WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, September 18, 2009

‘มาร์ค’ไม่ถอดสี! ลับ?ลึก? หรือลวง?

ที่มา บางกอกทูเดย์

ซึ่งครั้งแรกเชื่อกันว่า 16 กันยายน วันหวยออกของกองสลาก ก็จะต้องได้ชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่พร้อมกับหวยไปด้วยเช่นกันนั้น แต่เมื่อเกมพลิกผันทำอย่างไร
ในการตรวจเช็คทางลับ คะแนนก็ยังยันกันอยู่ที่ 5 ต่อ 5 จึงทำให้นายกฯ อภิสิทธิ์ไม่กล้าเสี่ยงโหวตนั้นโหวตได้ แต่การชนะแค่เสียงเดียว สุ่มเสี่ยงกับภาพลักษณ์จนเกินไป

น้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ“อีสป” นักเล่านิทานสอนใจได้ให้แง่คิดมาเป็นร้อยปีแล้ว สำหรับอุทธาหรณ์ที่ว่าณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนมาชาวบ้านทุกคนต่างรักใคร่สามัคคีปรองดองกันด้วยดีจนวันหนึ่งมีคนหาบน้ำผึ้งเดินผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ และบังเอิญทำน้ำผึ้งหยดลงพื้นดินหนึ่งหยด มดก็เลยมาตอมมากินน้ำผึ้งกันตามธรรมชาติจิ้งจกเห็นมดเยอะแยะมากมายก็ดีใจวิ่งมากินมดเป็นอาหาร แมวมาเจอจิ้งจกก็รีบกระโดดเข้าตะครุบ สุนัขเห็นแมวก็เข้ามาไล่กัด เจ้าของแมวเห็นสุนัขมากัดแมวของตนเลยเอาไม้ไล่ตี เจ้าของสุนัขได้ยินเสียงร้องก็วิ่งออกมาดูพอรู้ว่าสุนัขของตนถูกเพื่อนบ้านไล่ตี จึงตรงเข้าชกต่อยเจ้าของแมว ญาติของเจ้าของแมวได้ยินเสียงการต่อสู้จึงรีบออกมาช่วย ญาติฝ่ายเจ้าของสุนัขเห็นพรรคพวกของตนถูกทำร้ายก็ออกมาช่วยเช่นกันการต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด จากการใช้มือใช้ไม้กลายเป็นมีด ปืน และอาวุธชนิด ต่าง ๆ จนมีการบาดเจ็บล้มตาย ผู้คนในหมู่บ้านแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือ พวกเข้าข้างเจ้าของสุนัข และพวกที่เข้าข้าง เจ้าของแมว เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำจนเหลือกำลังน้อยกว่า ก็ออกไปชักชวนญาติหรือ เพื่อนๆ ของตนที่อยู่ต่างหมู่บ้านมาช่วยจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองกว่าเจ้าเมืองจะส่ง คนมายุติศึกได้ ผู้คนก็ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะต่างฝ่ายต่างขาดการยับยั้งชั่งใจ และไม่รู้จักการพิจารณาเหตุผลหากเจ้าของสุนัข และเจ้าของแมวเจรจาสอบถามเรื่องราว ให้เป็นที่เข้าใจถึงต้นสายปลายเหตุ ก่อนที่จะหุนหันพลันแล่นทำอะไรไปตามอารมณ์ เหตุการณ์คงจะไม่ลุกลามบานปลายนี่แหละที่มาของคำว่าน้ำผึ้งหยดเดียววันนี้เก้าอี้ ผบ.ตร.เพียงตัวเดียวแท้ๆ กลับทำท่าว่าจะบานปลาย เป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาได้ในสังคมไทย ในยุคที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. ก็มีเพื่อน ซึ่งมีข้อมูลพิเศษ ที่ทำให้นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูลเป็นหัวหน้าพรรค และมีนายเนวิน ชิดชอบ นายใหญ่ผู้ก่อตั้งพรรค เป็นผู้กำกับการแสดงกลุ่มนี้ล้วนให้การสนับสนุน พล.ต.อ.จุมพลพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจ ก็มีเพื่อน ซึ่งก็มีข้อมูลพิเศษด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะมาจากคนละแหล่ง แต่แน่นอนว่า นายกฯอภิสิทธิ์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงผลักดันเต็มที่ ว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการที่จะเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ล้วนแล้วแต่มีพวก มีเพื่อน มีกองเชียร์ ไม่แตกต่างจากนิทานน้ำผึ้งหยดเดียวเลยจริงๆด้วยเหตุนี้เอง เมื่อเป็นตำแหน่งสำคัญ ซึ่งก่อนหน้านี้การเมืองเล่นเกมสารพัดจน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.คนล่าสุดอยู่ไม่ได้ไปแล้ว ทำให้ต้องมีการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ มารักษาราชการแทนผบ.ตร.

แต่ พล.ต.อ.ธานี ก็จะเกษียณอายุราชการ 30 กันยายนนี้แล้วเช่นกัน จึงเป็นความจำเป็นที่จะต้องมีการตั้ง ผบ.ตร.ใหม่ซึ่งครั้งแรกเชื่อกันว่า 16 กันยายน วันหวยออกของกองสลาก ก็จะต้องได้ชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่พร้อมกับหวยไปด้วยเช่นกันนั้น แต่เมื่อเกมพลิกผันทำอย่างไรในการตรวจเช็คทางลับคะแนนก็ยังยันกันอยู่ที่ 5 ต่อ 5 จึงทำให้นายกฯอภิสิทธิ์ ไม่กล้าเสี่ยงโหวตนั้นโหวตได้ แต่การชนะแค่เสียงเดียว สุ่มเสี่ยงกับภาพลักษณ์จนเกินไปเกมยื้อ ซื้อเวลา รอให้มั่นใจว่ากุมเสียงได้ชัวร์กว่านี้ก่อน ค่อยตั้งก็ยังไม่สาย ถึงขนาดที่นายกฯอภิสิทธิ์ เปรยออกมาเองเลยว่า ถ้าสิ้นกันยายนแล้วยังตั้งไม่ได้ และ พล.ต.อ.ธานี เกษียณไปแล้วก็ต้องหาคนอื่นขึ้นมารักษาการ ผบ.ตร.ต่อไป ไม่เห็นยากเย็นอะไรเก้าอี้ ผบ.ต.ร.ไทยยุคนี้ ทำอย่างกับ เด็กเล่นขายหม้อข้าวหม้อแกง พร้อมเมื่อไหร่ก็เรียกเพื่อนมาเล่น หมดสนุกหรือเพื่อนไม่ยอมตามใจ ก็กวาดของทิ้ง อารมณ์ดีเมื่อไหร่ค่อยมาเล่นกันต่อเพราะความไม่มั่นใจว่าถ้าโหวตเสียงจะออกมาอย่างไร และความขัดใจที่เพื่อนยังไม่มีทีท่าว่าจะตามใจหรือทำตามคำขอนี่แหละ ที่ทำให้ต้องเลื่อนการตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ยิ่ง นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกให้เว้นวรรคทางการเมือง แต่กลับไปโผล่อยู่หน้าห้องประชุม แถมยังเอ่ยวลีว่า “ถ้าเลือกไม่ได้ก็ตัวใครตัวมัน”แบบนี้จะไม่ให้ “มาร์ค”คิดมากได้อย่างไร???อาการคิดมากทั้งขณะประชุม และยังคงคุกรุ่นในจิตใจ ทำให้ในยามนี้ สายตาที่นายกฯอภิสิทธิ์ มองไปยังนายชวรัตน์นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากกระแสข่าวที่กระเส็นกระสายมาจากทำเนียบรัฐบาลก็คือ น่าจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่เพื่อเป็นการให้เกียรติกับพรรคร่วมรัฐบาล ก็น่าจะเป็นสูตรที่ว่าให้นายชวรัตน์ ขึ้นไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคงและให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

หากหมากตานี้สำเร็จ การที่จะโหวตเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ก็ไม่น่าที่จะต้องลุ้น 5 ต่อ 5 เสียงอีกต่อไปปัญหาอยู่ที่ว่า จะมีใครกล้าคิด กล้าชง กล้าทำหรือไม่เท่านั้นเอง!!!เพราะวันนี้ ระหว่างคน 2 คน คือ นายกฯอภิสิทธิ์ กับ นายเนวินนั้น ต่างร้องเพลง “หลักไม้เลื้อย” ของจิตติมา เจือใจ ด้วยกันทั้งคู่...เพราะเธอเหมือนหลัก ไม้ตั้งตรงนั่น ไม้เลื้อยอย่างฉันได้พันอาศัย ขาดเธอเหมือนขาด หลักชีวิตไป ก้าวเดินทางใด ขาดความมั่นใจแน่นอนเพราะเธอเหมือนสร้อย พระห้อยคอนั่น คุ้มครองป้องกันภูตภัยหลอกหลอน ขาดเธอหัวอก หวั่นไหวสั่นคลอน แม้ยามจะนอนประสาทยังหลอนตัวเอง...เพียงแต่ไม่รู้ว่า มาร์คเป็นไม้หลัก เนวินเป็นไม้เลื้อย หรือว่า เนวินเป็นไม้หลัก แล้วมาร์คเป็นไม้เลื้อยกันแน่ เพราะดีกรีความเชื่อมั่นของทั้งคู่บนถนนการเมืองเวลานี้ต้องบอกว่าล้นปรี่กันจริงๆในอดีตเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และเพื่อให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มาร์คอาจจะเห็นเนวินเป็นเหมือนพระห้อยคอ เอาไว้กันภูตภัยหลอกหลอน แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจแล้วว่า เวทย์มนตร์เขมรจะยังขลังอยู่หรือไม่เช่นเดียวกันกับเนวิน ที่วันนี้อาจจะพึ่งหาหลวงพ่อมาร์คไม่ได้แล้วเช่นกัน เพราะทวีความเชื่อมั่นจนไปไกลลิบแล้วไม่ชมว่ามาร์คเชื่อมั่นได้อย่างไร ในเมื่อขนาดว่า พล.ต.อ.ธานีเปลี่ยนขั้วโหวตกระหันหัน เพราะได้รับโทรศัพท์ข้อมูลพิเศษเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนซึ่งหากเป็นคนอื่นที่พกความมั่นใจไปประชุม ก.ต.ช. เจอฐานเสียงเปลี่ยน อาจจะออกอาการเหวอไปแล้วแต่เที่ยวนี้นายกฯอภิสิทธิ์ แค่สีหน้าเปลี่ยนคิ้วขมวดวูบเดียวเท่านั้นจริง ก่อนที่จะล้มโต๊ะการประชุมพร้อมรอยยิ้มเยียบเย็นแฝงรังสีอำมหิตทั้งๆ ที่หากเป็นคนอื่น ข้อมูลพิเศษที่เปลี่ยนใจ พล.ต.อ.ธานี อาจจะทำให้เกิดอาการหน้าซีดมือเย็นเท้าเย็นนสั่นสะท้านขึ้นมาได้ง่ายๆ แต่นายกฯไม่เพียงไม่มีสีหน้ายี่หระกับเหตุแปรเปลี่ยน ยังสามารถที่จะยิ้มหัวได้อย่างสบายๆเพราะเชื่อมั่นทั้งในข้อมูลพิเศษของตนเอง และความเป็น ออกซ์ฟอร์ด แฟมิลี่ ที่เป็นภาพลักษณ์ชั้นดีที่หนุนความเป็นนายกรัฐมนตรีและความเป็นผู้นำอยู่ฤา ครั้งนี้ สังคมไทยจะต้องจับตาอย่ากระพริบอาถรรพ์เก้าอี้ ผบ.ตร. เที่ยวนี้ดูเหมือนจะแรงจริงๆ ■

เทพเทือกยันมาร์คมีภาวะผู้นำ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเลื่อนการพิจารณาวาระการตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ออกไปจนทำให้หลายฝ่ายมองว่า นายกรัฐมนตรีขาดภาวะความเป็นผู้นำว่า ส่วนตัวมองว่า นายกรัฐมนตรีตัดสินใจได้ดี เพราะเมื่อเห็นว่า เรื่องดังกล่าวจะทำให้มีคนวิพากษ์วิจารณ์แปลสถานการณ์ไปในทางที่เป็นลบหรือผิด ก็ต้องตัดสินใจเลื่อนออกไป เมื่อรู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ก็ต้องปรับปรุงแก้ไขยุทธวิธีในการปฏิบัติ เพราะ ผบ.ตร.เป็นตำแหน่งที่ต้องดูแลตำรวจเป็นแสนคน จึงต้องพิถีพิถันส่วนที่ถูกมองว่าที่ต้องตัดสินใจเลื่อนออกไปก่อน เพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น ที่นายกรัฐมนตรีคุยให้ฟัง ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นนั้น ทั้งนี้คิดว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีเห็นว่า คนจะแปลเจตนาผิด แปลความหมายของกระบวนการในการคัดเลือก ผบ.ตร.ผิดไป จึงตัดสินใจเลื่อนออกไป ถือว่าถูกต้องแล้ว และคิดว่าการเลื่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ออกไปนั้นไม่กระทบกับการแต่งตั้งโยกย้ายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพราะได้หารือกับ พล.ต.อ.ธานีสมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการ ผบ.ตร. เพื่อเตรียมเดินหน้าต่อไป และยืนยันว่า เรื่องการแต่งตั้ง ผบ.ตร. จะไม่เป็นปัญหากับรัฐบาล ■