WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, September 16, 2009

ป.ป.ช 2009

ที่มา บางกอกทูเดย์

ยิ่งกว่าโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่สร้างความหวาดกลัวในวงกว้าง สำหรับคำวินิจฉัยจาก คณะป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กรณีสั่งสลายการชุมนุมของ กลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551การชี้มูลความผิด 2 อดีตนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธและนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวมทั้งว่าที่อดีตผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาทวงษ์สุวรรณ และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.นข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดยให้ฟ้องร้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นอกจากนี้มติคราวเดียวกันยังชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง กับพล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.สุชาติ ว่าได้กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และละเว้นการกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัยมติดังกล่าว ย่อมทำให้ผู้ถูกชี้มูลและผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั่วไปย่อมหวั่นไหวเสียขวัญกำลังใจด้วยเห็นว่าการทำตามหน้าที่กลับต้องรับผิดสถานหนักเช่นนี้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งยังอยู่ในราชการ และอาจต้องทำหน้าที่ต่อไปหากมีการชุมนุมกัน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถามไปยัง ป.ป.ช. ว่าหากผู้ชุมนุมมีท่าทีจะก่อความวุ่นวาย ใช้รั้วลวดหนาม ใช้ยางรถยนต์ ใช้น้ำมันราดพื้นใช้กุญแจปิดคล้องประตู ขู่ว่าฆ่ามันฆ่ามัน จะให้ตำรวจทำได้แค่ไหน เพราะไม่มีกฎหมายจัดระเบียบการชุมนุม“จำเป็นต้องเขียนกรอบให้ชัดเจนว่าจะให้ทำอย่างไร และถ้าไม่เขียนกรอบมาให้ ก็จะเอามติของ ป.ป.ช. มาศึกษาแล้วจะทำตามนั้น แล้วอย่าว่าตำรวจเกียร์ว่าง”นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเสียงสะท้อนจากแวดวงราชการ โดยเฉพาะในวงการสีกากี ที่ออกอาการ “ฉุน” กับคำวินิจฉัยนี้เป็นอย่างมากทำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ยื่นฟ้องสำนักงาน ป.ป.ช. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. นายกล้านรงค์จันทิก, นายใจเด็ด พรไชยา, นายประสาท พงศ์ศิวาภัย,นายภักดี โพธิศิริ, นายเมธี ครองแก้ว, นายวิชา มหาคุณ, และนายวิชัย วิวิตเสวี ซึ่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างมาก 8 เสียงขณะเดียวกันนายตำรวจนอกราชการหลายคนก็อดรนทนไม่ไหวต้องออกมานั่งแถลงข่าวตอบโต้ ป.ป.ช.ถึงคำวินิจฉัยดังกล่าว“นายกรัฐมนตรีจงใจกลั่นแกล้งตำรวจ ทำให้การชี้มูลเป็นไปอย่างไม่ยุติธรรม และขอความเห็นจากนายกรัฐมนตรี และป.ป.ช.ว่า การชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ จะให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ดูแลกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไรจะไม่มีความผิด”

พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค ประธานชมรมข้าราชการตำรวจนอกราชการกระแส ป.ป.ช.ภิวัฒน์ ยังไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ เพราะในวงราชการต่าง “ขยาด” คำตัดสินของ ป.ป.ช. จนมีเสียงบ่นจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ต้องดูแลม็อบเสื้อแดงว่า “ทำงานลำบาก” บางคนถึงกลับส่ายหน้าว่าอย่างนี้ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรแล้ว อยู่เฉยๆดีกว่าทำให้เรื่องนี้ รองนายกด้านความมั่นคง “สุเทพ เทือกสุบรรณ”ต้องออกมาเบรกสถานการณ์ไม่ให้บานปลายไปมากกว่านี้ เพราะใกล้วันดีเดย์เข้าไปทุกขณะ“รัฐบาลชุดนี้เราจะสั่งการโดยที่มีกฎหมายรองรับ หากมีความผิดพลาดก็เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาล หรือ ของฝ่ายการเมือง ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่”ขณะที่ตำรวจที่ต้องทำหน้าที่ดูแลความสงบ ตลอดวันที่ 19 ก.ย. ต้องถกเครียดเพื่อรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น“ที่ประชุมได้ซักซ้อมการปฏิบัติและรับทราบปัญหาข้อขัดข้องต่างๆเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจนมีการร้องเรียนป.ป.ช. โดยให้ผู้ปฏิบัติรับฟังคำสั่งการจากผู้บัญชาการเหตุการณ์คือพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เพียงผู้เดียว” พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ด้าน นายวิชัย วิวิตเสวี หนึ่งในคณะกรรมการ ป.ป.ช. ออกมาตอบโต้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า ตำรวจต้องรู้กฎหมาย และต้องเข้าใจว่าอะไรคือความถูกต้องและเหมาะสม นับเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า ตราบเท่าที่ตำรวจปราศจากจิตสำนึกของการเป็นผู้รักษากฎหมายมองไม่เห็นว่าคนไทยทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เฉกเช่นเดียวกับผู้สวมเครื่องแบบสีกากี ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ หรือการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จักต้องเกิดขึ้นตลอดไป และคงจะโทษใครหรือ ป.ป.ช.มิได้“ถ้าหากตำรวจต้องรับโทษของการกระทำผิดครรลองของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพราะวันนี้โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ตำรวจก็เป็นองค์กรที่ต้องถูกตรวจสอบจากภาคประชาชนเช่นกัน”นี้คือยุค ป.ป.ช.ปี 2009 ที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับวงราชการที่ใครเห็นแล้วก็ต้องเสียวสันหลัง แต่ผลจากการชี้มูลยังไม่จบเท่านี้ยังมีให้ติดตามอีกเยอะครับพี่น้อง ■