่ากันตามจริง ชาวบ้านรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้นกับการตัดสินครั้งนี้เท่าไหร่นัก
อาจเป็นเพราะมีกระแสมาก่อนหน้านี้แล้วว่า
ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้บรรทัดฐานเดียวกับคดี 29 ล้านในการชี้ขาด
ถ้าผลตัดสินออกมาว่ายุบพรรคประชาธิปัตย์ถึงจะน่าแปลกใจ!?
พรรคเพื่อไทยเองก็อาจจะลุ้นให้ "ไม่ยุบ" เสียด้วยซ้ำ
จะได้เอาประเด็น"มือที่มองไม่เห็น"
ไปขยายแผล ปลุกกระแสคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านประชาธิปัตย์ได้อีกระลอกใหญ่
เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า!
ต้องยอมรับว่าการตัดสินคดี 258 ล้านคล้ายกับ 29 ล้านมากๆ
เหตุผลในการยกคำร้องเป็นเรื่องเทคนิคในกระบวนการยื่นฟ้องล้วนๆ
จึงไม่จำเป็นต้องไปลงในรายละเอียดว่า
พรรคประชาธิปัตย์ทำผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือเปล่า?
และเหมือนกันมากเข้าไปอีกในประเด็นที่ทำให้ต้องยกคำร้อง
เพราะมาจากตัวนายทะเบียนพรรคการเมืองเหมือนกัน!!
คดี 29 ล้าน นายทะเบียนพรรคการเมืองส่งคดีเกินเวลา 15 วันที่กฎหมายกำหนด
คดี 258 ล้าน นายทะเบียนพรรคการเมืองไม่ได้มีความเห็นให้ยุบพรรค ค้านมติกกต.เสียงข้างมากที่ให้ยุบ
ฉะนั้น จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.
ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองตกเป็นเป้าอีกครั้ง
คดีแรกก็โดนวิจารณ์ว่าเป็น "ตัวช่วย" ให้พรรคประชาธิปัตย์รอดถูกยุบ
มาคดีหลังก็ไม่วายโดนวิจารณ์ว่าเป็น "มือที่มองเห็น" อีก เพราะมีตัวตนเห็นกันจะจะ
แต่จะด้วยข้อผิดพลาดอะไรก็ตาม
ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์รอดพ้นจากการถูกยุบพรรคเป็นครั้งที่ 2
นายอภิชาตก็ต้องก้มหน้ารับผิดชอบไปเต็มๆ
ส่วนศาลรัฐธรรมนูญก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าไม่ 2 มาตรฐาน
ในรอบ 10 วันตัดสินไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ถึง 2 หน
มีแค่มาตรฐานเดียวเท่านั้น!?