'มิ่งขวัญ'ปิ๊งไอเดียอีก จีบ'อินเดีย-ญวน'ผนึกกำลังตั้งราคาข้าวส่งออก ขณะที่ตลาดสินค้าเกษตรฯปฏิเสธข่าวเฮดจ์ฟันด์ปั่นราคา ยันเป็นไปตามกลไกตลาด 'เลี้ยบ'มึน ตปท.ปล่อยข่าวไทยคุมเข้มส่งออก ยันไทยไม่บิดเบือนตลาด พ่อค้าเมินรัฐนำเข้าปุ๋ยมาขายเอง
ไทยจีบ 'อินเดีย-ญวน' ตั้งราคาข้าว
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 เมษายน ว่า ในวันที่ 27 เมษายน นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประเทศอินเดีย จะเดินทางมาเข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะในโอกาสที่ตนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้น จะใช้โอกาสนี้หารือและดูท่าทีของอินเดียถึงแนวทางการร่วมมือในการกำหนดราคาข้าวส่งออกของประเทศไทย อินเดีย และเวียดนาม ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตข้าวส่งออกรายใหญ่ของโลก จากนั้น จะเดินทางไปประเทศเวียดนามเพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกัน
ทั้งนี้ ประเทศไทย ส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก คิดเป็นสัดส่วน 31.40% ของการส่งออกข้าวในตลาดโลก รองลงมาคืออินเดีย 16% และเวียดนามอีก 14% รวมแล้วทั้ง 3 ประเทศ จะมีสัดส่วนการส่งออกข้าวรวมกว่า 60% ของการส่งออกข้าวในตลาดโลก
นายมิ่งขวัญ กล่าวถึงการหารือร่วมกันระหว่าง 13 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้าข้าว ในวันที่ 5 เมษายน ว่า พร้อมจะรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และจะบอกให้ชาวนากลับไปเจรจาตกลงซื้อขายข้าวฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะออกกับพ่อค้าคนกลางและโรงสีให้ได้ราคาดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้ชาวนารู้แล้วว่าข้าวสารที่ส่งออกไปจะขายได้ราคาดีถึง 3 หมื่นบาทต่อตัน ดังนั้น ราคารับซื้อของพ่อค้าคนกลางและโรงสีก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันเพื่อความเป็นธรรม
นายทศพล วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวคิดที่ไทยจะจับมือกับกลุ่มผู้ผลิตข้าวในลักษณะกลุ่มโอเปค เพื่อต่อรองราคากับผู้ซื้อ จะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น รวมทั้งรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำทำนา โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา มีปัญหาขาดแคลนน้ำมากซ้ำซาก
สั่งเช็คสต๊อคข้าวรัฐ-จนท.เอี่ยวเจอเด้ง
จากราคาข้าวขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และเกิดความต้องการข้าวในปริมาณสูง จนเกิดการลักขโมยตามโกดังเก็บข้าวของเกษตรกรและพ่อค้าคนกลางเพิ่มขึ้นจำนวนมากนั้น นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สั่งการให้ 3 หน่วยงานคือ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำการตรวจสต๊อคข้าวของรัฐบาลซ้ำอีกครั้งในสัปดาห์หน้า และให้ได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ รวมทั้งให้ อคส.วางระบบแนวทางการตรวจสอบที่ต่อเนื่อง หลังจากล่าสุดที่ตรวจพบข้าวที่ฝากไว้ในโกดังเอกชนสูญหาย 13,000 ตัน
'ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้ตรวจเช็คโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำของภาครัฐ และขอเตือนเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หากพบว่า พื้นที่ใดมีปัญหาข้าวขาดหาย จะสั่งย้ายออกจากพื้นที่ และหากมีมูลว่าเจ้าหน้าที่ทุจริตจะตั้งกรรมการสอบสวน หากพบความผิดจะดำเนินคดี รวมทั้งโรงสีที่มักง่าย หาผลประโยชน์ด้วยการนำข้าวภาครัฐออกไปขายก่อนได้รับอนุญาต ก็จะส่งดำเนินคดีต่อไป' นายศิริพลกล่าว
ส.โรงสีค้านตั้งราคาขั้นต่ำส่งออก
นายปราโมทย์ วานิชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอผู้ส่งออกที่ต้องการให้มีการกำหนดเพดานราคาขั้นต่ำส่งออกข้าว และจะเสนอแนวคิดนี้ในการประชุมร่วมกับนายมิ่งขวัญ ในวันที่ 5 เมษายนนี้ เพราะเห็นว่าเป็นผลเสีย ทำให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำลงและเกิดการเก็งกำไรส่วนต่างจากการส่งออกได้มากขึ้น เพราะข้าวที่ระบายออกมาในสมัยนายเกริกไกร จีระแพทย์ อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ จำนวน 4 ล้านตัน ยังอยู่ในมือผู้ส่งออกที่ประมูลได้ถึง 9 แสนตัน ซึ่งขณะนั้นราคาที่ประมูลได้เฉลี่ยกระสอบละ 1.2 พันบาท ปัจจุบันขึ้นไป 2 พันบาท หากขายออกมาก็ได้ส่วนต่างกำไรถึง 6 พันล้านบาท และไม่ได้แก้ปัญหาการขาดแคลนข้าวในประเทศตามที่ผู้ส่งออกกล่าวอ้าง และขอยืนยันว่าผลผลิตข้าวที่จะออกสู่ตลาดในปีนี้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศแน่นอน
'เลี้ยบ'ปัดไทยคุมเข้มส่งออกข้าว
วันเดียวกัน นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศอาเซียนที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ปฏิเสธข่าวลือในตลาดข้าวระหว่างประเทศที่ว่าไทยกำลังเตรียมแผนเข้มงวดการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศว่า ไม่เป็นความจริง เพราะไม่ต้องการให้เกิดการบิดเบือน หรือสร้างอิทธิพลเทียมขึ้นในตลาด ส่วนตลาดภายในประเทศนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของอุปสงค์และอุปทาน
เอพีระบุว่า ก่อนหน้านี้ มีข่าวสะพัดในตลาดว่า ไทยเตรียมจำกัดการส่งออก เพื่อทำให้ปริมาณข้าวในตลาดภายในมีเพิ่มขึ้นจนเพียงพอต่อการบริโภค หลังจากที่ราคาข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1 เท่าตัวนับตั้งแต่ปี 2547 โดยมีสาเหตุหลายประการ ตั้งแต่ปัญหาราคาน้ำมัน ราคาปุ๋ยที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยไปจนถึงปัญหาเรื่องการระบาดของโรค, แมลงและภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิต ทั้งนี้เกิดความวิตกกันว่า ราคาข้าวอาจจะเพิ่มขึ้นไปอีก 40 เปอร์เซ็นต์จากราคาปัจจุบันในช่วงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากที่เวียดนามออกมาประกาศแล้วว่านับตั้งแต่สิ้นเดือนมีนาคม จะตัดปริมาณการส่งออกลง 1 ล้านตัน เพื่อชะลอปัญหาราคาและปัญหาเงินเฟ้อและทำให้เกิดความมั่นคงด้านอาหารขึ้นในประเทศด้วย
ยันข้าวในไทยพอบริโภค
ก่อนหน้านี้นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยที่สิงคโปร์ว่า ไทยมีข้าวอยู่ในสต๊อคราว 2.13 ล้านเมตริกตัน ซึ่งมากพอสำหรับการบริโภคในเวลา 3 เดือน สำหรับราคาในตลาดระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นนั้นส่งผลดีต่อชาวไร่ชาวนาและรัฐบาลจะปล่อยให้กลไกตลาดกำหนดราคาเพื่อการส่งออกเอง ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของไทยเคยประมาณการการส่งออกข้าวไว้ว่าในปีนี้จะอยู่ที่ราว 8.5 ล้านตัน ลดลงจากที่เคยส่งออกเมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 9.7 ล้านตัน
เทสโก้ให้รัฐสกัดปชช.ตื่นข้าวขาด
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารค้าปลีกสมัยใหม่ เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ต้องการให้ภาครัฐสร้างความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์ข้าวในขณะนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก เนื่องจากขณะนี้ปริมาณข้าวในตลาดเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค แต่ปัญหาการตื่นตระหนกทำให้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแห่ซื้อสินค้าเพื่อกักตุนเป็นจำนวนมาก จนบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นจาก 2,000 ถุงต่อวัน เป็น 6,000 ถุง หรือเพิ่ม 3 เท่าตัว ขณะที่บริษัทได้สินค้าเพียง 20-30% ของจำนวนที่สั่งซื้อข้าวถุง 1 หมื่นถุงเท่านั้น โดยผู้ผลิตให้เหตุผลว่าสินค้าขาดตลาด และจะพยายามเจรจากับซัพพลายเออร์เพื่อขอเพิ่มปริมาณสินค้า โดยยืนยันว่าห้างไม่ได้กักตุนสินค้ามติชน