WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, January 1, 2009

'เสนาะ' ซัด ปชป.จงใจขัด รธน.

ที่มา ไทยรัฐ

วันที่ 31 ธ.ค. ที่บ้านพักเมืองทองธานี นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลแถลงนโยบายที่กระทรวงต่างประเทศ ว่า การแถลงของ รัฐบาลครั้งนี้เป็นโมฆะ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะตนไม่ได้รับแจ้งจากประธานสภาฯเลยว่าจะมีการย้ายที่แถลงนโยบาย หากเป็นแบบนี้ต่อไปใครก็ทำได้ นึกจะย้ายไปไหนก็ย้าย ไม่จำเป็นต้องบอกใคร การทำแบบนี้มันมากเกินไป แล้วสังคมจะมองอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์เองก็มีผู้ใหญ่ในพรรคเป็นจำนวนมาก ที่เก่งเรื่องกฎหมาย ทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมยังทำแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ว่าขัดต่อระเบียบการประชุม และขัดรัฐธรรมนูญ “ต่อไปผมจะดูซิว่านักกฎหมาย หรือตุลาการจะว่าอย่างไร จะเอากันแบบนี้จริงๆหรือ แบบนี้เท่ากับว่าหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว กฎหมายของประเทศนี้ใช้ไม่ได้ และผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และจะต้องส่งไปทุกแห่งที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย และจะได้เห็นกันว่าขื่อแปอยู่ที่ไหน แล้วต่อจากนี้ไปบั้นปลายจะเหลืออะไร เมื่อโจรมาปล้นเอารัฐบาลไป แล้วรู้ทั้งรู้ว่าเป็นโจร แต่ถ้าศาลตัดสินเข้าข้างโจรว่าการปล้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ต่อไปก็ไม่ต้องใช้กฎหมายแล้ว” นายเสนาะกล่าว

จวกแหลกรัฐบาลบ้าไปแล้ว

นายเสนาะกล่าวว่า ก่อนหน้านี้การออกพระกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาในวันที่ 29-30 ธ.ค. ก็กำหนดไว้ชัดว่าจะต้องประชุมที่รัฐสภา ในเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ประชุมไม่ได้ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ก็เลื่อนประชุมมาเป็นวันที่ 30 ธ.ค. แต่ทำไมนายชัยไม่แจ้งให้สมาชิกคนอื่นให้ทราบว่าจะมีการย้ายที่ ทั้งที่ประธานสภาฯก็รู้ว่าต้องแจ้ง แต่กลับเอารถไปรับเฉพาะคนของตัวเอง และให้ ส.ว.เซ็นชื่อเข้าประชุมตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.

“มันไม่ใช่ว่าการกระทำครั้งนี้จะมากไป แต่มันบ้าไปแล้ว ถูลู่ถูกังเอาประโยชน์ให้ตัวเองทุกอย่าง อย่างนี้บ้านนี้เมืองนี้ก็หมด ไม่มีอะไรเหลือ ตั้งแต่เล่นการเมืองไม่เคยพบเคยเจอ และไม่ใช่ว่าฝ่ายค้านเขาไม่ต้องการไปร่วมประชุม ไม่เหมือนกับที่พรรคประชาธิปัตย์ทำเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ในตอนที่รัฐบาลนายสมชาย วงสวัสดิ์ แถลง เพราะตอนนั้นประชาธิปัตย์ตั้งใจไม่ร่วมประชุมเอง” นายเสนาะกล่าว

พท.ส่ง ส.ส.ลงพื้นที่ฟ้องชาวบ้าน

ทางด้านพรรคเพื่อไทย วันเดียวกัน นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่ได้ให้ ส.ส.ลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อชี้แจงกรณีรัฐบาลย้ายสถานที่ประชุมแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านเข้าร่วม โดยในวันที่ 4 ม.ค. 2552 แกนนำพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.จะมาหารือที่พรรค เพื่อเตรียมการเปิดเวทีอภิปรายนโยบายรัฐบาลนอกสภา ในวันที่ 5 ม.ค. อาจจะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลมาร่วมด้วย จะแฉเบื้องลึกการจัดตั้งรัฐบาลโดยมิชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่จะขึ้นเวทีจะเป็นทีมอภิปรายชุดเดียวกับที่วางตัวไว้แถลงนโยบายรัฐบาล ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า การย้ายสถานที่แถลงนโยบายรัฐบาลไม่ขัดกฎหมายนั้น ทุกคนทราบว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีการบัญญัติไว้ในข้อบังคับ แต่อะไรที่ไม่ได้บัญญัติไว้ ต้องยึดตามธรรมเนียมประเพณีที่เคยปฏิบัติในอดีต ซึ่งไม่ถูกต้องและไม่สง่างาม

อัด “ชวน” ลืมหลักการ ปชต.

นายวิทยากล่าวว่า เท่าที่ทราบการเปลี่ยนสถานที่แถลงนโยบายรัฐบาลไม่ใช่แนวคิดนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา แต่เป็นแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ แต่นายชัยในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ น่าจะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง ควรรู้ว่าที่ใดควรใช้เป็นที่ทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ การทำตัวตามเช่นนี้ไม่สง่างาม ทำให้ถูกมองว่าฝ่ายนิติบัญญัติถูกครอบงำโดยฝ่ายบริหาร เข้าใจว่าเป็นพ่อของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่มี ส.ส. ในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ไม่ควรไปสมยอมให้สภาเสียเกียรติ เรื่องการแถลงนโยบายรัฐบาลให้ลองถามอดีตประธานรัฐสภาหลายคน ทั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายอุทัย พิมพ์ใจชน ว่าถูกต้องหรือไม่ แม้แต่นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้านี้ 2 วัน ระบุว่าการย้ายสถานที่ ประชุมสภาเป็นการไม่ควร แต่เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ทำไมไม่ทักท้วง กลับเดินทางไปประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศด้วย ก้มหน้าก้มตา ทำไม่รู้ไม่เห็น ลืมอุดมการณ์และแนวคิดในหลักประชาธิปไตยของตัวเองไปแล้ว

โวย “ชัย” เอื้อประโยชน์รัฐบาล

นายวิทยากล่าวว่า ส่วนการตรวจสอบรายชื่อ 50 ส.ว.ที่ไปลงชื่อเข้าแถลงนโยบายรัฐบาลล่วงหน้านั้น จะต้องตรวจสอบว่า ส.ว.เหล่านี้เข้าประชุมในวันที่ 30 ธ.ค. จริงหรือไม่ เรื่องนี้มีหลายฝ่ายตรวจสอบ ทั้งนี้ในวันดังกล่าว ให้เวลาฝ่ายค้านเตรียมตัวแค่ 1 ชั่วโมง คงไม่มีใครไปร่วมประชุมทัน หากไปทัน ฝ่ายรัฐบาลคงกีดกันไม่ให้ไปร่วมประชุมด้วยอยู่แล้ว หากเข้าไปคงเห็นว่าองค์ประชุมครบจริงหรือไม่ ส่วนการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ขอให้ไปถาม ส.ส.ที่อายุมากๆ เช่น นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช นายมณฑล ไกรวัฒนุสสรณ์ ส.ส. สมุทรสาคร ที่ไม่สามารถรับข้อความเองได้ เวลาจะประสานอะไร ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ ต้องคำนึงถึงความถูกต้องด้วย ซึ่งในวันที่ 29 ธ.ค. ประธานรัฐสภายังประสานกับตนอยู่ แต่ทำไมวันที่ 30 ธ.ค. กลับไม่มีการประสาน เหมือนจงใจเอื้อประโยชน์ให้รัฐบาล

เสี้ยมแก๊งมนต์เขมรทำเจ๊ง

ด้านนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา สั่งย้ายสถานที่ประชุมจากรัฐสภาไปกระทรวงการต่างประเทศว่า นายชัยมีพฤติกรรม 2 มาตรฐาน เห็นได้จากในวันที่ 7 ต.ค. 2551 ประกาศว่าไม่สามารถย้ายที่ประชุมรัฐสภาได้ แต่เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2551 กลับย้ายที่ประชุมรัฐสภาได้ หรือว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ให้โบนัสแก๊งมนต์เขมร ขอเตือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ระวังแก๊งมนต์เขมรจะทำให้เกิด สปก.4-01 รอบ 2 ทำให้รัฐบาลต้องยุบสภา แก๊งนี้อยู่ที่ไหนก็หักหลังเขาไปหมด เคยอยู่กับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ก็หักหลังมาแล้ว อยู่ พรรคพลังประชาชนก็ทรยศต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จึงอยากให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องระมัดระวังแก๊งนี้เป็นพิเศษ และขอเตือนให้กลุ่มเพื่อนเนวินที่ได้เป็น รมว.คมนาคม และ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นกระทรวงเกรดเอ มีผลประโยชน์ มหาศาล ขอให้ทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ อย่าทำเพื่อตัวเองเด็ดขาด ส่วนพฤติกรรมของกองทัพนั้น ประชาชนในพื้นที่ฝากไปถึงว่าขอให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่ใช่ ตอนม็อบเสื้อเหลืองปิดสนามบินกลับไม่ยอมทำอะไร แต่ พอม็อบเสื้อแดงปิดล้อมกระทรวงการต่างประเทศ ปรากฏว่ากองทัพส่งให้ทหารออกมา

ท้ากลุ่มเนวินวัดศรัทธาคนอีสาน

ขณะที่นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยมีมติมอบ หมายให้นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และคณะทำหนังสือประณามรัฐบาลและนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่จัดแถลงนโยบายรัฐบาลที่กระทรวงการต่างประเทศว่า หลังวันปีใหม่คงแล้วเสร็จและเปิดให้ ส.ส.ลงชื่อร่วมกันประณาม โดยเฉพาะนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่ลุแก่อำนาจนัดประชุมนอกรัฐสภาโดยทำผิดข้อบังคับการประชุม ทำตัวเป็นลูกไล่รัฐบาล ไม่เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนกรณีที่ มี ส.ส.เพื่อไทยเตรียมร่วมลงชื่อถอดถอนนายชัยออกจากตำแหน่งนั้น เป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง ยังไม่ถึงเวลา หลังจากนี้ไปพรรคเพื่อไทยต้องเข้าสู่สนามเลือกตั้งซ่อม โดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่จะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าประชาชนยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจริงหรือไม่ เป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มเพื่อนเนวิน ส่วนการเลือกตั้งซ่อมในภาคกลางและภาคเหนือนั้น เป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคชาติไทยพัฒนา เชื่อมั่นว่าเราจะได้ ส.ส.ประมาณ 20 ที่นั่งจากเลือกตั้งซ่อม 29 ที่นั่ง

ขู่มีข้อมูลเด็ดฟัน “ชวรัตน์-โสภณ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันทีที่เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไป นายไพจิตตอบว่า ขณะนี้มีหลักฐานที่มีน้ำหนักอภิปรายได้ 3 วัน 7 วัน โดยสามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันที ทั้งนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียในบริษัทชิโนทัย ที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และยังมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล ลูกชายนายชวรัตน์ ที่มีเรื่องที่ไม่ถูกต้องอยู่เยอะ โดยผู้ที่จะอภิปรายจะขุดมาหมดว่าไปทำอะไรไว้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับนโยบายที่ใช้กำหนดนโยบาย กระทรวงคมนาคม รวมถึงจะอภิปรายนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ที่จะอภิปรายในประเด็นการฉ้อฉล การทุจริต โดยเฉพาะโครงการเช่ารถเอ็นจีวี 4 พันคัน

จ้องเปิดแผล “เทพเทือก-ประวิตร”

นายไพจิตกล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้จองกฐินนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯดูแลความ มั่นคง และผู้จัดการรัฐบาล ในอดีตเคยถูกอภิปรายเรื่อง สปก.4-01 เราจึงทราบเจตนาที่เข้ามาดูแลสำนักการตำรวจแห่งชาติว่าเป็นอย่างไร และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในประเด็นการจัดการหายุทโธปกรณ์ไม่โปร่งใส พร้อมทั้งอภิปรายในประเด็นสำคัญการได้มาซึ่ง อำนาจของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคนี้มีอุดมการณ์ ต่อสู้เผด็จการ แต่กลับไม่ทำตามอุดมการณ์ เราจึงเตรียมอภิปรายชี้ให้ประชาชนเห็นถึงไม่ชอบธรรม นอกจากนี้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ก็จะถูกอภิปรายไม่ไว้ วางใจด้วย ที่ไม่มีความเหมาะสมโดยไปขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตรฯ แต่กลับได้เป็น รมว.ต่างประเทศ