WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 31, 2008

แถลงนโยบาย ข้างเดียว โดยไร้ฝ่ายค้าน

ที่มา ไทยรัฐ

สืบเนื่องจากกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ได้ยกขบวนไปชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา เพื่อขัดขวางรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ให้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมร่วมของรัฐสภา จนต้องเปลี่ยนสถานที่แถลงนโยบายจากรัฐสภาไปเป็นที่กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา และจัดการแถลงนโยบายอย่างทุลักทุเลนั้น

ตำรวจขอร้อง นปช.ให้เปิดทาง

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ที่ยังคงปักหลักชุมนุม อยู่ที่หน้ารัฐสภาเป็นวันที่สองนั้น ตั้งแต่เวลา 07.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่ง ได้เดินทางมาเจรจากับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เพื่อขอให้เปิดเส้นทางด้านประตูปราสาทเทวริทธิ์ ให้นายกรัฐมนตรี ส.ส.และ ส.ว.เดินทางเข้าอาคารรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบาย แต่กลับถูกปฏิเสธจากแกนนำ นปช. และยืนยันในจุดเดิมคือ หากจะเข้ามาจะต้องเดินเท้าเข้ามาเท่านั้น ซึ่งรอง ผบช.น. ได้กล่าวกลับว่า หากไม่ยินยอมจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจผลักดันเปิดทางให้นายกฯ ส.ส.และ ส.ว.เข้ามาได้ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังผลักดันถึง 4 รอบ และเจรจาอีก 3 รอบ แต่ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด แกนนำ นปช.ได้ประกาศอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ชุมนุมที่เป็นผู้หญิงให้มายืนอยู่แถวหน้าประตูปราสาทเทวริทธิ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผลักดันออกมาได้ แต่เจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนจากตำรวจชายเป็นตำรวจหญิงมาประจันหน้าแทน อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมได้ประกาศให้ผู้ชายเข้ามาประจันหน้ากับตำรวจหญิง ซึ่งตำรวจก็ได้เปลี่ยนจากตำรวจหญิงเป็นตำรวจชายเข้าประจันหน้าแทนเช่นกัน

ม็อบขวางไม่ให้เปิดประตูรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักปราศรัยอยู่ด้านนอกประตูอย่างต่อเนื่อง โดยมีเหล่าแกนนำ นปช. ประกอบด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจักรภพ เพ็ญแข ขึ้นปราศรัยอยู่บนรถหกล้อที่ดัดแปลงเป็นเวทีปราศรัย พร้อมกับประกาศให้ผู้ชุมนุมที่เป็นชายฉกรรจ์มายืนต่อแถวหน้ากระดานด้านประตูปราสาทเทวริทธิ์ โดยหากตำรวจผลักดันออกมาให้ใช้หัวไหล่ดันกลับไป อย่าให้ตำรวจเปิด ประตูออกมาโดยเด็ดขาด และประกาศให้ผู้ชุมนุมโทรศัพท์ เรียกให้ นปช.ที่อยู่บ้านให้มารวมตัวที่รัฐสภาโดยด่วน เพราะไม่แน่ใจในสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันได้มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย 2 คน มานั่งรออยู่ริมฟุตปาทด้านประตูปราสาทเทวริทธิ์ เพื่อเข้าร่วมแถลงนโยบาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยได้ตั้งด่านปิดกั้นเส้นทางเข้าสู่รัฐสภา อาทิ แยกถนนพิชัยตัดถนนราชวิถี แยกการเรือน รวมทั้งบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงเดินทางเข้ามาสมทบ

ย้ายไปประชุมกระทรวงต่างประเทศ

สำหรับความเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 05.45 น. วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ได้เดินทางมายังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ถึงแผนการเดินทางเข้าไปแถลงนโยบายที่รัฐสภา กระทั่งเวลาประมาณ 08.25 น. นายกฯและสมาชิกพรรคบางส่วนได้เดินทางออกจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 14 คัน มุ่งหน้าเข้าสู่รัฐสภา แต่ปรากฏว่าได้มีการเปลี่ยนเส้นทางไปยังสโมสรกองทัพบกเก่า ถนนเทเวศร์ ในเวลา 09.30 น. โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เข้าหารือ ก่อนออกเดินทางมายังกระทรวงการต่างประเทศ ในเวลา 09.30 น. เพื่อแถลงนโยบาย โดยมีสารวัตรทหารร่วมนำขบวนมายังกระทรวงการต่างประเทศด้วย สำหรับเปลี่ยนสถานที่แถลงนโยบายมาเป็นห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา

ชทพ.ไม่ให้อภิปรายนโยบายรัฐบาล

ส่วนความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ของพรรคชาติไทย พัฒนานั้น เมื่อเวลา 07.00 น. วันเดียวกัน ส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รอง นายกรัฐมนตรี และนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้มารวมตัวกันที่พรรคชาติไทยเดิม ริมถนน สุโขทัย เพื่อประชุมหารือกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา คอยติดตาม และประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งที่ประชุม มีมติว่าจะไม่เปิดให้มีการอภิปรายนโยบายใดๆอีก เพราะถือว่ากรอบการร่างนโยบายได้ผ่านการพิจารณามาดีแล้ว จนกระทั่งเวลา 09.00 น. แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาก็ได้รับประสานจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า จะสามารถแถลงนโยบายได้ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้แน่นอน ขณะที่ทางตำรวจได้เตรียมรถตู้จำนวน 2 คัน มารับ ส.ส. และ ครม.ของพรรคชาติไทยพัฒนาทั้งหมด ออกจากพรรค ชาติไทยมายังกระทรวงการต่างประเทศด้วย

ส.ส.-ส.ว.ลงชื่อเข้าประชุม 10 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า แกนนำ นปช. และ คนเสื้อแดงที่ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา ได้ผลัดกันขึ้นเวทีการ อภิปรายโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส่วนภายในบริเวณรัฐสภาก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษา ความปลอดภัยอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดทางให้บรรดาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกรัฐสภาบางส่วน และสื่อมวลชน สามารถเดินเข้า-ออกได้ทางประตูเล็กด้านถนนอู่ทองใน โดยต้องแสดงบัตรประจำตัว กระทั่งเวลา 07.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1,000 นาย พยายามผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขวางประตูปราสาทเทวริทธิ์ เพื่อเปิดเส้นทางให้สมาชิกเข้ามาประชุมหลายครั้ง แต่ ไม่สำเร็จ ต่อมาเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่รัฐสภาได้กดออดเรียกประชุม ปรากฏว่าบนจอโทรทัศน์วงจรปิดของรัฐสภา มีสมาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุมเพียง 10 คน จากนั้นมีรายงานข่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เสนอขอย้ายสถานที่ประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบาย ไปที่กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา

ส.ว.ยันขอประชุมที่รัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสมาชิกรัฐสภาที่เดินทาง เข้ามายังรัฐสภาประมาณ 10 คน อาทิ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงษ์ ส.ว.มุกดาหาร นายบวรศักดิ์ คณาเสน ส.ว.อำนาจเจริญ พ.ต.อ.สนธยา แสงเภา ส.ว.สรรหา ขณะที่สมาชิกวุฒิสภา โดยนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ได้สั่งการ ให้สมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดไปรวมตัวกันที่อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเข้าร่วมประชุมรัฐสภา พร้อมกับให้เซ็นชื่อเข้าร่วมประชุมด้วย

พ.ต.อ.สนธยากล่าวว่า ยืนยันที่จะประชุมที่รัฐสภาเพียงอย่างเดียวหากไปประชุมที่อื่นจะขัดรัฐธรรมนูญ ส่วน ส.ว.คนอื่นจะไปร่วมประชุมที่อื่นเป็นสิทธิส่วนบุคคล อย่างไร ก็ตาม ตนสามารถเดินเข้าสภาได้อย่างสะดวกสบายม็อบ ไม่ได้ขัดขวางใดๆเลย

รองประธานวุฒิฯขน ส.ว.ร่วมประชุม

ต่อมาเมื่อเวลา 10.15 น. นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิ ได้นำ ส.ว.ประมาณ 30 คน ซึ่งมีทั้ง ส.ว.เลือกตั้งและ ส.ว.สรรหาเดินทางมายังกระทรวงการต่างประเทศด้วยรถตู้และรถส่วนตัว โดยนายนิคมให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภายืนยันว่าจะเข้าร่วมประชุมเกิน 70 คนขึ้นไป มั่นใจว่าจะครบองค์ประชุมแม้ฝ่ายค้านจะไม่มาร่วมประชุมก็ตาม ทั้งนี้ กลุ่ม ส.ว.บางส่วนได้รวมตัวกันตั้งแต่เวลา 07.00 น. ที่อาคารสุขประพฤติ ขณะที่ยังมีบางส่วนยังติดค้างอยู่ที่รัฐสภาและจะทยอยเดินทางมาร่วมประชุมด้วย

ใช้ห้องวิเทศสโมสรแถลงนโยบาย

เวลา 10.20 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ขึ้นเวทีประกาศให้ผู้ชุมนุมเตรียมตัว เพราะว่าขณะนี้ทราบว่า นายกฯ จะใช้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นที่แถลงนโยบายของรัฐบาล ไม่ทราบว่านายอภิสิทธิ์รังเกียจรัฐสภาหรืออย่างไร ทางกลุ่ม นปช.จะนำกำลังส่วนหนึ่งไปที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และนายสุพร อัตถาวงศ์ เป็นแกนนำ นปช.นำขบวนไป นายอภิสิทธิ์จะหนีไปไหนได้ เพราะขณะนี้เรารู้ทะเบียนรถตู้แล้ว จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำกำลังส่วนหนึ่งขึ้นรถปิกอัพจำนวน 3 คัน เพื่อเดินทางไปที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่กลุ่ม นปช.ได้ทราบการเปลี่ยนแปลงสถานที่ ก็ได้มีการกระจายกำลังมายังหน้ากระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา โดยกลุ่ม แรกประมาณ 100 คน เดินทางมาถึงในเวลา 10.30 น. และคงทยอยเดินทางมาสมทบอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ส.ส.และ ส.ว.ก็เริ่มทยอยกันมายังห้องประชุมวิเทศสโมสร ชั้นล่าง ซึ่งสามารถจุผู้เข้าประชุมได้ประมาณ 500 คน โดยกระทรวงการต่างประเทศมักใช้ห้องดังกล่าวจัดงานเลี้ยงสำคัญๆ และการประชุมระดับนานาชาติ

เพื่อไทยอ้างเตรียมจัดฉากย้ายที่ประชุม

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 08.00 น.วันเดียวกัน บรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทยทยอยเดินทางมาที่พรรค เพื่อหารือถึงท่าทีการเข้าร่วมประชุมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยมี ส.ส.เข้าร่วมหารืออย่างคับคั่ง อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายวิทยา บุรณศิริ นายสามารถ แก้วมีชัย เป็นต้น ต่อมาเวลา 10.00 น. ภายหลังจากที่ได้รับข้อความจากรัฐสภา ขอย้ายสถานที่แถลงนโยบายรัฐบาลไปที่กระทรวงการต่างประเทศ ในเวลา 11.00 น. ทำให้ ส.ส.เพื่อไทยต่างแสดง ความไม่พอใจกันอย่างมาก พร้อมแถลงข่าวตอบโต้ทันที

นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง ได้พบกับอดีตประธานวุฒิสภามาร่วมกินข้าวกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย โดยมีการหารือกันว่าจะให้ตำรวจกับฝ่ายรัฐบาล บุกเข้าทลายแนวกั้นของกลุ่มคนเสื้อแดง ให้เกิดการปะทะกัน แล้วจะนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปแจ้งความว่า มีการขัดขวางจนไม่สามารถเข้าประชุมแถลงนโยบายได้ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างให้เกิดความชอบธรรม ขอเลื่อนการแถลงนโยบายออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ นอกจากนี้ ทราบว่ามี ส.ว.กลุ่มหนึ่งไปลงชื่อเข้าประชุมล่วงหน้า ที่อาคารสุขประพฤติแล้วนำมายื่นต่อที่ประชุม ไม่ได้ลงชื่อที่สภาฯ ถือว่าไม่ถูกต้อง

บอยคอตไม่เข้าร่วมแถลงนโยบาย

นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯ กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติไม่เข้าร่วมประชุมแถลงนโยบายรัฐบาล ที่กระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นการทำผิดข้อบังคับการประชุมของสภาฯข้อที่ 3 ปี 2551 อย่างชัดเจนที่ระบุว่าการย้ายสถานที่ประชุม ต้องมีการยกเว้นข้อบังคับการประชุม โดยจะต้องเรียกประชุมที่สภาฯเพื่อขอยกเว้นการใช้ข้อบังคับข้อใดข้อหนึ่ง แต่กรณีนี้เป็นการใช้ดุลพินิจส่วนตัวของนายชัยคนเดียว จึงไม่ชอบตามข้อบังคับของสภาฯ ฝ่ายค้านจึงไม่ไปร่วมสังฆกรรม ที่ผ่านมาสมัยที่พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล เคยขอย้ายสถานที่ประชุมแถลงนโยบายในลักษณะนี้มาแล้ว แต่ พรรคประชาธิปัตย์ตอบโต้ว่า การยกเว้นข้อบังคับการประชุมไม่ใช่อำนาจของประธานสภาฯ ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่าสิ่งใดที่อดีตฝ่ายค้านเห็นว่าทำไม่ได้พอเป็นรัฐบาลกลับมาทำเอง หากยังดื้อดึงแถลงนโยบายที่กระทรวงการต่างประเทศต่อไปจะเป็นโมฆะ

อัด ชัยดันทุรังเดินหน้าทำผิด

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ข้อบังคับการประชุมสภาระบุชัดเจนว่า การประชุมรัฐสภาต้องทำภายในอาณาบริเวณรัฐสภาเท่านั้นดังนั้น การย้ายสถานที่ประชุมจึงไม่ชอบด้วยข้อบังคับการประชุม ทำให้มติใดๆออกมาต้องเป็นโมฆะ ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีการประชุมสภานอกอาคารรัฐสภา ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เป็นการทำความเสื่อมเสียแก่สภานิติบัญญัติ ที่ผ่านมาประธานรัฐสภาเคยระบุเองว่า หากไปดำเนินการประชุมที่อื่น โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ก็ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ประธานรัฐสภารู้ว่าทำไปก็ขัดต่อข้อบังคับการประชุมแต่ก็ยังทำ นอกจากนี้ ได้ โทรศัพท์หารือกับผู้ใหญ่ระดับสูงของสภาฯ เพื่อหารือถึงเรื่องการย้ายสถานที่ประชุม ซึ่งผู้ใหญ่คนดังกล่าวเห็นว่าไม่น่าจะทำได้ เพราะต้องยกเว้นการใช้ข้อบังคับก่อน แต่เมื่อประธานรัฐสภาสั่งมาเช่นนั้นก็ต้องปฏิบัติตาม จึงเป็นการใช้อำนาจบีบบังคับเจ้าหน้าที่รัฐสภา ให้ กระทำการขัดต่อระเบียบข้อบังคับอย่างชัดเจน หลังจากนี้จะมอบให้นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นผู้ดำเนินการรวบรวมเอกสารส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

เดินหน้าแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.10 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้สั่งเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อรับทราบการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยก่อนเปิดประชุม นายชัยได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า มีสมาชิกร่วมลงชื่อแล้วจำนวน 310 คน ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง และได้ชี้แจงถึงการย้ายสถานที่มาประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศว่าถือเป็นเหตุสุดวิสัย จึงต้องขอมติจากที่ประชุมว่า จะอนุญาตให้ย้ายสถานที่หรือไม่ ซึ่งในที่ประชุมไม่มีใครคัดค้าน จากนั้นจึงเข้าสู่วาระการประชุมทันที โดยนายชัยได้ให้นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เริ่มการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อเวลา 11.30 น.



อ่านรายละเอียดต่อ ไทยรัฐ