ที่มา ประชาไท
สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพความเสียหายบริเวณปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวายเรียะ หลังทหารไทยปะทะทหารกัมพูชา ขณะที่ รอง ผบ.สส. “พล.อ.เจีย ดารา” ให้กำลังใจกำลังพลใกล้ชิด ด้าน รมต.ต่างประเทศกัมพูชาทำจดหมายประท้วงไปยังคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติแล้ว
สภาพความเสียหายของวัดแก้วสิกขาคีรีสวายเรียะ (ที่มา: สำนักข่าว DAP-News)
ภาพจรวดตกใกล้บริเวณปราสาทพระวิหาร (ที่มา: สำนักข่าว DAP-News)
ทหารกัมพูชาเตรียมพร้อมที่ปราสาทพระวิหาร ขณะที่ภาพล่างสุด พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพกัมพูชา ระหว่างตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทหารกัมพูชาในพื้นที่ (ที่มา: สำนักข่าว DAP-News)
วานนี้ (5 ก.พ.) สำนักข่าวดึมอำปึล หรือต้นมะขาม (DAP-News) ของกัมพูชา เผยแพร่ภาพความเสียหายบริเวณปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวายเรียะ หลังเมื่อวันที่ 4 ก.พ. และเช้าวันที่ 5 ก.พ. เกิดการปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา
ทั้งนี้ ชนวนปะทะดังกล่าว เกิดขึ้นหลังทหารชุดเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 กองกำลังสุรนารี ได้เข้าไปสร้างเส้นทาง และสะพานในพื้นที่ตะวันออกของผามออีแดง เพื่อก่อสร้างสะพานข้ามลำธารที่อยู่ระหว่างโขดหิน ทางขึ้นสู่วัดแก้วสิกขาครีสวายเรีย แต่ทหารกัมพูชาถือว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา จึงทำให้มีการปะทะกันเกิดขึ้น
โดยสำนักข่าวดึมอำปึล เผยแพร่ภาพลูกจรวดที่ยิงจากฝั่งไทย ตกใกล้กับตัวปราสาทพระวิหาร ซึ่งสร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 9 นอกจากนี้บริเวณศาสนสถานของวัดแก้วสิกขาคีรีสวายเรียะก็เต็มไปด้วยรอยกระสุน นอกจากนี้มีการเผยแพร่ภาพ พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพกัมพูชา ตรวจพลและให้กำลังใจทหารกัมพูชาที่รักษาพื้นที่ปราสาทพระวิหารด้วย
ภาพตัวปราสาทพระวิหาร ซึ่งปรากฏร่องรอยความเสียหายหลังการปะทะ ขณะที่ภาพล่างสุดเป็นภาพทหารกัมพูชายืนเฝ้าระวังชายแดน (ที่มา: สำนักข่าว CEN)
นอกจากนี้สำนักข่าว CEN ของกัมพูชา ยังได้เผยแพร่ภาพตัวปราสาทพระวิหารหลายภาพ โดยบริเวณปราสาทมีร่องรอยได้รับความเสียหายหลังเกิดการปะทะด้วย
หนังสือร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ ลงนามโดย ฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา
นอกจากนี้สำนักข่าวดึมอำปึล ยังรายงานด้วยว่า นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ได้ทำหนังสือร้องเรียน แสดงความกังวลไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ กล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายรุกล้ำดินแดนกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2011 ระหว่างเวลา 15.00 น. ถึง 17.00 น. โดยทหารไทยกว่า 300 นายได้เข้ามายังดินแดนกัมพูชาและโจมตีกัมพูชาจาก 3 จุด และเช้าวันที่ 5 ก.พ. 2011 เวลา 06.30 น. โดยไทยยิงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 105 ม.ม. ที่ภูมะเขือ เป็นเวลา 20 นาที
“การโจมตีเป็นผลให้เกิดความเสียหายรุนแรงอย่างมากต่อปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับการเสียชีวิตและบาดเจ็บของทหารกัมพูชาและประชาชนกว่าสิบราย” หนังสือร้องเรียนของทางการกัมพูชาระบุ
ในหนังสือร้องเรียนยังระบุด้วยว่า ไทยได้ละเมิดศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ สนธิสัญญาทางไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกัมพูชาและประเทศไทยเป็นภาคี และละเมิดข้อตกลงสันติภาพปารีสปี 1991 ในเรื่องความเป็นเอกราช บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่อาจล่วงล้ำ ความเป็นกลาง ความเป็นเอกภาพของชาติของกัมพูชา