WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 30, 2008

สุดท้าย แม้มาร์คจะแถลงนโยบายได้ ด้วยวิธีใดก็ตา่ม แต่คนเืสื้อแดงได้แสดงให้รู้ว่าไม่สงบแน่

ที่มา thaifreenews

บทความโดย...ลูกชาวนาไทย


ผมเชื่อว่า ในที่สุดแล้ว รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์หรือรัฐบาลมาร์คก็คงหาวิธีใดวิธีหนึ่งในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาจนได้ เช่น การย้ายไปแถลงนโยบายที่อื่นหรือเลื่อนออกไป ซึ่งก็คงแถลงจนได้ด้วยวิธีใด วิธีหนึ่ง

สำหรับผมแล้ว ตรงนั้นไม่สำคัญเท่าใดนัก เพราะคนเสื้อแดงได้แสดงพลังให้เห็นแล้วว่า "พวกศักดินาอำมาตยาธิปไตย" ไม่ได้ชนะในการต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้แต่อย่างใด และพลังของฝ่ายเสื้อแดงยังคงมีอยู่พร้อมมูลและพัฒนาได้รวดเร็วมาก และสามารถยกระดับการต่อสู้ไปเพื่อเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยได้แล้ว



ตอนที่พวกอำนาจใช้วิธีการอันฉ้อฉลต่ออำนาจประชาชน จนสามารถตั้งรัฐบาลของนายมาร์คได้ใหม่ๆ พวกเขาเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ต่อไปนี้ประเทศจะสงบ พวกเขาจะได้ปกครองได้เหมือนเดิมเสียที เพราะคนเสื้อแดงเป็นม็อบจัดตั้งของทักษิณหรือเนวิน เมื่อสามารถบล๊อกแกนนำม็อบในต่างจังหวัดไม่ให้ขนคนมาได้ หรือปล่อยข่าวว่า "ทักษิณหมดเงินแล้ว" ก็จะทำให้การต่อต้านรัฐศักดินาอำมาตย์หมดไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาก็สามารถดึงสังคมกลับไปสู่ยุคก่อนปี 2540 ได้อีกเหมือนเดิม

ที่จริงพวกเขาคิดผิด สัณนิษฐานผิดแต่ต้น เพราะการต่อต้านอำนาจของพวกเขา การต่อต้านอำนาจการครอบงำสังคมของพวกศักดินาอำมาตยฯ ก็ไม่ได้หมดไปแต่อย่างใด เพราะในความเป็นจริงแล้ว คนเสื้อแดงไมได้ไม่ได้สู้เพื่อทักษิณหรือ "สู้เพื่อนายใหญ่"แต่อย่างใด อย่างที่พวกนั้นพยายามด้อยค่าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงลง แม้ทักษิณจะเป็น Idol หรือ "ผู้นำทางจิตใจ" แต่คนเสื้อแดงสู้เพื่อสิ่งที่สูงส่งกว่านั้น เราต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ และเราไม่ต้องการ "ให้ใครมาชี้นำทำตัวเป็นคุณพ่อที่แสนดี" กับเราอีก เราต้องการ "ประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน” เราโตพอที่จะเรียนรู้และปกครองตัวเองกันได้แล้ว เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว

การประกาศศักดาของคนเสื้อแดงในการชุมนุมพลที่หน้ารัฐสภา คือการสื่อสารไปยังคนไทยทั้งประเทศและชาวโลกทั้งหลายว่า เราจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์กลับคืนมาสู่ประเทศของเรา

หากพวก "ศักดินาอำมาตย์ฯ" ใช้วิธีการสกปรกเพื่อขึ้นสู่อำนาจ แล้วคิดว่าจะปกครองประเทศ มอมเมาประชาชนต่อไปได้ นั่นคือ การเข้าใจผิดอย่างรุนแรง และประเมินพวกเราต่ำไป เราไม่ใช่ม็อบจัดตั้งที่ขนกันมาจากต่างจังหวัด แต่เราคือคนในกรุงเทพฯ ที่ตาสว่างแล้วนี่แหละ เราพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้กับการฉ้อฉลต่อเจตนารมณ์ของประชาชน

ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอย่างไร พวกศักดินาอำมาตย์ หรือพวก Royalist ที่ดูถูกประชาชนคนรากหญ้าทั้งหลายมานานแสนนาน ก็ไม่มีทางดึงสังคมให้กลับไปสู่จุดเดิมที่มอมเมากันมานานได้แล้ว ดุลยภาพของสังคมได้เปลี่ยนไปแล้ว

สังคมนี้ไม่มีศูนย์รวมจิตใจแบบที่ พยายามสร้างภาพกันมานานอีกแล้ว สังคมนี้ เป็น "ไท" ไม่ยอมเป็น "ทาส" อย่างเดิมอีกแล้ว เราไม่ใช่ไพร่ของใครอีกต่อไปแล้ว

เราจะต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ต่อไป

คนไทยไม่มีศูนย์รวมจิตใจอีกแล้ว พวกเขาผลักเราออกมาเอง สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในสามปีมานี้ พวกเขาสร้างมันขึ้นมาเอง และต้องได้รับผลกรรมที่ทำขึ้นนั้นด้วยตัวเองเช่นกัน



ตอนนี้ผมคิดว่าคนไทยได้แตกกันออกไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ยากที่จะมีใครรวมศูนย์ความสามัคคีได้อีกแล้ว การตั้งรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ อย่างดันทุรัง ใช้ สส.ให้ทรยศต่อประชาชน ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สิ้นความเคารพกันไปอย่างสิ้นเชิงกับหลายๆ สิ่ง หลายองค์กร ไม่ว่า สส. ศาล หรือองค์กรอื่นๆ

ตอนนี้แก้ไขอย่างไรก็ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว

ทำยังไงได้ เขาผลักคนครึ่งหนึ่งของประเทศออกมาเอง

เพื่อนผมที่ ไม่ใช่ทั้งเสื้อแดงและเสื้อเหลือง เขาถามว่าสถานการณ์ตอนนี้ของเมืองไทยมันจะไปจบลงที่ใด

ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันแต่ที่แน่ๆ อิทธิพลของบางสิ่งบางอย่างได้ลดลงไปแทบหมดสิ้นแล้ว พวกเขาไม่อาจชี้นำหรือหาทางออกให้กับสังคมได้อีกต่อไป และเมื่อหาทางออกให้สังคมไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง (อย่าคิดว่าประชาชนโง่) ข้อเสนอไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ไร้พลัง และไม่ใช่ทางออก ประชาชนที่ตาสว่างแล้ว คงไม่ยอมกลับเข้า
Matrix อย่างโง่เขลากันอีกต่อไป

สุดท้ายสังคมก็อาจก้าวข้ามไป พวกเขาก็กลายเป็นซากหักพังชำรุดทางประวัติศาสตร์ ที่เรามองเห็นอย่างดาดดื่นๆ ทั่ว ๆไปที่กรุงศรีอยุธยา หรือซากปราสาทของ
Khmer Empire ที่ล่มสลายไปแล้ว

เมื่อสิ้นพลังในการชี้นำสังคม ก็เรียกได้ว่าสิ้นแทบทุกสิ่งทุกอย่างไปเลยทีเดียว

ตอนนี้สังคมต้องหาทางออกเองแล้ว
และผมเชื่อว่าสุดท้ายสังคมก็จะหาทางออกจนได้แหละครับ แต่สังคมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ประชาชนจะตาสว่างกันไปทุกหย่อมหญ้า