WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, September 15, 2009

สื่อไทยไม่เคยมีเสรีภาพ

ที่มา Thai E-News

แม้ จอม เพชรประดับ ผู้ดำเนินรายการข่าวการเมืองทางวิทยุและโทรทัศน์หลายรายการ จะแสดงความรับผิดชอบลาออกจากการทำรายการวิทยุคลื่น FM 100.5 ของ อสมทเพียงเพราะสัมภาษณ์อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตรออกอากาศ จนทำให้ผู้บริหาร อสมท เก้าอี้โยก และมีความเป็นไปได้ที่เก้าอี้อาจหักเหมือนผู้บริหารช่อง 11กรมประชาสัมพันธ์ ถ้า จอม เพชรประดับ ไม่แสดงออกดังกล่าวแต่ จอม เพชรประดับ ไม่ใช่สื่อมวลชนคนแรกและคนสุดท้าย ที่ถูกรัฐบาลและเครือข่ายรัฐบาลปัจจุบันเล่นงานเพราะบังอาจสัมภาษณ์ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และบังอาจเสนอข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคฝ่ายค้านและคนเสื้อแดงทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นพยายามที่จะเป็นสื่อมวลชนที่ดีที่จะนำเสนอข่าวทุกด้านอย่างเป็นกลางจักรพันธุ์ ยมจินดา แม้จะเคยเป็นนักการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ยาวๆ ถึง 2 สมัยและเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย เพียงแค่สมัยเดียว เมื่อเขากลับมาทำหน้าที่สื่อมวลชนนั่งอ่านข่าวโทรทัศน์เหมือนกับที่เขา

เคยเป็น ก่อนที่จะไปเล่นการเมืองด้วยความจำเป็นเพราะถูกการเมืองสมัยเหตุการณ์เดือนพฤษภาคมปี 35 เล่นงานเขากลับถูกบีบให้หยุดทำงาน ทั้งที่คนดูข่าวจำนวนมากเห็นตรงกันว่า เขาทำหน้าที่สื่อได้อย่างเป็นกลางอย่างยิ่ง และหลังจากหยุดอ่านข่าว ไม่เคยมีใครเห็นจักรพันธุ์ออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองกับใครอีกเลย นอกจากไปตีกอล์ฟกีฬาที่เขาชอบกับเพื่อนฝูงทุกวงการตวงพร อัศววิไล นักข่าวสาวยอดนักสู้ ผู้มีเลือดพ่ออดีตนายตำรวจเต็มตัว พยายามทำหน้าที่สื่อมวลชนที่เธอรักอย่างเป็นกลาง รายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเสแสร้ง ไม่มีเอียงข้าง ทั้งที่สนิทสนมกับนักการเมืองเกือบทุกคนวันนี้คนดีมีฝีมือคนนี้ทำงานไม่ได้จิรายุ ห่วงทรัพย์ สื่อมวลชนอนาคตไกลผู้รักอาชีพนี้เท่าชีวิต ต้องยอมสละอาชีพมาเดินบนถนนการเมืองที่หาอนาคตไม่ได้วันนี้เพราะถูกกล่าวหาว่าเลือกข้าง เลยต้องเลือกข้างที่เขาคิดว่าเป็นข้างที่ยืนอยู่เคียงข้างประชาชนคนส่วนใหญ่หรือสื่อวันนี้ถ้าจะอยู่รอด ต้องทำหน้าที่อย่าง สรยุทธสุทัศนะจินดา ต้องได้รับปูนบำเหน็จอย่าง สมชาย แสวงการต้องอยู่กับ ASTV หรือไปทำงานกับ People channelสื่อที่ต้องการทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง รายงานข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ตรงไปตรงมา อยู่ไม่ได้แล้วในยุครัฐบาลที่ทหารช่วยตั้งมากับมือ และสื่อในมือทหารก็ช่วยรัฐบาลนี้อย่างออกนอกหน้าแข่งกับสื่อ อสมท และกรมประชาสัมพันธ์ที่จริงสื่อประเภทนี้ถูกคุกคามอย่างนี้มานานแล้วตั้งแต่ประเทศนี้มีสื่อ เพราะเจ้าของสื่อคือรัฐ แม้ ทีวี เสรีอย่างไทยพีบีเอสก็เถอะ ก็ถูกโครงสร้างทางกฎหมายทำให้ได้ผู้บริหารที่อยู่ข้างไหน ใครๆ เขารู้กันทั้งนั้นไม่มีสื่อไหนอยู่ข้างประชาชนหรอก นอกจากคนที่ถูกให้หยุดทำหน้าที่หลายคนข้างต้น เสรีภาพของสื่อจึงไม่มี ไม่มีมานานแล้วด้วย เพราะตราบใดที่โครงสร้างอำนาจยังถูกอมาตย์ควบคุมอยู่สื่อไทยไม่มีทางได้เสรีภาพ เชื่อเถอะ