ที่มา ไทยรัฐ ใกล้วันที่จะมีการสรรหาผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ แทน คุณธาริษา วัฒนเกส ที่จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ก็มีข่าวไม่ค่อยจะชอบมาพากลเยอะแยะ ตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาตินั้นมีความสำคัญมาก แม้แต่ รมว.คลังก็ไม่สามารถที่จะไปก้าวก่ายสั่งการได้ เพราะถ้าประเทศไหนที่ผู้ว่าการแบงก์ชาติอยู่ในอาณัติของ รมว.คลังแล้ว ความน่าเชื่อถือก็จะหมดไปทันที การกำหนดนโยบายทางการเงินการคลังก็จะอยู่ในกำมือของรัฐบาลและนักการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ผู้สมัครผู้ว่าการ ธปท.มีจำนวน 4 รายด้วยกันคือ คุณบัญฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธปท. คุณประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และประธานสมาคมธนาคาร คุณธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาฯ กลต. และคุณพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.กระทรวงการคลังสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์
ดูจากความรู้ความสามารถของแต่ละคนแล้วถือว่าไม่ขี้เหร่ คุณสมบัติถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ก็อยู่ที่กฎเกณฑ์ของแบงก์ชาติที่ตั้งไว้ ถ้าตรงตามนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจะมาดูความชอบธรรมแล้ว มีผู้สมัครหลายคนที่ ทะแม่ง ไม่อยากจะใช้คำว่ามีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ไม่อยากจะใช้คำว่ามีใบสั่งมาจากไหน แต่จะต้องดูที่ความน่าเชื่อถือและผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
จะมีความสัมพันธ์กับนักการเมือง พรรคการเมืองอย่างไรก็ว่ากันไป สังคมแบบไทยๆ คงจะไปห้ามให้ใครรู้จักใครไม่ได้ แต่ก็ต้องไม่ใช้ความสัมพันธ์อันล้ำลึกมาแสวงหาประโยชน์
ได้แต่ฝากคณะกรรมการสรรหา ฝากอนาคตความน่าเชื่อถือทางการเงินการคลังของประเทศเอาไว้ด้วย คนที่เหมาะสมที่จะมาเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนต่อไป จะต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นคนที่แข็งพอสมควร ไม่ใช่อยู่ใต้คำสั่งของนักการเมืองหรือบุคคลภายนอก รัฐบาลชุดนี้จะแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชการสำคัญแต่ละครั้งรู้สึกหนาวๆร้อนๆชอบกล
วันนี้ต้องจับตามีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเงินๆทองๆงบประมาณจะเรียกว่า ทิ้งทวน หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะคำว่าทุจริตคอรัปชันนั่นคงเป็นเรื่องชิวๆสำหรับรัฐบาลชุดนี้ไปซะแล้ว
พฤติกรรมพูดผิดก็พูดใหม่ แก้ตัวไปข้างๆคูๆดูจะเป็นเรื่องธรรมดา กระทรวงพาณิชย์ ที่อดีตข้าราชการยังทนดูความสำลักของนักการเมืองไม่ได้ ออกมาตั้งชมรมรวมตัวกันต่อต้าน มีจดหมายให้ข้อมูลเรื่องของการทุจริตเข้ามาเยอะ อย่าง การประปาส่วนภูมิภาค ประกวดราคาวางท่อน้ำดิบกันอย่างไร ผิดขนาด ผิดสเปกวุ่นวายไปหมด ถ้าขืนอนุมัติไประวังติดคุกหัวโต
วันนี้รัฐบาลชุดนี้นอกจากจะ ขาดประสิทธิภาพ ในการบริหารงานแล้ว ยัง ขาดจิตสำนึก ในการบริหารประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ดึงลงก้นเหว ลึกลงไปทุกที.