ที่มา บางกอกทูเดย์
ผลัดกันเขียนเวียนกันคิด
มด คันไฟ
ประเทศจะสงบ ถ้าจบสงครามด้วยการเจรจากันได้ข้อความข้างบน คือ “ความจริง” ที่ทุกคนยอมรับและพูดถึงแต่ไม่มีใครทำให้เกิดสภาวะอย่างนั้น ด้วยความจริงใจประเทศไทยถึงเป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้มีแต่เกมการเมือง เป็นกลเม็ด หรือเป็นยุทธศาสตร์ที่ออกมาต่อสู้กันให้เกิดการแพ้-การชนะกันเพราะความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้อย่างเดียวคือ...ต่างฝ่ายต่างคิด และทำทุกเรื่องที่จะนำไปสู่ความแตกหักนี่ คือ ประเทศไทยปี 2552 ที่ประเทศกำลังจะย่อยยับบนซากปรักหักพังที่หลายฝ่ายกำลังช่วยกันสร้างขึ้นเพื่อสนองตัณหาของตัวเองเพียงอย่างเดียวคือ “ชัยชนะ” บนความพ่ายแพ้ของฝ่ายตรงข้ามตัวแปรที่ยุ่งยาก และยิ่งใหญ่ของประเทศเราวันนี้...คือ ความยุติธรรมของการบังคับใช้กฎหมายและอำนาจทับซ้อนของการเมืองประชาธิปไตยประเทศไทยในช่วงสองสามปีหลัง มีสภาพเป็นอย่างนี้หลังปฏิวัติ 19 กันยายน 2549องค์ประกอบเพียง 2 อย่าง ที่ทำให้เป็นตัวแปรของ ความสงบสันติ และความมั่นคงทางการเมืองของไทยทุกคนรู้ถึงต้นตอของปัญหาดีว่า...ความยุติธรรมของการบังคับใช้กฎหมาย หนึ่งและอำนาจทับซ้อนการเมืองประชาธิปไตยอีกหนึ่งสองอย่างนี้ คือ “ตัวแปร” ของความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นวันข้างหน้ากับประเทศไทยวันนี้และวันหน้า ไม่ว่าเรื่องไหนจะเดินก่อนกันก็ตามล้วนเป็นความวิกฤต....ไม่ใช่โอกาสที่จะพลิกฟื้นสังคมไทยกลับไปที่เก่าได้เพราะเรามีกติกาบ้านเมืองเอาไว้อ้างไม่ใช่มีไว้เพื่อปฏิบัติการตัดสินข้อพิพาททางความคิดจึงต้องใช้กำลังมากกว่าการใช้สมองทั้งหมด คือ จุดแข็งของประเทศไทย และจุดแข็งที่วันนี้จะนำไปสู่ “การแตกหัก”ถ้าสิ่งเหล่านี้ คือ ปณิธาน และความปรารถนาของฝ่าย และกลุ่มที่กำลังแตกแยกอยู่วันนี้ความพินาศย่อยยับกำลังรออยู่ตรงหน้าต้องถามว่า...ทุกคนอยากเห็นอย่างนั้นใช่ไหม?ประเทศไทยวิบัติ!