กระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกขณะ บิ๊กโบ๊ต (แทน)
อย่างน้อยที่สุดก็ชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่จากหลายภาคส่วนเห็นพ้องกันว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มีเนื้อหาหมกเม็ด เป็นโทษต่อการพัฒนาบ้านเมืองทั้งในวันนี้และในวันข้างหน้า สมควรที่จะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
แม้ว่าจะมีความเห็นแตกต่างกันอยู่บ้างในรูปแบบการแก้ไข การรณรงค์ การเคลื่อนไหว หรือแม้แต่ตัวเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่ยังเห็นต่างกันอยู่บ้างว่า ควรแก้ไขมาตราใดบ้าง
แต่อย่างน้อยสำหรับประชาชนชาวบ้านร้านตลาดก็ดูจะสบายใจได้ว่า การเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นในขณะนี้ ไม่ใช่เป็นการกระทำไปเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างแน่นอน
เพราะการที่กลุ่มคนซึ่งออกมาเคลื่อนไหว มีที่มาจากต่างกลุ่มต่างขั้ว แต่มีความคิดเห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ย่อมหมาย
ถึงการมาด้วยใจ ไม่ได้มีใครหลอกลวง ชักจูง หรือแม้แต่จ้างวานแน่
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนิสิตนักศึกษา ที่นำโดยสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ที่ในอดีตเคยมีบทบาทร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ถึงวันนี้ก็มีจุดยืนชัดว่าจะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่
พร้อมกับการประสานงานกับเครือข่ายในมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อจัดเวทีให้ความรู้กับเพื่อนนิสิตนักศึกษา รวมทั้งประชาชน ถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550
ซึ่งจะมีการประเดิมเวทีแรกกันที่ ม.รามคำแหง และขยับขยายไปในภาคต่างๆ
ทั้งภาคอีสานที่ ม.ขอนแก่น ภาคเหนือที่ ม.นเรศวร และภาคใต้ที่ ม.สงขลานครินทร์
หรือจะเป็นองค์กรภาคประชาชน 8 กลุ่ม 35 องค์กร ที่รวมตัวกันใหม่ ภายใต้ชื่อ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปร.)
ก็ถือเป็นการรวมตัวกันเพื่อเป้าหมายอันหนึ่งอันเดียว
เป็นการสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า แม้ทั้ง 35 องค์กรดังกล่าวจะมีแนวคิด และมีภารกิจหลักที่แตกต่างกันออกไป มีพื้นที่ มีเวทีในการขับเคลื่อนผิดแผกแตกต่างกันอกไป
แต่ในยามที่ต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ คนที่ต่างแนวคิด ต่างอุดมการณ์ ก็สามารถรวมพลังกันได้อย่างกลมกลืน
และกำลังจะเกิดกิจกรรมตามมามากมาย อย่างเช่น การเดินสายเพื่อให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีโอกาสแสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างทั่วถึง
เพื่อนำเอามาประมวลเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตามแนวทางที่วางเอาไว้เบื้องต้นว่า จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ทุกมาตรา โดยนำเอารัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ใหม่ หลังจากมีการแก้ไขในบางมาตราแล้ว
เป็นการดำเนินการภายใต้ธง “ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ไม่เอาอำนาจนอกระบบ”
เช่นเดียวกับกลุ่มนักวิชาการที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาอันเดียวกัน
และกำลังทยอยเปิดเวทีแสดงความคิดความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวอย่างกว้างขวาง อย่างเช่น เวที “แก้รัฐธรรมนูญ 50 เพื่อใคร ประชาชนจะได้อะไร” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 7 เมษายนนี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ถ.วิภาวดีรังสิต
มีวิทยากรน่าสนใจทั้ง ศ.ดร.กระมล ทองธรรมชาติ จาก ม.สยาม รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดี ม.รามคำแหง ดร.อมร วาณิชวิวัฒน์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.วรพล พรหมิกบุตร คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
รวมไปถึงเวทีวิชาการอีกหลายเวที ที่กำลังจะมีการจัดตามมาอย่างต่อเนื่อง
ยังไม่รวมถึงฝ่ายการเมือง ที่มติวิปพรรคร่วมรัฐบาลมีความเห็นตรงกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า จะต้องดำเนินการแก้ไขในมาตราใด อย่างไรบ้าง
เหลืออยู่เพียงขั้นตอนการบรรจุเป็นวาระการประชุม แล้วก็ไปพูดจากันต่อในกระบวนการของรัฐสภาเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ในส่วนของประชาชนเอง ก่อนหน้านี้ผลการสำรวจความคิดเห็นของเอแบคโพล ก็ชี้ชัดว่าประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลหลักๆ ว่าอยากเห็นความเป็นธรรมเกิดขึ้นในบ้านเมือง
เพียงเท่านี้ก็พอจะเป็นการยืนยันได้ว่า ปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ เป็นเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจและเป็นที่กังวลของคนหลายกลุ่ม หลายฝ่าย อย่างเห็นได้ชัดเจน
เป็นประเด็นปัญหาของบ้านเมืองที่หลายฝ่ายไม่สบายใจ และอยากจะเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เกิดขึ้น
จะมีก็แต่พวกเชื้อชั่วเผด็จการ พวกสมุนรับใช้เผด็จการ และพวกสนองตัณหาอำมาตยาธิปไตยเท่านั้น ที่ออกมาหลับหูหลับตาขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบหัวชนฝา ไม่สนใจว่าชาวบ้านชาวเมืองเขาคิดอ่านกันอย่างไร
คนพวกนี้สมควรให้ตายไปพร้อมกับ รธน.50 จริงๆ...!!!