WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, July 6, 2010

ลากกันลงนรก

ที่มา โลกวันนี้


บทบรรณาธิการ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2833 ประจำวัน จันทร์ ที่ 5 กรกฏาคม 2010
โดย หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน


ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้สำรวจความเห็นเรื่อง “ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อศักยภาพประเทศไทยในปัจจุบันและอนาคตอีก 6 เดือนข้างหน้า” จากประชาชนในทุกภาค เพื่อสำรวจว่าหลังสถานการณ์ใช้ความรุนแรงกับการชุมนุมประท้วงและรัฐบาลได้ประกาศแผนปรองดองแห่งชาติเพื่อดึงทุกภาคส่วนในสังคมปฏิรูปประเทศไทยนั้น จะทำให้บ้านเมืองคืนสู่ความปรกติสุขโดยเร็วได้หรือไม่นั้น

ปรากฏว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศเฉลี่ยเพียง 3.57 คะแนน จาก 10 คะแนน โดยความเชื่อมั่นด้านการเมืองน้อย 3.20 คะแนน มีความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันต่ำที่สุดคือ 2.17 คะแนน ส่วนความเชื่อมั่นต่อการปฏิรูปการเมืองและพัฒนาระบอบประชาธิปไตย 3.16 คะแนน ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้านั้น ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังมีเห็นเหมือนเดิม เพราะเห็นว่าอุปสรรคสำคัญยังอยู่ที่ความแตกแยกและไร้น้ำใจ การทุจริตคอร์รัปชันและนักการเมืองที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีจริยธรรม และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

ผลสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับผลสำรวจก่อนหน้านี้ที่ประเมินผลงาน 1 ปี 6 เดือนของรัฐบาล โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทุกภาคทั่วประเทศเช่นกัน ซึ่งประชาชนมีความพึงพอใจการทำงานของรัฐบาลเพียง 3.79 คะแนน จาก 10 คะแนน คือรัฐบาลสอบตกทุกด้าน แม้แต่การบริหารงานของนายกรัฐมนตรีก็ลดลง

แม้นายกรัฐมนตรีจะใช้วาทศิลป์ไม่ยอมรับผลสำรวจว่าเป็นเรื่องปรกติของกรุงเทพโพลล์ที่จะให้คะแนนรัฐบาลในแง่ลบ แต่ผลสำรวจที่รัฐบาลสอบตกแบบยกชั้นและประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของรัฐบาลนั้นคงไม่ใช่เรื่องปรกติ แต่กลับเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องสังวรและสำรวจตัวเองอย่างยิ่ง ไม่ใช่ตีฝีปากเหมือนนักโต้เวที โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่รัฐบาลเองก็อ้างความจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การออกข่าวว่ายังมีผู้ก่อการร้ายและก่อวินาศกรรม รวมถึงการลอบสังหารผู้นำทางการเมืองและองค์กรอิสระ ซึ่งรัฐบาลและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนเลย นอกจากการกล่าวหาเพื่อใช้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจัดการกับฝ่ายตรงข้าม

ขณะที่ข่าวการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาลก็มีออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นความเด็ดขาดหรือความกล้าที่แก้ปัญหาได้เลย แต่ยังคงแก้ปัญหาด้วยคำพูดเหมือนทุกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยทำได้เลยก็ตาม แม้แต่นโยบายประชานิยมที่ไม่ต่างอะไรกับการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า และให้ประชาชนหลงเชื่อนโยบายที่เป็นความฝันลมๆแล้งๆ โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการปฏิรูปต่างๆที่มีแต่คนหน้าเดิมๆและแนวความคิดเดิมๆมาปฏิรูปประเทศไทย นอกจากไม่มีวันที่จะแก้ปัญหามากมายที่หมักหมมอยู่ได้แล้ว ยังเหมือนการลากเอาคนทั้งประเทศกลับไปลงนรกอีกด้วย