ที่มา บางกอกทูเดย์
ความแตก!! คดีวิคเตอร์ บูท
'วิกิลีคส์' สวน 'โอบามาร์ค'
การ ที่รัฐบาลไทยรีบเร่งส่งตัว “นายวิคเตอร์ บูท” พ่อค้าอาวุธสงคราม ไปให้ทางการสหรัฐฯ ดำเนินคดีในข้อหา “ก่อการร้าย” ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับ “รัฐบาลรัสเซีย” ถึงกับมีการออกมาตำหนิการกระทำของรัฐบาลไทยว่า
“เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ...และรัสเซียจะมีมาตรการตอบโต้ไทยอย่างถึงที่สุด”
เรื่อง ดังกล่าวดูมี “เงื่อนงำ” และ “ความลับ” อะไรบางอย่างปิดซ่อนอยู่ และก็ถือเป็นเรื่องยากที่จะสืบเสาะเพื่อดึงเอาความลับของทางราชการระหว่าง ทั้งสองประเทศออกมาเปิดเผยตีแผ่ เพราะถือเป็นการปกป้งข้อลมูลระดับสูงสุดเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของ ประเทศ...แต่ในช่วงเวลาที่หลายคนอยากรู้เกิดอะไรขึ้น? ก็มีอัศวินขี่ม้าขาวอย่าง “วิกิลีคส์” HYPERLINK "http://www.wikileaks.org" www.wikileaks.org เว็บไซต์จอมแฉที่ปรากฎกายออกมาในช่วงเวลาคับขันพอดิบพอดี
“วิกิ ลีคส์” ได้เผยแพร่เอกสารลับของสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ซึ่งรายงานกลับไปยังกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ จำนวน 2 ฉบับ โดยมีความเกี่ยวข้องกับคดีการส่งตัว “นายวิคเตอร์ บูท” เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเป็นบันทึกที่เขียนขึ้นในช่วงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 หลังจากที่นายอีริค จี จอห์น เอกอัคราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เข้าพบ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความห่วงใยว่าอาจมีอิทธิพลแทรกแซงคดี
รวมทั้งเน้นย้ำ ว่า...คดีของนายวิคเตอร์ บูทนั้น เป็นประเด็นที่สหรัฐฯให้ความสนใจอย่างยิ่ง และขอให้นายกรัฐมนตรี ช่วยตรวจสอบว่ามีความผิดปกติในคดีนี้หรือไม่? โดยในเอกสารฉบับนี้มีข้อความระบุว่า...
กระบวนการส่งตัวดำเนินไปตาม ทิศทางที่สหรัฐต้องการ แม้จะล่าช้ามาก แต่ระยะหลังเริ่มมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ผู้ที่สนับสนุนชาวรัสเซีย ใช้เงินติดสินบนเพื่อแทรกแซงคดีส่งตัว “นายวิคเตอร์ บูท”
ส่วน เอกสารลับอีกฉบับ “เว็บไซต์วิกิลีคส์” ระบุว่า...สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552 ซึ่งเป็นการแสดงถึงความกังวล และผิดหวังที่เพิ่มมากขึ้นของสหรัฐ หลังศาลชั้นต้น ยกคำร้องของส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของสหรัฐ ในการใช้ช่องทางทางการทูตเพื่อกดดัน
ทั้งการที่เอกอัครราชทูต โทรศัพท์พูดคุยกับ “นายกษิต ภิรมย์” รัฐมนตรีต่างประเทศ เพื่อแสดงความผิดหวังต่อผลการตัดสิน รวมทั้งมีข้อเสนอแนะให้ประธานาธิบดี “บารัค โอบาม่า” โทรศัพท์สายตรงถึงนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคดีนี้
นอกจากนั้น เอกสารฉบับนี้ยังมีข้อความระบุว่า ทางสหรัฐต้องการเน้นให้เห็นว่าท่าทีของผู้บริหารของทางการไทยที่มีต่อคดีนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐ ขณะที่ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี รับว่าเอกอัครราชทูตสหรัฐได้เข้าพบจริงเมื่อปีที่แล้ว แต่ปฏิเสธเรื่องการโทรศัพท์สายตรงคุยกับผู้นำสหรัฐ
“นายวิคเตอร์ บูท” ถูกทางการไทยจับกุมและตัดสินจำคุก ในข้อหาร่วมคิดวางแผนค้าอาวุธแก่กลุ่มก่อการร้าย เมื่อเดือน มี.ค.2551 และขึ้นศาลสู้คดีเป็นเวลากว่า 2 ปีครึ่งก่อนถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว
นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยการ เปิดเผยของ “เว็บไซต์วิกิลีคส์” โดยสื่อต่างประเทศกำลังประโคมข่าวว่ารัฐบาลไทยกับสหรัฐฯ กำลังจับมือ “สมรู้ร่วมคิด” โดยมีเบื้องหน้าคือการให้ความร่วมมือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน...แต่เบื้องหลัง ที่ไม่มีใครรู้ นั่นคือ การให้คำมั่นสัญญาเพื่อให้เกิดการ “สมประโยชน์” ระหว่างสองฝ่าย
ฝ่ายสหรัฐฯ คือ ผลสำเร็จของการ “หักเหลี่ยม” ประเทศรัสเซียในทางดุลอำนาจของโลก...ส่วนรัฐบาลไทยกำลังมีหนามยอกอกคือการ ออกคำสั่งให้มีการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. และ 19 พ.ค. 53 จนมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต และหลายคดีกำลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมใน “ศาลระหว่างประเทศ”
ดังนั้นรัฐบาลไทยจำเป็นต้องหาตัวช่วย!
หลาย คนสงสัยว่าทำไม “เว็บไซต์วิกิลีคส์” จึงกล้านำข้อมูลสำคัญ ซึ่งอาจเป็นฉนวนและอาจกลายเป็นประเด็นสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศออกมา เปิดเผยตีแผ่...พวกเขาไม่กลัว “อำนาจมืด” เข้ามาข่มขู่คุกคามเลยหรือ? โดยเฉพาะคนเป็นโรค “ขี้กลัว” หรือ “หวาดระแวง” มองว่า...การที่ “วิกีลีคส์” นำข้อมูลออกมาแฉเพื่อให้ “สหรัฐฯ” กับ “รัสเซีย” มีอารมณ์โกรธเดือดดาลกันมากขึ้น...อาจนำไปสู่ “สงครามข้ามทวีป” ก็เป็นได้
หาก ใครที่ยังไม่รู้จัก “วิกิลีคส์” คงต้องบอกว่า...นี่คือ “งานถนัด” ของพวกเขา...โดยเฉพาะงานที่เสี่ยงกับอันตราย เพระเป็นเวปไซต์ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ว่ากันว่าเป็น “ความลับ” ทั้งจากภาครัฐและเอกชนทั่วโลก โดยรับประกันเรื่องความปลอดภัยและการรักษาความลับของแหล่งข้อมูล
หรือ พูดง่ายๆ คือเมื่อก่อนหากเรามีข้อมูลหรือเอกสารที่เป็นความลับอยู่ในมือ 1-2 ฉบับ เราไม่รู้จะนำออกเผยแพร่ที่ไหน เพราะห่วงเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งอาจโดนตามเก็บ ตามอุ้ม ได้ไม่ยาก
แต่ในปัจจุบัน หากเรามีเอกสารหลักฐานที่เป็นความลับ เกี่ยวกับการทหาร นักการเมือง เราก็สามารถส่งข้อมูลเหล่านี้ไปยัง “วิกิลีคส์” เพื่อทำการอัพโหลดขึ้นระบบ โดยที่รัฐบาลหรือนักการเมืองตัวโกงเหล่านั้น ไม่สามารถติดตามได้แม้แต่เงาว่า...เอกสารต่างๆเหล่านี้ มีแหล่งที่มาจากใคร?
ซึ่ง ต้องบอกว่าเป็นวิธีการที่ “แยบยล” และ “แยบคาย” ในการเปิดโปงข้อมูลความชั่วร้ายของผู้ปกครองหรือรัฐบาล หรือมาเฟียในทุกประเทศทั่วโลก ที่สื่อปกติไม่กล้าลง หรือลงไม่ได้ ถ้าลงคอขาดทันที ก็ให้ส่งมาลงที่เว็บไซต์แห่งนี้ โดยไม่มีเซ็นเซอร์...โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า “ลับ ลวง พราง” ในโลกนี้มันมีเยอะแยะมากมาย
ดังนั้น...การที่ “วิกิลีคส์” ออกมาแฉเรื่องการส่งตัว “นายวิคเตอร์ บูท” โดยมีนายกรัฐมนตรีของไทย “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เข้าไปมีส่วนร่วม...เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องใส่ใจและพิจารณาเหตุผลที่มาที่ ไปว่าสามารถเชื่อถือได้หรือไม่?
เพราะ “วิกิลีคส์” ไม่ได้เน้นแฉเรื่องดารา แต่มุ่งเปิดโปงความชั่วร้ายของนักการเมือง ความอยุติธรรม การละเมิดศีลธรรมและความลับทางการทหาร ไม่เว้นแม้กระทั่งความลับขององค์กรทางศาสนา โดยเปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคม 2550 และได้เผยแพร่บทความเปิดโปงความลับ และเรื่องอื้อฉาวต่างๆ จนกล่าวขวัญกันไปทั่วโลก แน่นอนว่า...ย่อมถูกรัฐบาลหลายประเทศเพ่งเล็ง เพราะเว็บไซต์นี้เปิดรับข้อมูลจากทั่วโลก
“วิกิลีคส์” ตั้งเซิร์ฟเวอร์อยู่ในสภาวะใต้ดินลึก 30 เมตร มีประตูเหล็กหนาครึ่งเมตร และมีระบบปั่นไฟสำรองที่นำมาจากเรือดำน้ำของเยอรมันอยู่ในสวีเดนอย่างไม่ เป็นทางการ โดยใช้ประโยชน์จากกฎหมายสวีเดนที่มีบทบัญญัติคุ้มครองผู้ให้เบาะแส คอร์รัปชั่นและพิทักษ์ตัวตนที่แท้จริงของแหล่งข่าว
ผู้ให้บริการของ “วิกิลีคส์” คือไอเอสพีสวีเดนชื่อ “พีอาร์คิว” ซึ่งเนื้อหาที่คนส่งมาให้วิกิลีคส์ ก่อนอื่นจะต้องผ่านพีอาร์คิว แล้วค่อยส่งต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ในเบลเยียม ทำไมต้องเบลเยียม? เพราะเบลเยียมมีกฎหมายที่เข้มเป็นอันดับสองของโลกในแง่ของการปกป้องแหล่ง ข่าว
ว่ากันว่า...ด้วยความร้อนแรงของ “วิกิลีคส์” ส่งผลให้ ศอฉ. ที่น่าจะได้รับรางวัล “สื่ออวอร์ด” ประจำปี (เพราะเห็นออกข่าวบ่อยเหลือเกิน) แห่งไทยแลนด์แดนสยามถึงกับเต้นผางทำการบล็อคเวปไซต์ของ “วิกิลีคส์” เนื่องจากพบว่าในเวปไซต์นั้นมีเอกสารและข้อมูลที่ว่ากันว่า “ลับ ลวง พราง” ที่ทางรัฐบาลไทยอยากให้เป็น “ความลับ” ตลอดกาลรวมอยู่ด้วย!
โดยพลัง ที่แท้จริงของ “วิกิลีคส์” (Wikileaks) ไม่ใช่เทคโนโลยี แต่อยู่ที่ “ความไว้วางใจ” ของผู้อ่านว่าสิ่งที่พวกเขาอ่านนั้นเป็นของแท้และสามารถเชื่อถือได้...เพราะ ผู้อ่านเชื่อว่าทีมงานวิกิลีคส์รับรองความถูกต้องของเนื้อก่อนเข้าสู่ขั้น ตอนการเผยแพร่
เมื่อลองเปรียบเทียบกับ “ยูทูบ” (Youtube) ซึ่งมีวีดีโอหลายร้อยคลิปจากประเทศอิรักและอัฟกานิสถานที่แสดงทหารจากกอง กำลังผสมกระทำการไม่เหมาะสมและบางกรณีก็ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน...แต่แล้วก็ ไม่มีคลิปวีดีโอบนยูทูบคลิปไหนที่สร้างผลกระทบสูงเท่ากับคลิปวีดีโอคลิ ปเดียวบนวิกิลีคส์
โดยเฉพาะการแสดงภาพพลเรือนหลายสิบคน (รวมนักข่าวรอยเตอร์สองคน) ถูกกราดยิงด้วยปืนแรงสูงจากเครื่องบินรบแถบชานเมืองของกรุงแบกแดด...เห็นได้ ว่า “วิกิลีคส์” มีโครงสร้างการกลั่นกรองแบบองค์กรที่ทวิตเตอร์ เฟซบุค ยูทูบ และบล็อกอื่นๆ ไม่มี (ด้วยเหตุผลที่ชัดเจน) ในเมื่อโซเชียลมีเดียไม่เท่าเทียมกัน พลังของมันจึงไม่เท่าเทียมกันด้วย
ย้อน มาถึงพลังที่แท้จริงของ “โอบามาร์ค” หรือ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” กับบุคลลิกภาพและศิลปะการพูดอันเป็นเลิศ...ซึ่งต้องถามประชาชนกลับไปว่า กรณีการส่งตัว “นายวิคเตอร์ บูท” ไปให้ทางการสหรัฐฯ ดำเนินคดีในข้อหาผู้ก่อการร้าย...สิ่งที่ “วิกิลีคส์” นำข้อมูลความลับมาแฉกับการที่ “โอบามาร์ค” ออกมาตอบโต้ว่า “วิกิลีคส์” ทำตัวเป็น “ส.ใส่เกือก” ยุ่งเรื่องชาวบ้าน
หากมองกันตามทฤษฎี “สมรู้ร่วมคิด” หรือ Conspiracy Theory ซึ่งเกิดขึ้นจากการวางแผน ชักใย หรือสมคบคิดกันของผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง โดยมีลักษณะเป็นกลลวงและมีความลึกลับซับซ้อน...พวกท่านจะเชื่อใครระหว่าง “วิกิลีคส์” กับ “โอบามาร์ค”??
เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญด้าน “จิตวิทยา” แนะนำว่าจับผิดไม่ยาก...คนโกหก คือ คนที่มักจำคำพูดตัวเองไม่ได้!