WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, February 9, 2008

กีฬาแพ้ การเมืองไม่แพ้


6 ก.พ.51 นักเตะทีมชาติไทย พกความมั่นใจ
ลงสนาม “ไซตามะ” ด้วยหัวใจที่ห้าวหาญ ในเกมการแข่งขัน
ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก
ก่อนเกมการแข่งขัน “นักเตะแดนสยาม” ต้องร้อง
เพลงชาติคลอตามเสียงผู้หญิง ผิดกับทีมญี่ปุ่นที่ใช้ 2 หนุ่ม
ประสาน แม้ท่วงทำนองจะช้าทว่ากินใจ จนส่งผลให้ความ
ฮึกเหิมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
เข้าสู่เกมการแข่งขัน ปรากฏว่าทีมชาติไทยซึ่ง
เสียเปรียบเรื่องเสียงเชียร์อยู่แล้ว ต้องตกเป็นรองอีกระลอก
เนื่องจากโดนเจ้าถิ่นบุกอยู่เพียงฝ่ายเดียว กระทั่งนาทีที่ 22
ก็ต้องสังเวยประตูแรกจนได้
แต่เหมือนฟ้าเป็นใจ หลังเขี่ยบอลใหม่ไม่กี่จังหวะ
ปรากฏว่า “ลีซอ” ยิงลูกผีจับยัด ช่วยให้ทีมไทยตีเสมอได้
ทันควันในนาทีที่ 23
จากนั้น “ไทย” ก็ยันเสมอ 1-1 กระทั่งหมดเวลา
ครึ่งแรก
ครึ่งหลัง แม้ทีมชาติไทยพยายามจะเปลี่ยนแท็กติก
แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่ดีขึ้นเลย กระทั่งนาทีที่ 54
ก็ต้องเสียประตูที่ 2
ประตูที่เป็นรอง ทำให้ทีมชาติเสียกระบวนท่าไป
พอสมควร และต้องพบกับช่วงเลวร้ายสุดๆ เมื่อ ณรงค์ชัย
วชิรบาล กองกลางตัวปั้นเกม ระงับอารมณ์ไม่อยู่ หวดผู้เล่น
เจ้าบ้านจนหัวคว่ำ ผู้ตัดสินจึงควักใบแดงแจกเป็นของขวัญ
ทันทีทันใด
ในสถานการณ์ที่ต้องตกเป็นรองทั้งประตูและตัวผู้เล่น
กำลังใจของนักเตะไทยแทบจะไม่มีกันเลย สุดท้ายหายนะ
ก็มาเยือนเต็มรูปแบบ เพราะญี่ปุ่นสามารถเพิ่มสกอร์ได้อีก
2 ลูก ในนาทีที่ 66 กับ 90+1
ส่งผลให้ทีมชาติไทยพ่ายไปอย่างย่อยยับ 4 ประตู
ต่อ 1 พร้อมกับความหวังจะไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่
ประเทศแอฟริกาใต้ เริ่มมืดลงทีละนิด
ผลการแข่งขันครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า “ฟุตบอลไทย”
ยังไงก็ล้าหลังพวก “ซามูไร” อีกเช่นเคย
ปัจจัยหลักที่ทำให้วงการฟุตบอลไทยยังย่ำ
อยู่กับที่ ก็เห็นจะเป็นการทำงานในลักษณะ “โชว์ออฟ”
เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ใครดี ใครเด่น
เป็นต้องสกัดดาวรุ่งไว้ก่อน
ส่งผลให้ “คนที่พกความตั้งใจ” มาเต็มเปี่ยม
ทั้งหลาย ต้องโบกมือบ๊ายบายไปทีละคน 2 คน ส่วนพวกที่อยู่
ก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็คงได้เห็นแต่พวกขายฝันว่า
“ฟุตบอลไทยจะไปฟุตบอลโลก” อยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่รู้
ตลอดอายุขัยของเราจะมีสิทธิ์ “ยืดอก” เหมือนกับเพื่อน
ร่วมทวีปอย่าง ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐ
อาหรับเอมิเรตส์ และอิหร่าน บ้างหรือเปล่าหนอ
ฟุตบอล ซึ่งถือเป็นกีฬายอดนิยมอันดับ 1 ของคนทั้ง
ประเทศ สร้างความผิดหวังให้กับแฟนๆ ไปแล้ว แต่ในด้าน
การเมือง ชาวไทยจึงได้แต่ภาวนาว่า “รัฐบาลสมัคร 1”
คงบินสูง แม้จะขี้เหร่ก็ตามที
และ นายสมัคร สุนทรเวช ก็ยืนยันจะทำงานให้
บ้านเมือง โดยไม่ได้คำนึงถึงว่าทั้ง 6 พรรคจะมีข้อแม้ข้อแย้ง
อะไรต่างๆ
“ผมพร้อมที่จะทำงานกับทั้ง 5 พรรค ถ้าไปถึง 4 ปี
ก็นับว่าเป็นโชคดีของเราที่ได้ทำงานให้บ้านเมือง ที่ผมได้
เอ่ยไว้ว่าขี้เหร่นั้น แปลว่าไม่ได้อย่างใจผมที่จะอวดใครเขา
เท่านั้นเอง แต่ด้วยมาอย่างนี้ ขี้เหร่อย่างนี้ ไม่สวย แต่ว่า
จะมีคุณภาพดี จะว่าอย่างไร ฉะนั้นขอให้ให้เวลาหน่อย
เรื่องบกพร่องอะไรต่างๆ ต่างคนต่างรู้กันอยู่ ผมมีหน้าที่
อย่างยิ่งที่จะต้องดูแลให้เรียบร้อย ถ้าดูแลไม่เรียบร้อยก็
เอาตัวไม่รอด”
นี่ต้องบอกว่า ถึงกีฬาจะแพ้ การเมืองไม่เห็น
ยอมแพ้เลย แล้วเรามาติดตามดูผลงานท่านนายกฯ “สมัคร”
ไปพร้อมๆ กัน…
เพลิงพิโรธ

ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด - ผลัดกันเขียน เวียนกันคิด