นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการเคลื่อนไหว ทางการเมืองภายใต้รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชว่า หลังจากนี้ตนก็ยังสู้ต่อไป แต่เปลี่ยนโจทย์ใหม่ ไม่มองแค่ทักษิณ อย่างเดียว เพราะหลังจากที่ได้บวชแล้วทำให้ความคิดตกผลึกมากขึ้น โดยมองเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพียงผลผลิต ของปรากฏการณ์ทางการเมืองที่น่าขยะแขยงเท่านั้น ถึงแม้จะไล่ทักษิณออกไป แต่ก็จะมีทักษิณ 2 ทักษิณ 3 อยู่ดี
และก็จะมีการปฏิวัติรัฐประหารไม่รู้จบ ท้ายสุดคนที่ทำปฏิวัติรัฐประหารก็ไม่เข้าใจอะไรเช่นเดียวกับ ที่เคยเกิดขึ้น เปรียบเหมือนกับการนั่งอยู่ในรถคันหนึ่ง ซึ่งหมายถึงประเทศ แต่รถสกปรกเหม็นมากถึงจะขับไล่คน ขับออกไปกี่คนก็ยังเหมือนเดิม สิ่งที่ตนจะทำ คือ ลงจากรถแล้วเดินไปสร้างรถคันใหม่ ใครจะไปด้วยก็ให้ออกมาร่วมกัน เดินไปสู่เป้าหมายใหม่ที่มีความโปร่งใส มีความยุติธรรม หลังจากนี้ตนจะเชิญชวนประชาชนมาร่วมสร้างชาติกันใหม่
ขอให้คนที่มีอุดมการณ์เหมือนกันมาร่วมกัน หาทางสร้างกรอบของประเทศแบบใหม่ โดยเบื้องต้น อาจจะเดินสายให้ความคิดกับผู้คน อาจจะเช่าโรงแรมหรือหอประชุมแล้วเชิญให้ประชาชนมาฟังโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วจะขายความคิดออกไป
'หลังจากที่พูดคุยกับอดีตแกนนำพันธมิตรฯแล้วส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับแนวทางของผม แต่ว่าทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำ ผมคงทำไปก่อน แต่ยืนยันว่าพวกเรายังคุยกันอยู่ตลอดเวลา ถ้ารัฐมนตรีหรือรัฐบาลนี้ เริ่มมีกระบวนการฟอกตัวคุณทักษิณอย่างไม่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม เริ่มช่วยเหลืออย่างน่าเกลียด บีบข้าราชการให้พลิกคำให้การ หรือไปรังแกคนที่ตั้งใจทำงานอย่าง คตส. ก็อาจจะมีการชุมนุมกันได้ และผมจะเข้าร่วมด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าพวกเราออกมาอีกครั้งหนึ่งมวลชนเอากับเราแน่ อย่างน้อยคนเก่าก็จะมาและจะมีคนใหม่ออกมาด้วย แต่การออกมาของเราต้องมีเหตุผล'อดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวระบอบทักษิณจะกลับมาเช็คบิลหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ตนไม่ได้กลัวการล้างแค้นแม้แต่นิดเดียว สมัยที่ทักษิณมีเสียงในสภา 377 เสียง กุมอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จทุกประการ เล่นกระบวนการสกปรก ตนยังไม่กลัวเลย แล้วจะไปกลัวทักษิณวันนี้ทำไม สุดท้ายเชื่อว่าทักษิณ ก็ต้องเผชิญกับกฎแห่งกรรม เช่นเดียวกับตนที่จะต้องเผชิญแต่เชื่อว่าตัวเองได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง