WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, December 5, 2010

อุ้มอภิสิทธิ์ค่าใช้จ่ายพุ่ง

ที่มา ข่าวสด


ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงขึ้นทุกวัน


แลกกับการอยู่รอดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์


ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญถึงกับยอมปิดเกมคดียุบพรรค กรณีนำเงินกองทุน 29 ล้านบาทของกกต.ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์


ด้วยเหตุผลการยกคำร้องเพราะคดีขาดอายุความ


เรียก เสียงโห่ฮาดังสนั่นไปทั่วทุกมุมเมือง ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดานักกฎหมาย นักนิติศาสตร์ที่ออกมาชี้ปมน่าเคลือบ แคลงไว้มากมาย


คำวินิจฉัยที่ออกมา 4 ต่อ 2 เสียง ยังสะท้อนมุมมองคดีของตุลาการฯ ที่แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว


ยิ่งกว่านั้นใน 4 เสียงข้างมากก็ยังแบ่งออกเป็น 2 ความเห็น สร้างความสับสนมากกว่าเดิม


ตาม ข้อชี้แจงของนายจรัญ ภักดีธนากุล คือ 3 เสียง ให้เหตุผลว่านายทะเบียนพรรคการเมืองยังไม่มีความเห็นว่ามีการกระทำผิดและควร ให้ยุบพรรค


มีเพียง 1 เสียงเห็นว่าคดีขาดอายุความ 15 วัน


คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เหมือนฉุดประชาธิปัตย์ขึ้นจากหลุม


ยังทำให้สังคมย้อนฉุกคิดไปถึง�คลิป� ที่ระดมปล่อยออกมาทางเว็บ ยูทูบก่อนหน้าไม่กี่สัปดาห์


มีส่วนเกี่ยวข้องกับมติศาลรัฐธรรม นูญครั้งนี้ขนาดไหน


ลำพังแค่ปมเรื่องคลิปยังเคลียร์ไม่ออก ยังต้องมาเจอกับข้อกังขาสังคมในการหักมุมปิดคดียุบพรรค


สรุปว่าศาลรัฐธรรมนูญเปลืองตัวไปมากกับเกมประคองนายกฯอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ให้อยู่ในอำนาจต่อไป


แม้แต่กกต.เองกระแสก็ยังก้ำกึ่ง


สังคมไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดีกับการออกมาปฏิเสธข้อสงสัยว่าแอบเหยียบตีนกับศาลรัฐธรรมนูญ


ถ่วงเวลาช่วยประชาธิปัตย์รอดจากการโดนยุบ


ว่าไปแล้วกกต.เองก็ถือว่ามีพิรุธเยอะ โดย เฉพาะนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ที่สวมหมวกอีกใบเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง


เล่นเกมยื้อคดีมาตั้งแต่ต้นทาง


ดังนั้น เมื่อคดี�ตกม้าตาย�ปลายทาง คำถามที่หนีไม่พ้นคือนายอภิชาต รวมไปถึงกกต.ทั้งหมด ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่


นั่นเท่ากับว่า สภาพกกต.ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากศาลรัฐธรรมนูญเท่าไหร่นัก


ต้องยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เข้ามา บริหารประเทศ


รัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้ต้นทุนสิ้นเปลืองไปมาก โดยเฉพาะหมดสิ้นไปกับเหตุการณ์สลายม็อบเสื้อแดงเดือนเม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมา


ที่มีคนตายกว่า 90 ศพ บาดเจ็บอีกประมาณ 2,000 คน


แต่อย่างที่รู้กัน ถึงแม้รัฐบาลอภิสิทธิ์ จะกระเสือกกระสนเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้โดยนายกฯ ไม่ต้องลาออกหรือยุบสภา


แต่กลุ่มอำนาจที่อยู่เหนือรัฐบาลก็ต้องเปลืองเรี่ยวแรงไปไม่น้อย


รวมถึงกองทัพซึ่งเป็นกำลังหลักของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ.


ได้รับแรงเสียดทานจากสังคมมากกว่าใครตั้งแต่ต้นจนจบเหตุการณ์


กระทั่งปัจจุบันเหตุการณ์ล่วงเลยมา 7-8 เดือน


ความรู้สึกโดยรวมของสังคมที่มีต่อกองทัพ ก็ยัง มีแนวโน้มออกไปในทางลบ มากกว่าในทางบวก


จาก เดิมภาพกองทัพคือรั้วของชาติ แต่หลังการปฏิวัติ 19 กันยาฯ 2549 โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือคมช. กองทัพก็ถูกมองว่าเป็น�มดลูก�รัฐบาลประชาธิปัตย์


ล่วงเลยถึงปัจจุบันกองทัพถูกลดเกรดเป็นเพียง�นั่งร้าน� ค้ำยันรัฐบาลเท่านั้น


ทั้งยังต้องคอยจัดกองกำลังอารักขานายกฯ ทุกฝีก้าว จนประชาชนหาเช้ากินค่ำเดือดร้อน


แน่นอนว่ากองทัพอาจจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนจากรัฐบาลชุดนี้ไม่น้อย


ทั้งในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อกระชับอำนาจกันเองในกองทัพ หรือในรูปแบบงบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์


แต่จะคุ้มกับต้นทุนที่สูญเสียไปเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาลอภิสิทธิ์หรือไม่


ยังเป็นเรื่องที่หลายคนตั้งข้อสงสัย


ขณะที่ตัวนายกฯอภิสิทธิ์เองและรัฐบาลแทบไม่ได้ลงทุนอะไรมาก แต่กลับได้รับผลกำไรตอบแทนมหาศาล


คดียุบพรรคประชาธิปัตย์แทบจะไม่มีความหมายอะไรหากเทียบกับเหตุการณ์เดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา


อย่าว่าแต่หลายคนอ่านเกมออกตั้งแต่แรก


ถึงอย่างไรกลุ่มอำนาจพิเศษคงไม่ยอมให้ประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคง่ายๆ แน่


แม้ต้องแลกด้วยเกียรติภูมิของศาลรัฐธรรมนูญ และกกต.ที่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมก็ตาม


ในทางการเมืองยังต้องจับตากันต่อไป


คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ที่ปิดฉากลงในแบบสังคมส่วนใหญ่ยังค้างคาใจ


จะส่งผลต่อการเมืองในระยะไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้อย่างไร


โดยเฉพาะ�โรดแม็ป�ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ที่นายกฯอภิสิทธิ์ กำหนดคร่าวๆ ไว้ประมาณต้นปีหน้าเดือน ก.พ.-เม.ย.


บนเงื่อนไขว่าต้องไม่มีม็อบสีไหนออกมาเคลื่อนไหวก่อความรุนแรงในบ้านเมือง


พรรคประชาธิปัตย์ดูเหมือนมีความมั่นใจมากขึ้นหลังฝ่าด่านคดี 29 ล้านบาทมาได้


ก็ ต้องรอดูช็อตต่อไปในคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ที่ศาลรัฐ ธรรมนูญนัดพร้อมคู่ความวันที่ 9 ธ.ค. ว่าผลสุดท้ายออกมาอย่างไร จะซ้ำรอยคดีแรกหรือไม่


ส่วนที่ยังแกว่งอยู่คือพรรคเพื่อไทย ตอนแรกหวังเกาะกระแสความคลางแคลงของสังคมขย่มซ้ำประเด็น 2 มาตรฐาน


เปรียบเทียบกับคดียุบพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชนให้เห็นกันชัดๆ


แต่ผลในมุมกลับของคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้สมาชิกเพื่อไทยเกิดความหวั่นไหว


ถ้ายังฝากชีวิตทางการเมืองไว้กับนายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศต่อไป อาจไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิดทางการเมือง


เพราะการที่ประชาธิปัตย์รอดพ้นจากถูกยุบพรรคมาได้


คือเครื่องยืนยันว่า�ตัวช่วย�ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นยังพร้อมอุ้มชูอภิสิทธิ์�ต่อไป


ในความหมายเดียวกันหัวเด็ดตีนขาดต้องไม่ให้�ทักษิณ�ได้กลับคืนสู่อำนาจ


ไม่ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นอีกเพียงใดก็ตาม