WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, February 6, 2008

ลึกๆ"พันธมิตร"คืนชีพ "ตั้งหลัก"ก่อนถูก"เช็คบิล"

หลังเงียบกันไปนาน กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง สำหรับบทบาท "กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่ประกาศสลายตัวไปหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

อดีต 5 แกนนำพันธมิตร "สนธิ ลิ้มทองกุล" "สมศักดิ์ โกศัยสุข" "พิภพ ธงไชย" "สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์" "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง" รวมถึงอดีตเลขานุการพันธมิตร "สุริยะใส กตะศิลา" ต่างก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง

บ้างก็เคลื่อนไหวทางจรยุทธ์ผ่านสื่อต่อ บ้างก็ลงสนามการเมือง บ้างก็เคลื่อนไหวภาคประชาชน ตามวิถีของตัวเอง

แต่ที่แน่ๆ แกนนำทั้งหมดยังมีการอัพเดทข้อมูล นัดพูดคุยหารือถึงสถานการณ์การเมืองกันเป็นระยะ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่มีอดีตแกนนำผู้หนึ่ง ได้กำหนดจังหวะเวลาในการปรากฏเป็นข่าวสู่สาธารณะจนได้ผล หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ พาดหัวข่าวตรงกันว่า "พันธมิตรเล็งฟื้นชีพ"

เหตุผลที่ปรากฏตามข่าว อ้างว่าเพราะ "ระบอบทักษิณ" กำลังจะกลับมาอีกครั้ง

แต่ที่จริงแล้ว นัยยะของการฟื้นคืนชีพ ประกอบไปด้วยเหตุปัจจัยที่ซับซ้อนหลายประการ

วงในพันธมิตรเล่าว่า แม้บรรยากาศที่ "บ้านพระอาทิตย์" ซึ่งเป็นที่ประชุมจะคึกคักคลาคล่ำไปด้วยบรรดาอดีตแกนนำและแกนนำ 4 ภาค เกือบ 30 คน และมีการถกเถียงถึงการรุกคืบของ "ระบอบทักษิณ" ผ่านทาง "รัฐบาลสมัคร 1" และจังหวะเวลาที่พันธมิตรจะผนึกกันออกมาทำหน้าที่ เพื่อกำหนดจุดยืนไม่ให้เสื่อมสลายไป

แต่นัยหนึ่ง นอกจากเพื่อทำหน้าที่ตามกล่าวอ้าง ที่จะติดตามตรวจสอบการทำหน้าที่ของ รัฐบาล "สมัคร สุนทรเวช" ซึ่งพันธมิตรเชื่อว่า เป็นร่างทรงของ "ระบอบทักษิณ" แล้ว

ยังจุดประสงค์สำคัญ ที่จำเป็นต้องกำหนดพื้นที่ยืนให้ตัวเอง โดยเฉพาะสำหรับอดีตแกนนำบางคน ที่เป็นคู่กรณีกับอำนาจเก่าโดยตรง

เพราะแน่แล้วว่า เมื่ออำนาจเก่ากลับมา ต้องมีรายการเรียกเช็คบิล และอดีตแกนนำหลายคนในขณะนี้ กำลังตกอยู่ในสถานะสุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะคนที่ยังทำสื่อเชิงจรยุทธ์ ที่มีความสำคัญในทางธุรกิจเลี้ยงปากท้อง รวมไปถึงคนที่ต่อยอดลงสนามการเมือง

บรรยากาศวันหารือ มีคนเห็น "สนธิ" ค่อนข้างเครียดกว่าคนอื่น เพราะไหนจะต้องปกป้องพิทักษ์ธุรกิจของตัวเองที่กำลังถูกบีบอย่างหนัก โดยเฉพาะโปรเจ็คต์ล่าสุด ที่เจ้าตัวกำลังเตรียมขยายฐานรายการ "เมืองไทยรายสัปดาห์" ให้เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นฐานที่มั่นคงในการต่อสู้

เครียดซ้ำไปอีกกับกรณี "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" นายทุนใหญ่ทีพีไอ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่ผันตัวลงสนามการเมืองเพื่อความอยู่รอด แต่กลับได้บทเรียนที่แสนเจ็บปวด ผู้เคยสนับสนุนทุนรอนให้รายการโทรทัศน์ในเครือข่าย "เอเอสทีวี" มาวันนี้ทุนรอนเหล่านั้นก็เจือจางไป

จึงไม่แปลก ที่จะมีข่าวกระซ่านกระเซ็น ถึงการ "เกี้ยเซี้ย" กับ "นายใหญ่" โดยตรง เพราะขนาดนายทุนอย่าง "ประชัย" ยังกล้าออกตัวญาติดีกับ "นายใหญ่" แบบไม่ตะขิดตะขวงใจเลย

นอกจากนี้ยังมีเสียงวิจารณ์การนำเสนอข่าว "อำนาจเก่า" ไม่เข้มข้นเหมือนอย่างเคย

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้โครงสร้างพันธมิตรสั่นคลอนไปไม่น้อย

สอดคล้องกับกรณี "พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร" อดีตผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ผู้มีบทบาทสำคัญในการรัฐประหาร ซึ่งเคยมีภาพแนบแน่นกับพันธมิตร แต่กลับเตรียมฟ้องสื่อบางค่ายที่โจมตีเรื่องการทำงานในฐานะประธานบอร์ด ทอท.

ทุกอย่างสอดคล้องกันหมด และยิ่งกรณี "พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน" อดีตประธาน คมช.ออกมายอมรับหน้าตาเฉย ว่าได้ฮัลโหลกับ "อดีตนายกฯทักษิณ" กันแบบฉันพี่น้อง อดีตแกนนำพันธมิตรหลายคนก็เริ่มต่อจิ๊กซอว์ติด

และสิ่งที่ "สนธิ" แห่ง "บ้านพระอาทิตย์" เครียดสุด ก็คือ กรณี "วีระ มุสิกพงศ์" แกนนำ นปก. ในฐานะประธานกรรมการบริหารบริษัท เพื่อนฟ้องน้องพี่ จำกัด ที่อกหักจากการทำสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "พีทีวี" ที่ไม่ได้ออกอากาศ ได้เข้าพบ "สมัคร" ที่บ้านเพื่อขอให้พีทีวีออนแอร์ได้

และ "สมัคร" ก็ดันรับปาก โดยอ้างเหตุผลว่า ทำไม "เอเอสทีวี" ยังออกอากาศได้

ทีนี้สงครามสื่อจรยุทธ์ ก็จะอุบัติ

ทั้งหมดอธิบายถึงเหตุปัจจัยการฟื้นคืนชีพของพันธมิตรครั้งนี้ที่มีความหลากหลาย เช่นเดียวกับองค์ประกอบการก่อตั้งพันธมิตรในอดีตที่หลากหลายแต่มีจุดประสงค์เดียว คือ ล้ม "ระบอบทักษิณ"

แต่ครั้งนี้ จุดประสงค์ไม่ได้เป็นทิศทางเดียวกันเสียทีแล้ว

ทั้งหมดทำให้ "พล.ต.จำลอง" ยังคงสงวนท่าที แม้จะยังมีสายสัมพันธ์อันดีกันอยู่ตลอดมา แต่ก็เป็นเพียงสายสัมพันธ์ที่หลวมๆ

สำหรับยุทธศาสตร์การดำเนินการต่อจากนี้ พันธมิตรวางไว้ว่าจะมีการประชุมอย่างน้อยทุกสัปดาห์ และดำเนินการตามภารกิจหลัก 2 ประการ ประกอบด้วย สร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง ให้แกนนำภาคฟื้นมวลชนในหัวเมืองที่เข้มแข็ง เพื่อต่อสู้กับระบอบทักษิณ

และสุดท้าย ยกระดับเครือข่ายให้เป็นกลุ่มทางการเมือง กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองขนาดย่อม ยังไม่เน้นการชุมนุมขนาดใหญ่ ปล่อยให้เป็นไปตามจังหวะพัฒนาการของสถานการณ์ และอาจพัฒนาไปถึงขั้นตั้งพรรคการเมืองภาคประชาชนในอนาคต...