รมว.ต่างประเทศ แถลงจะเร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์เมืองไทย สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน อ้างไม่ป้อง'ทักษิณ' ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ระบุอดีตนายกฯ ควรมีสิทธิทางการทูตเท่าเทียมกัน เปรยที่ผ่านมาสถานการณ์กดดัน
นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ แถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์ ในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ โดยภารกิจแรก คือฟื้นฟูภาพลักษณ์ของไทย ให้ความมั่นใจกับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุน ในแง่ของเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทย กระทรวงการต่างประเทศ จะกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มประเทศในอาเซียน และดำเนินมาตรการทางการทูต ในเวทีที่สำคัญ กระทรวงการต่างประเทศ จะมีบทบาทในเชิงรุกเพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุน ให้แก่ประเทศไทยในต่างประเทศ
'ผมย้ำว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เพื่อให้กระทรวงการ ต่างประเทศเป็นตัวแทนของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของผมจะไม่ให้มีพิธีการมากเกินไป และจะทำตัวให้เพื่อนข้าราชการต่างประเทศเข้าถึงง่าย และเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่ทำงาน เป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจ ร่วมกับกระทรวงอื่นๆ'
ต่อคำถามว่า จะแยกแยะบทบาท รมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวอย่างไร นายนพดลกล่าวว่า ตนยุติบทบาทของการเป็นที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว
เมื่อถามว่า มีความจำเป็นในการคืนหนังสือเดินทางการทูต(พาสปอร์ตทูต) ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว ตอนนี้ ยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าว
'ตอนนี้ ผมยังไม่มีนโยบาย เพราะการดำเนินการออกหนังสือเดินทางเป็นวิธีปฏิบัติภายในของราชการ ถ้าราชการเห็นว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปตามระเบียบและในอดีตมีการเพิกถอนอย่างไม่ถูกต้อง ก็เป็นอาจเป็นการถูกกดดัน จากฝ่ายการเมืองในช่วงที่มีการยึดอำนาจ ผมคิดว่าถ้าเราออกหนังสือเดินทางให้อดีตนายกรัฐมนตรีทุกคน ไม่ว่าจะมีการยึดอำนาจหรืออยู่ในสถานการณ์อย่างไร และไม่มีการเพิกถอน อดีตนายกรัฐมนตรีทุกคนก็ควรได้รับการ ปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ตามกฎระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ' นายนพดล กล่าว
ส่วนคำถามว่ายังมีแนวคิดที่จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเมืองไทยอยู่หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ต้องยึดหลักนิติธรรม การบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนใด ก็ต้องได้รับการปฏิบัติจากระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศอย่างเท่าเทียมกัน
เมื่อครั้งที่ตนเป็นอดีตที่ปรึกษากฎหมายและยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับไทยไม่เกินเดือน พ.ค. และเดินทางกลับโดยสมัครใจ ไม่จำเป็นต้องเป็น ผู้ร้ายที่ถูกส่งข้ามแดนมา อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพราะเป็นเรื่องของอัยการสูงสุด ที่จะส่งคำร้องไปยังศาลแขวงที่อังกฤษ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาเป็นปี ดังนั้น ตนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในการเดินทางกลับของอดีตนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางทางการทูตเพราะถูกตั้งข้อหาว่ามีความผิด ใช่หรือไม่ นายนพดล ชี้แจงว่า ตาม รธน. ระบุว่าให้สันนิษฐานว่าบุคคลเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ว่าบุคคลนั้นมี ความผิด ก่อนที่จะตัดสินว่ามีความผิดนั้น จะปฏิบัติต่อเขาเสมือนว่าความผิดไม่ได้ พร้อมทั้ง ยืนยันว่าฝ่ายการเมืองจะไม่แทรกแซงการดำเนินการใดๆในเรื่องหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ต่อข้อถามว่า มีการตั้งข้อสงสัยว่าจะมีการโยกย้ายข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ผ่านมาหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่าไม่ต้องกลัว ตนจะมาเช็คบิล แต่ภารกิจของตนคือการทำหน้าที่ร่วมกับเพื่อนข้าราชการ กระทรวงการต่างประเทศเพื่อการผลักดันวาระต่างประเทศของไทย ตนเข้าใจว่าข้าราชการหลายคนถูกกดดันในช่วง การเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะไม่แทรกแซงและโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม ตนคิดว่าควรเน้นเรื่องงาน และความสำเร็จดีกว่าการแก้แค้นหรือเช็คบิลหรือทำอะไรที่ไม่เหมาะสม