ที่มา บางกอกทูเดย์
วันนี้เป็นวันที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเปิดยุทธการย้อนรำลึกถึงวันรัฐประหาร 19 กันยายน 2549หลายคนสงสัยว่าย้อนรำลึกทำไม ในเมื่อเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประเทศชาติจมปลักมาถึง 3 ปีเต็มก็คงรำลึกเพื่อเตือนสติกระมัง แต่ปัญหาคือจะเตือนสติใครได้บ้างเท่านั้นเพราะบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งหลายไล่ลงมาตั้งแต่นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะลงไป นายสุเทพ เทือก สุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยบรรดา ผบ. เหล่าทัพทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทัพบกทัพเรือ ทัพอากาศ รวมไปถึงทัพตำรวจ ต่างก็ตื่นเต้นตึงเครียดไปตามๆ กันเพราะคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช. ที่เล่นงานรัฐบาลชุดก่อนหน้า และลากพาเอาบรรดาเจ้าหน้าที่เจ้าพนักงานเข้าปิ้งไปด้วยทำให้การรับมือการชุมนุมครั้งนี้ หนักใจมากยิ่งขึ้นจะเล่านิทานอีสปสักกี่ครั้งกี่หน ลูกปู ก็ไม่มีวันเดินตรงได้แน่ ตราบใดก็ตามที่แม่ปูยังเดินโฉเก เฉไฉไปเรื่อยๆ แบบนี้ยิ่งบ้านเมืองในสภาพที่เอียงไปเอียงมาแบบ
นี้ราวกับไม่มีเสา หรือเสาแหว่งเช่นขณะนี้ มีหรือที่จะเดินได้ตรงอย่าว่าแต่ 2 เสา 3 เสาเลย เจอบรรยากาศที่เอียงสีข้างไปน้ำขุ่นๆ ในทุกเรื่อง ต่อให้ 4 เสาก็ยังสะเทือนในอดีตนั้น ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์พระประมุข ประเทศไทยจะมี 3เสาหลักที่ค้ำยันและคานกันและกัน ให้เกิดการสมดุลระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการเรียนมาตั้งแต่สุนัขเลียก้นถึง จนวันนี้ถ้ายืนเฉยๆคงเลียไม่ถึง แต่ถ้าเขย่ง หรือกระโจนใส่ก็ยังคงต้องยอมรับว่าเลียถึงแน่ นั่นแปลว่า แม้เวลาจะเปลี่ยนหลักการไม่ควรเปลี่ยนถ้าสุนัขตั้งใจจะเลียไม่แปรเปลี่ยน ก็ย่อมจะต้องเลียถึงได้อย่างแน่นอนแต่ทำไมหลักในตำราเรียนวันนี้ถึงกลายเป็นหลักกูไม่เหลือหลักการมิน่าแม้แต่ในรั้วสถาบันการศึกษาที่เติบโตมาด้วยความภาคภูมิใจในความเป็นลูกแม่โดม วันนี้วิธีคิดยังแบ่งแยกแตกต่างกันไปตามสีเสื้ออย่างน่าเสียดายก็ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงทำอะไรก็ผิดไว้ก่อน ไม่ดีในทุกเรื่องไว้ก่อนแต่กับม็อบพันธมิตรฯ ขนาดยึดทำเนียบ ยังตีความกันได้หน้าตาเฉยว่า ไม่มีเจตนายึดสนามบินสุวรรณภูมิ ก็พูดเข้าข้างตัวเองหน้าตาเฉยว่า เป็นผู้ก่อการดีหลักการแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ บอกได้แค่ว่า“ยากที่จะจบง่ายๆ แน่”ต่อให้วันนี้จะมีการ “ติดหนวด” เป็นแท่งสี่เหลี่ยมเหนือริมฝีปากก็ตาม ■