WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, February 8, 2008

มท.1 เครื่องร้อน

"เฉลิม" เริ่มงาน มท.1 วันแรก โวแหลกเตรียมแผนฟื้นผู้ว่าฯ ซีอีโอ กระตุ้นทำงานแบบนัน-สต๊อป ส่วนตัวเองจะสวมวิญญาณ "ยอร์ช ซี สก็อต" พร้อมเป็นมือปราบมาเฟีย แข่งกับมือปราบสายเดี่ยว ลั่นสานนโยบาย "แม้ว" ล้างบางยาเสพติด เตรียมเรียกประชุมผู้ว่าฯ ทั่วไทยหลังแถลงนโยบาย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.40น.ที่กระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย นายสุพล ฟองงาม และนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช. มหาดไทย ได้เดินทางเข้ากระทรวงมหาดไทยเป็นวันแรก โดยเมื่อมาถึงทั้ง 3 คนได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงประกอบด้วย ศาลพระภูมิ ศาลพระกาฬ และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่ามกลางการให้การต้อนรับจากข้าราชการระดับสูงของกระทรวงนำโดยนายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ส.ส. และสมาชิกพรรคการเมืองต่างๆ ที่มามอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 3 คนอย่างเนืองแน่น ขณะที่บริเวณรอบๆ กระทรวงมหาดไทยก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ใกล้เคียงมาคอยให้การรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเป็นจำนวนมาก

ต่อมาเวลา 08.00น. ร.ต.อ.เฉลิม ได้เข้าสักการะศักดิ์สิทธิ์ประจำห้องทำงาน และลงนามการปฏิบัติหน้าที่รมว.มหาดไทย จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งงานให้รมช.แต่ละคนว่า จะเชิญทั้ง 2 คนมานั่งพูดคุยว่าอยากจะรับผิดชอบงานในส่วนใดบ้างเนื่องจากสุดท้ายแล้วรมว.ต้องรับผิดชอบด้วยไม่อยากให้มีภาพกรมสำคัญๆรมว.ไปควบคุมดูแล ยุคของตนทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ต่อไปนี้จะเป็นยุคที่กระทรวงมหาดไทยไม่มีความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะนำระบบผู้ว่าราชการซีอีโอกลับมาใช้เมื่อไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนจะหารือกับนายพงศ์โพยม เพราะกระทรวงมหาดไทยไม่เหมือนกระทรวงอื่นเป็นกระทรวงที่มีความรับผิดชอบสูงมากแม้จังหวัดเล็กอย่าง จ. ระนอง มีหน่วยงานขึ้นต่อจังหวัดถึง 116 หน่วยงาน ส่วนจังหวัดใหญ่ๆ มีหน่วยงานขึ้นต่อจังหวัดมากถึง 156 หน่วยงาน ยุคตนจะไม่มีวันสต๊อป เซอร์วิสแต่จะมีวันสต๊อปโอเค ผู้ว่าฯ จะรับรู้อย่างเดียวไม่ได้ต้องรับผิดชอบด้วยและผู้ว่าฯต้องทำงานให้บ้านเมือง

“ผมจะปลุกวิญญาณความเป็นเจ้าเมือง ส่วนนายอำเภอ ผมจะให้ไปดูหนังเรื่องนายอำเภอมอร์แกน ส่วนผมเนี่ยจะสวมวิญญาณ ยอร์ช ซี สก็อต คือตำรวจตรวจแหลก มาร่วมกันทำงาน หมดยุครัฐมนตรีมหาดไทยต้องเป็นเจ้าขุนมูลนาย เมื่อไปต่างจังหวัดผู้ว่าฯ ต้องมีภาระขนคนมารอรับเวลาไปกลับ แต่ต้องร่วมกันทำงาน ” รมว.มหาดไทย กล่าว

เมื่อถามว่าปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้จะแก้อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องของภาคใต้คงเป็นวาระแห่งชาติไม่ได้ แต่เรื่องภาคใต้ต้องเป็นความมั่นคงแห่งชาติ การที่จะกำหนดนโยบายในส่วนของมหาดไทยลงไปแก้เพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องลำบาก ต้องมีการประสานกันหลายหน่วยงาน มีแผนยุทธศาสตร์แล้วต้องมียุทธวิธี คนปฏิบัติตามยุทธวิธีมี 3 ส่วน คือ ทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ซึ่งแนวคิดของตนจะเชิญผู้ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายอำเภอ 4 อำเภอในจ. สงขลา รวมถึง ผอ.ศอบต. และ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาพูดคุยกันในวันที่ 11 ก.พ.เวลา13.30น.และหลังแถลงนโยบายจะเชิญผู้ว่าฯ ทั่วประเทศมาพบเพราะตนไม่นิยมระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์ ทั้งนี้ตนไม่มีนโยบายลงไปตรวจพื้นที่บ่อยๆ เพราะเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะเดือดร้อนต้องทำเตรียมการเรื่องการรักษาความปลอดภัยและบรรยายสรุปต่างๆยุคตนจะไม่ฟังการบรรยายสรุป แต่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแทน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการวางนโยบายในเรื่องการจัดระเบียบสังคมว่าจะดำเนินการอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนจะไม่เป็นมือปราบสายเดี่ยว แต่จะเป็นมือปราบมาเฟีย นักเลงตามภูมิภาคตามสถานบันเทิง ผู้ว่าฯ นายอำเภอต้องลงไปช่วยแก้ไขรวมทั้งปัญหายาเสพติด และทรัพยากรธรรมชาติที่ต้องดูแลอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามตนไม่มีนโยบายไปตรวจสถานบันเทิงด้วยตัวเองเพราะเคยทำมาแล้ว ตนจะไม่เข้าไปยุ่งในลักษณะการไปยืนหน้าผับหน้าบาร์ แต่จะให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ส่วนงานหลักของตนจะเน้นในเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดและเฉียบขาดโดยเอานโยบายที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยทำไว้มาใช้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการปราบปรามจะมาคู่กับความรุนแรงหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าบางครั้งถ้าเบาก็ไม่ได้ เหมือนรถยนต์ เพราะถ้าเบาแล้วเครื่องจะดับ มันต้องเฉียบขาดทันเหตุการณ์.