ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
ตอนนี้ ก็คงต้องยอมรับกันแล้วว่า การทำเขื่อนป้องกันน้ำโดยใช้บิ๊กแบ็ค หรือถุงบรรจุทรายขนาดยักษ์ ขนาด 1x1x1 เมตร โดยใส่ทรายหรือหินคลุกนั้น เป็นแนวคิดทางวิศวกรรมที่ได้ผลในการป้องกันน้ำได้อย่างดียิ่ง
จะ เรียกว่า บิ๊กแบ็คช่วย กทม.ไว้ก็ว่าได้ แม้น้ำจะไหลเข้ามาใน กทม. ท่วมไปหลายเขตก็ตาม แต่มันก็รีรอหยุดแต่ถนนหน้าอตก. ยังไม่รุกเลยเข้ามาถึงอนุสาวรีชัยสมรภูมิ หากเป็นกองทัพ ข้าศึก ก็เรียกได้ว่า ถูกกองทัพมนุษย์ตีตัดแนวหลังได้สำเร็จ การรุกคืบหน้าของกองทัพน้ำ จึงชะลอลง และอาจหยุดลงในไม่ช้า
ต้องยกความดีให้กับบิ๊กแบ็คแทบทั้งหมด
ที่เหลือคือ การทำงานของรัฐบาล (ยกเว้น กทม. มันไม่ได้ทำห่าอะไรเลย นอกจากประกาศอพยพ)
ผม เพิ่งรู้ว่าบิ๊กแบ็กนั่นเป็นนวัตกรรม หรือความคิดริเริ่มมาจาก พระ ในวัดพระธรรมกาย เรียกว่าเป็นประดิษฐกรรมของวัดพระธรรมกายเลยก็ว่าได้
เมื่อ วานนี้เพื่อนผมที่แฟนเป็นนายตำรวจ อาทิตย์ที่แล้วเขาเข้าไปดูที่วัดพระธรรมการที่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ น้ำไม่สามารถทะลุแนวเขื่อนเข้ามาได้ ทั้ง ๆที่ อยุ่ในระดับเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และรับน้ำในปริมาณที่เท่ากัน
แต่ นิคมอุตสาหกรรมนวนค่รที่รับมือ โดย วีรบุรุษที่สร้างภาพคือ กองทัพบกไทย แพ้มาทุกแนวรบ ป้องกันนิคมใดก็ท่วมนิคมนั้น แต่ดันได้เป็นวีรบุรุษ (สงสัยพวกที่ตั้งให้เป็นวีรบุรุษเหมือนกันว่าตาบอดหรืออย่างไร) ก็ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ ทั้งที่มี ฮ.ซินุค ยกตู้คอนเทนเนอร์ไปวางสะกัดน้ำ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
วัดพระธรรมกาย มีแต่พระ เณร และฆราวาสทั้งหญิงชาย เด็ก มหาเศรษฐี นักศึกษา พวกเขาก็สามารถป้องกันวัดเอาไว้ได้ ด้วยการระดมกำลังสู้กับกองทัพน้ำอย่างสุดชีวิต
ไม่เพียงแต่สามารถ ป้องกันน้ำได้เท่านั้น นวัตกรรม บิ๊กแบ็ค ในที่สุดก็นำมาใช้โดยรัฐบาลที่วางแนวบิ๊กแบ็คตั้งแต่ตำบลคลองหก ถึงสถานีรถไฟดอนเมือง ก็สามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมมิดกรุงเทพฯได้ (ทางบ้างแต่มันไม่ถึงขนาดมิดกรุงเทพฯ เพราะมันทะลักเข้ามาก่อนบิ๊กแบ๊คจะไปวาง) และผมทราบมาว่าบิ๊กแบ็คที่รัฐบาลเอาไปวางเป็นแนวป้องกัน กทม.นี้ ก็มาจากการส่งให้ของวัดพระธรรมกาย ที่รัฐบาลขอไป
ก็ต้องขอบคุณวัดพระธรรมกายครับ ที่ทุ่มกำลังกันแบบสู้ตาย ป้องกันวัดที่พวกท่านรักสุดชีวิตอย่างเต็มที่
แม้ ว่าผมจะไมได้ชื่นชมแนวทางของวัดพระธรรมการมากนัก (รวมทั้งสันติอโศกด้วย) เพราะเห็นว่าสุดโต่งไปคนละขั้ว แต่นั้นก็เป็นความเชื่อ ความคิดของแต่ละกลุ่ม จึงไม่มีปัญหาอะไร
แต่อันไหนทำดีก็ต้องสดุดี ประกาศเกียรติคุณ
ส่วนที่ทำเลวแบบสันติโศกและจำลอง ศรีเมือง ก็ต้องด่า เพราะสันติอโศกสร้างความวุ่นวายให้กับแผ่นดิน พ้นวิสัยของสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
จะ เรียกว่า บิ๊กแบ็คช่วย กทม.ไว้ก็ว่าได้ แม้น้ำจะไหลเข้ามาใน กทม. ท่วมไปหลายเขตก็ตาม แต่มันก็รีรอหยุดแต่ถนนหน้าอตก. ยังไม่รุกเลยเข้ามาถึงอนุสาวรีชัยสมรภูมิ หากเป็นกองทัพ ข้าศึก ก็เรียกได้ว่า ถูกกองทัพมนุษย์ตีตัดแนวหลังได้สำเร็จ การรุกคืบหน้าของกองทัพน้ำ จึงชะลอลง และอาจหยุดลงในไม่ช้า
ต้องยกความดีให้กับบิ๊กแบ็คแทบทั้งหมด
ที่เหลือคือ การทำงานของรัฐบาล (ยกเว้น กทม. มันไม่ได้ทำห่าอะไรเลย นอกจากประกาศอพยพ)
ผม เพิ่งรู้ว่าบิ๊กแบ็กนั่นเป็นนวัตกรรม หรือความคิดริเริ่มมาจาก พระ ในวัดพระธรรมกาย เรียกว่าเป็นประดิษฐกรรมของวัดพระธรรมกายเลยก็ว่าได้
เมื่อ วานนี้เพื่อนผมที่แฟนเป็นนายตำรวจ อาทิตย์ที่แล้วเขาเข้าไปดูที่วัดพระธรรมการที่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ น้ำไม่สามารถทะลุแนวเขื่อนเข้ามาได้ ทั้ง ๆที่ อยุ่ในระดับเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และรับน้ำในปริมาณที่เท่ากัน
แต่ นิคมอุตสาหกรรมนวนค่รที่รับมือ โดย วีรบุรุษที่สร้างภาพคือ กองทัพบกไทย แพ้มาทุกแนวรบ ป้องกันนิคมใดก็ท่วมนิคมนั้น แต่ดันได้เป็นวีรบุรุษ (สงสัยพวกที่ตั้งให้เป็นวีรบุรุษเหมือนกันว่าตาบอดหรืออย่างไร) ก็ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ ทั้งที่มี ฮ.ซินุค ยกตู้คอนเทนเนอร์ไปวางสะกัดน้ำ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
วัดพระธรรมกาย มีแต่พระ เณร และฆราวาสทั้งหญิงชาย เด็ก มหาเศรษฐี นักศึกษา พวกเขาก็สามารถป้องกันวัดเอาไว้ได้ ด้วยการระดมกำลังสู้กับกองทัพน้ำอย่างสุดชีวิต
ไม่เพียงแต่สามารถ ป้องกันน้ำได้เท่านั้น นวัตกรรม บิ๊กแบ็ค ในที่สุดก็นำมาใช้โดยรัฐบาลที่วางแนวบิ๊กแบ็คตั้งแต่ตำบลคลองหก ถึงสถานีรถไฟดอนเมือง ก็สามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมมิดกรุงเทพฯได้ (ทางบ้างแต่มันไม่ถึงขนาดมิดกรุงเทพฯ เพราะมันทะลักเข้ามาก่อนบิ๊กแบ๊คจะไปวาง) และผมทราบมาว่าบิ๊กแบ็คที่รัฐบาลเอาไปวางเป็นแนวป้องกัน กทม.นี้ ก็มาจากการส่งให้ของวัดพระธรรมกาย ที่รัฐบาลขอไป
ก็ต้องขอบคุณวัดพระธรรมกายครับ ที่ทุ่มกำลังกันแบบสู้ตาย ป้องกันวัดที่พวกท่านรักสุดชีวิตอย่างเต็มที่
แม้ ว่าผมจะไมได้ชื่นชมแนวทางของวัดพระธรรมการมากนัก (รวมทั้งสันติอโศกด้วย) เพราะเห็นว่าสุดโต่งไปคนละขั้ว แต่นั้นก็เป็นความเชื่อ ความคิดของแต่ละกลุ่ม จึงไม่มีปัญหาอะไร
แต่อันไหนทำดีก็ต้องสดุดี ประกาศเกียรติคุณ
ส่วนที่ทำเลวแบบสันติโศกและจำลอง ศรีเมือง ก็ต้องด่า เพราะสันติอโศกสร้างความวุ่นวายให้กับแผ่นดิน พ้นวิสัยของสงฆ์ในพระพุทธศาสนา