ที่มา ประชาไท ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ หรือ "กรุงเทพโพลล์" เผยผลสำรวจคน กทม. พบคิดว่าตนมีคยวามเสี่ยงในการดำเนินชีวิตระดับปานกลาง โดยเป็นความเสี่ยงด้านการเมืองมากที่สุด รองลงมาคือความเสี่ยงด้านสุขภาพร่างกาย และด้านค่าครองชีพและหนี้สิน นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62.5 ยังเสนอให้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่ร้อยละ 37.5 เห็นว่าไม่ควรยกเลิก วานนี้ (6 ก.ค.) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,146 คน พบว่า คนกรุงเทพฯ เห็นว่าตนเองมีความเสี่ยงในการดำเนินชีวิตในระดับปานกลาง (เฉลี่ยรวม 5.94 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน) โดยความเสี่ยงด้านการเมืองมีคะแนนสูงที่สุดคือ 7.59 คะแนน รองลงมาคือความเสี่ยงด้านสุขภาพร่างกาย (6.61 คะแนน) และความเสี่ยงด้านค่าครองชีพและหนี้สิน (6.41 คะแนน) ตามลำดับ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา (3 เดือนที่แล้ว) พบว่าความเสี่ยงของคนกรุงเทพฯ มีคะแนนเพิ่มขึ้น 0.52 คะแนน หรือคิดเป็นร้อยละ 9.6 จากฐานเดิม และเมื่อพิจารณาในรายตัวชี้วัดทั้ง 10 ตัว พบว่า ความเสี่ยงด้านการสูญเสียวัฒนธรรมประเพณี และสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ มีคะแนนความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 1.11 คะแนน สำหรับสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ต้องการให้ปรับปรุงแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินชีวิต ซึ่งกรุงเทพโพลทำเป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ พบว่าอันดับแรก ร้อยละ 22.3 ต้องการให้เร่งสร้างความปรองดองและความสามัคคีในชาติโดยให้ทุกฝ่ายหยุดใช้สื่อในการสร้างความแตกแยก รองลงมาร้อยละ 20.3 ต้องการให้แก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาค่าครองชีพ และความเป็นอยู่ของประชาชน และร้อยละ 17.2 ต้องการให้แก้ปัญหารถติด ปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะให้สะดวก ปลอดภัย และทันสมัย ให้แก้ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด โจรผู้ร้าย ร้อยละ 11.7 ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 11.0 ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ มีความมั่นคงทางการเมือง ร้อยละ 4.2 และอื่นๆ เช่น สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม/ฟื้นฟู/ปรับภูมิทัศน์ของกรุงเทพฯ และยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ฯลฯ ร้อยละ 13.3 ส่วนความเห็นต่อการยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 62.5 เห็นว่าควรยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ในเขตกรุงเทพมหานคร ขณะที่ร้อยละ 37.5 เห็นว่าไม่ควรยกเลิก