ที่มา โลกวันนี้ “นพดล” ระบุมีหลักฐานรัฐบาลใช้ภาษีประชาชนว่าจ้างบริษัทบริษัทล็อบบี้ยิสต์ทำงานในต่างประเทศเตรียมนำมาเปิดเผยเร็วๆนี้ ยืนยันการว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ของ “ทักษิณ” ไม่มีเป้าหมายเพื่อให้ร้ายประเทศ อัดรัฐบาลพูดความจริงไม่หมดกรณีสภาสหรัฐมีมติสนับสนุนแผนปรองดอง “พร้อมพงศ์” ผสมโรงจวกนายกฯตัดทอนข้อมูลหลอกประชาชน แสดงให้เห็นถึงการขาดภาวะผู้นำ ชี้มติสภาสหรัฐหนุนเป้าหมายสร้างความสมานฉันท์ไม่ได้แปลว่าหนุนแนวทางที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ “อภิสิทธิ์” ยันต่างชาติเข้าใจสถานการณ์และสนับสนุนโรคแม็พ 5 ข้อเป็นอย่างดี จี้กระทรวงต่างประเทศชี้แจงให้เข้มข้นขึ้น ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีที่รัฐบาลระบุว่าการเดินทางชี้แจงสถานการณ์ของไทยและการเสนอการเจรจาสันติภาพในไทยหรือพีซ ทอล์ค ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ประสบผลสำเร็จว่า การชี้แจงถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้ง ส.ว. และหน่วยงานที่เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ ไม่ใช่พบเฉพาะเจ้าหน้าที่เสมียนอย่างที่รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์พยายามดิสเครดิต แต่ที่ไม่เอ่ยชื่อบุคคลที่พบเพราะเกรงว่ารัฐบาลจะตอบโต้กลับในทางที่รุนแรง “นพดล” ระบุยุโรปจี้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายนภดลกล่าวว่า ก่อนกลับมาประเทศไทยได้เดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เพื่อพบกับสมาชิกสภายุโรปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งให้การตอบรับการชี้แจงและเข้าใจปัญหาในประเทศไทยเป็นอย่างดี จึงมีข้อเสนอผ่านนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่าต้องการเห็นประเทศไทยยกเลิกใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และให้คืนเสรีภาพของสื่อ เพราะเขาเห็นว่าการสลายการชุมนุมของไทยนั้นรุนแรงเกินไป ซึ่งทั้งสหรัฐและยุโรปต้องการให้ประเทศไทยจัดเจรจา 2 ฝ่ายเพื่อให้เกิดความความปรองดอง โดยไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น การเดินทางครั้งนี้จึงไม่สูญเปล่า อัดรัฐบาลบิดเบือนมติสภาสหรัฐ ส่วนกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติ 411 ต่อ 1 เสียง สนับสนุนรัฐบาลดำเนินการตามแผนปรองดองแห่งชาติ เรียกร้องให้วิกฤตการเมืองของไทยได้รับการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีและผ่านทางกระบวนการประชาธิปไตยนั้น นายนพดลกล่าวว่า หากพิจารณารายละเอียดจะเห็นว่าสภาผู้แทนสหรัฐเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาเมื่อวันที่ 4 พ.ค. หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศโรดแม็พ 5 ข้อเมื่อวันที่ 3 พ.ค. จึงเข้าใจว่ารัฐบาลไทยจะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย. 2553 ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ จึงมีมติเห็นชอบการสนับสนุน เรื่องนี้รัฐบาลยังไม่เล่าให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าสหรัฐเขาสนับสนุนเป้าหมายโรดแม็พเพื่อนำแผนปรองดองไปปฏิบัติให้เกิดผลก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ยกตัวอย่างเช่น ให้รัฐบาลให้หลักประกันว่าสื่อจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเสรี รัฐบาลแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม และสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นต้น ไม่ใช่สนับสนุนเฉพาะแค่โรดแม็พที่ประกาศออกมาเท่านั้น รัฐบาลจึงควรชี้แจงในประเด็นนี้ด้วย ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่าสาเหตุที่ตนเดินทางไปต่างประเทศก็เพื่อคัดค้านมติดังกล่าวนั้น ขอยืนยันว่าฝ่ายค้านและ พ.ต.ท.ทักษิณเห็นด้วยกับมติที่สหรัฐสนับสนุนประเทศไทย เพราะเขาไม่ได้สนับสนุนเฉพาะรัฐบาลหรือประเทศไทย แต่สนับสนุนให้เกิดการปรองดอง จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องไปคัดค้าน ยัน “ทักษิณ” ไม่ทำร้ายประเทศ ส่วนที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ถึง 3 บริษัทเพื่อทำร้ายประเทศไทยนั้น นายนภดลยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีวันทำอะไรให้ร้ายแก่ประเทศ หลักเกณฑ์การว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ต้องยื่นให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐรับทราบ ซึ่งเขาจะรู้ทันทีว่าใครเป็นคนว่าจ้าง และจ้างเพื่ออะไร ค่าจ้างเท่าไร ดังนั้น รัฐบาลไม่ต้องกังวล เตรียมแฉรัฐบาลจ้างล็อบบี้ยิสต์ “ผมต้องถามกลับว่ารัฐบาลนี้ได้ว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์โดยนำเงินภาษีของประชาชนไปว่าจ้างให้ทำอะไรบ้าง ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลและจะเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบเร็วๆนี้ ซึ่งการว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ไม่ใช้เรื่องที่เสียหาย หรือน่ารังเกียจ หรือผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลมีสิทธิทำได้หากทำประโยชน์ให้ประเทศ แต่การนำข้อมูลมาบิดเบือนต่างหากที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น หากรัฐบาลอยากรู้ว่าเราพูดอะไรบ้างก็ให้ไปสืบเอาเอง” นายนภดลกล่าว อัดปิดบังรายละเอียดมติสภาสหรัฐ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า เรื่องเกี่ยวกับมติสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนายกรัฐมนตรีพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว การที่สภาผู้แทนสหรัฐสนับสนุนแผนปรองดองเพราะมองว่ารัฐบาลและประชาชนในไทยขัดแย้งกัน จึงมีมติให้ประเทศไทยที่เป็นมิตรกับสหรัฐได้อยู่กันอย่างสันติ ด้วยเหตุผลดังกล่าวสหรัฐจึงมีมติยืนยันสนับสนุนเป้าหมายของแผนปรองดอง แต่รัฐบาลกลับบอกว่าสหรัฐเห็นด้วยกับแผนปรองดองทั้งที่มติของสภาสหรัฐมีรายละเอียดมากมาย แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินปิดเว็บไซต์ไม่ให้ประชาชนรับรู้รายละเอียดของมติ แล้วยังมีหน้าที่ออกมาพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว ซึ่งเป็นการสะท้อนสภาวะการขาดวุฒิภาวะความเป็นผู้นำ จึงเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ทบทวนความเป็นผู้นำของตัวเองเสียใหม่ อย่าตัดทอนข้อมูล จะต้องให้ข้อมูลกับประชาชนครบทุกด้าน เปิดรายละเอียดมติสภาสหรัฐ 5 ข้อ สำหรับรายละเอียดในมติสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาเลขที่ 1321 คือ 1.ยืนยันการสนับสนุนโดยประชาชนและรัฐบาลของสหรัฐที่มีต่อการเป็นพันธมิตรที่สำคัญและเข้มแข็งของประเทศไทย 2.เรียกร้องให้มีการนำสันติภาพและความมั่นคงกลับสู่ประเทศไทย 3.เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยยุติการใช้ความรุนแรง และขอให้มีการยุติความเห็นที่แตกต่างผ่านการเจรจา 4.สนับสนุนแผนการโรดแม็พ 5 ประเด็นของรัฐบาลไทยเพื่อการสมานฉันท์ ซึ่งต้องดำเนินการดังต่อไปนี้คือ ยึดมั่นและรักษาไว้ซึ่งสถาบันการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก้ปัญหาพื้นฐานของความไม่เป็นธรรมในสังคมอย่างเป็นระบบ และด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม ให้หลักประกันว่าสื่อมวลชนจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีเสรีภาพและสร้างสรรค์ ดำเนินการสืบสวนหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นโดยจัดให้มีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่มีความเป็นอิสระ และดำเนินการกำหนดกฎเกณฑ์ทางการเมืองที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย 5.ส่งเสริมให้มีการนำข้อตกลงเพื่อการสร้างความสมานฉันท์ในประเทศมาใช้โดยเร็ว เพื่อที่จะได้มีการเลือกตั้งทั่วไปอย่างเสรีและเป็นธรรม นายกฯยันต่างชาติเข้าใจไทยดี ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์” กล่าวระหว่างร่วมกิจกรรม “6 วัน 63 ล้านความคิด เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย” ที่ทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่า การทำความเข้าใจกับต่างประเทศรัฐบาลดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และต่างประเทศมีความเข้าใจดี จะเห็นได้จากรัฐสภาสหรัฐลงมติสนับสนุนแผนปรองดองของรัฐบาล และพยายามให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อให้บ้านเมืองของเราเดินหน้า มีความสงบ ไม่หวนกลับไปสู่ภาวะที่มีความรุนแรง อัดมีคนเคลื่อนไหวทำลายประเทศ “แม้ขณะนี้จะมีการดำเนินการในต่างประเทศของบางฝ่ายที่อาจเป็นลักษณะทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ แต่ต่างประเทศเข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทยดี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ จะใช้ความจริงสร้างความเข้าใจที่ดี ส่งเสริมให้มิตรประเทศต่างๆสนับสนุนการดำเนินการของไทยในการเดินหน้าสู่ความปรองดองและความสงบที่ยั่งยืนบนหลักการของประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมของประชาชน” นายกรัฐมนตรีกล่าว จี้กระทรวงต่างประเทศชี้แจงเข้มข้น นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวในต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอย่างต่อเนื่องและมีหลักฐานชัดเจน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะไม่ต้องการให้มีการสร้างความเข้าใจผิด ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ การชี้แจงทำความเข้าใจกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมีการล็อบบี้และใช้จ่ายเงินจำนวนมากกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องดำเนินการเข้มข้นขึ้น แต่ยังมองว่าความเข้าใจโดยรวมของต่างประเทศในระดับรัฐบาลค่อนข้างดี ยืนยันได้จากมติของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่ยอมรับแผนปรองดองของรัฐบาล เชื่อสุดท้าย “ทักษิณ” ไม่มีที่ยืน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์เพราะว่าไม่สามารถเข้าไปเคลื่อนไหวในประเทศชั้นนำทั้งสหรัฐและในยุโรปได้ และเชื่อว่าต่อไป พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่สามารถไปไหนได้นอกจากประเทศไทย โดยต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ฟุ้งยุโรปสนับสนุนแนวทางรัฐบาล สำหรับการเคลื่อนไหวผ่านนายนพดลที่ไปพูดสถานการณ์การเมืองไทยที่สหรัฐ ยุโรป ร่วมถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ไปพูดที่ประเทศเยอรมนีเรื่องประชาธิปไตยในไทย นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า ไม่มีผลอะไรเพราะล่าสุดนายฮัน วาน บูเรน ประธานสหพันธ์เสรีประชาธิปไตยนานาชาติของสหพันธ์ยุโรป ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลที่พิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยและการปกครองในระบบนิติธรรม แต่รัฐบาลจะพยายามชี้แจงให้นานาชาติเข้าใจโดยจะไม่มีการจ้างล็อบบี้ยิสต์ตอบโต้เรื่องจากปก จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ ปีที่ 11 ฉบับที่ 2833 ประจำวัน จันทร์ ที่ 5 กรกฏาคม 2010 โดย -