ใครที่ติดตามข่าวสารการบ้านการเมืองในห้วงเวลานี้ คงจะสับสนกับการแสดงความคิดเห็นของนักการเมือง นักวิชาการ และสื่อมวลชน โดยเฉพาะการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ของ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล ที่มีความเห็นตรงกันว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหามากมาย เอกฉัตร
เป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นมาเพื่อทำลายระบบพรรคการเมือง เพราะวันนี้มีพรรคการเมือง 3 พรรคที่เข้าคิวขึ้นเขียงให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค คือ พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคพลังประชาชน
มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวเท่านั้น ที่แสดงความคิดเห็นในทำนองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่งใช้ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบแก้ไข และมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการดิ้นรนเพื่อตัวเอง เพราะพรรคจะถูกยุบ
ทำเอา นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่เคยรับบทโฆษกให้กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ตอนนี้เริ่มเห็นทางธรรมและรู้แจ้งเห็นจริงแล้วกับพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่นายบรรหารยอมสลัดความรู้สึกที่เจ็บปวด เพื่อให้ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านในอดีตเป็นไปด้วยความราบรื่น กรณีกระดาษแผ่นเดียวที่ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ควักออกมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนนายบรรหารมึน ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดที่ จ.สุพรรณบุรี หรือที่เมืองจีนกันแน่
แต่...วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ แทนที่จะเห็นใจและเข้าใจนักการเมืองใกล้ฝั่ง แต่กำลังจะสูญเสียพรรคการเมืองที่หวังจะฝากผีฝากไข้ โดยให้ลูกสาวลูกชายรับมรดก
กลับแสดงอาการแล้งน้ำใจ ไม่สนับสนุนก็น่าจะวางเฉย ไม่ใช่ดาหน้ากันออกมาคัดค้าน ใครเป็นนายบรรหารวันนี้ก็ย่อมเจ็บกระดองใจ
จนถึงวันนี้ ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะออกอาการมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลก็มีเสียงเพียงพอที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
เพียงแต่เสียดายแทนพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้โอกาสเปิดให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ฟอกตัวให้ประชาชนเห็นว่า ในรอบหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้เออออห่อหมกรับใช้เผด็จการตามที่ถูกกล่าวหา
ไม่ทราบว่ามีอะไรบังตา พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่พยายามที่จะฟอกตัวให้พ้นข้อกล่าวหา
กลับสนับสนุนเผด็จการอย่างออกหน้าออกตา จนลืมแสดงความมีน้ำใจกับนายบรรหารที่เคยร่วมหัวจมท้ายกันมา
ที่ผมบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนเผด็จการ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนขึ้นมาภายหลังการทำรัฐประหาร รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยากที่จะปฏิเสธว่าไม่ได้เขียนขึ้นมาจากการบงการของเผด็จการ เพราะหลายมาตราของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำลายระบบพรรคการเมือง มุ่งหวังล้างเผ่าพันธุ์พรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกนี้จะยุบพรรคการเมืองง่ายเหมือนกับรื้อเพิงหมาแหงนริมถนน
นอกจากนั้น พฤติกรรมของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคน ไปสอดคล้องกับการแสดงความคิดเห็นของผู้ที่ร่วมกันสุมเศียรร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาด้วยใจอคติ และไปสอดคล้องกับการแสดงความคิดเห็นของนายทหารที่ร่วมกันทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชน ปี 2540 ยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
และ...ที่น่าเป็นห่วงคือ การแสดงความคิดเห็นจากฝ่ายที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในทำนองข่มขู่ว่า ระวังประเทศจะเกิดวิกฤติ บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ
มันอะไรกันนักหนา เพียงแค่แก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟเชียวหรือ
รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ เขียนขึ้นมาจากคน ดังนั้นคนก็ควรจะมีสิทธิ์แก้ไขได้ เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในสถานการณ์ปัจจุบัน
หรือว่าผู้ที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องการให้มีการฉีกรัฐธรรมนูญแทนการแก้ไข กระนั้นหรือ