ที่มา Thai E-News
ที่มา ประชาไทหมายเหตุไทยอีนิวส์ :เมื่อเย็นวันที่ 7 กรกฎาคม จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเวบไซต์ประชาไทได้เขียนแจ้งในหัวข้อ ใต้เท้าขอรับ : 'เว็บบอร์ด'...แล้ววันนี้ก็มาถึง ว่าจะ ปิดเวบบอร์ดประชาไทซึ่งเป็นกระดานสนทนาทางการเมืองของกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกไซเบอร์เวลานี้ ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ โดยให้เหตุผลความจำเป็นดังต่อไปนี้
จดหมายฉบับนี้ควรจะส่งถึงผู้อ่านประชาไทและเพื่อนสมาชิกเว็บบอร์ดประชาไทหนึ่งเดือนมาแล้ว
แต่ทว่า..ดิฉันเองก็ตกอยู่ในอาการอ้ำอึ้งพูดไม่ออก ไม่รู้จะบอกอะไรได้มากไปกว่า
“ขอโทษ”
เว็บบอร์ดในประชาไทเกิดขึ้นมาพร้อม ๆ กับเว็บไซต์ประชาไท เริ่มจากการเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ในการที่จะให้ผู้อ่านประชาไทได้แลกเปลี่ยน ถกเถียงกันอย่างอิสระ
จากกระดานสนทนาเล็ก ๆ ใช้เวลาแรมปีที่เริ่มมีขาประจำ ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีเหลืองมีแดง ทว่าเป็นชุมชนมีทั้งคนที่ชอบ/ไม่ชอบทักษิณ, ชอบพันธมิตร แต่ไม่ชอบข้อเรียกร้องเรื่องมาตรา 7 ซึ่งพื้นที่นี้ก็คุยกันได้เสมอมาดิฉันเองในฐานะผู้ดูแลพื้นที่ ก็พยายามที่จะเข้าไปชี้แจง, แลกเปลี่ยนในเรื่องราวที่เป็นจุดยืนต่อการเปิดกว้างให้ทุกเสียง ทุกฝ่าย ได้มีพื้นที่แสดงออก มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐเป็นกำนัลเสมอมา
รัฐประหาร 19 กันยายน 2549...
ในห้วงเวลาที่พื้นที่การสื่อสารเพื่อแสดงออกถึงการต้านรัฐประหารและการยืนยันในความนิยมชื่นชมอดีตนายกฯทักษิณ ดูจะคับแคบและไร้ที่ทาง เว็บบอร์ดประชาไทซึ่งอหังการ์ประกาศตนเองว่าเชื่อในสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกความคิดเห็นจึงเติบโตขยายตัวเป็นชุมชนที่กว้างขวางขึ้นจนในที่สุดทีมงานประชาไทตัดสินใจว่าชุมชนแห่งนี้เติบโตเกินกว่าที่จะเป็นเพียงพื้นที่หนึ่งของเว็บไซต์ประชาไท
ประชาไทเว็บบอร์ด [ http://www.prachataiwebboard.com ] จึงเกิดขึ้น มีสถานะเป็นอิสระมีหน้าตา, ที่ทาง, ท่าทีเฉพาะของตนเองตามแต่ที่เพื่อนสมาชิกในเว็บบอร์ดจะสร้างสรรค์ให้เป็นอารมณ์ขัน, ขื่น, ข้น, เข้าใจ และกวนประสาทอย่างเหลือร้ายของนักโพสต์ในประชาไทอย่างที่ไม่มีบรรณาธิการคนใดจะมาบรรณาธิกรณ์
คงไม่เป็นการกล่าวเกินเลยไปถ้าจะบอกว่าประชาไทเว็บบอร์ดผ่านห้วงร้อนฉ่าในวิกฤติการเมืองและทำหน้าที่เป็นความฉ่ำชื่นใจในยามที่รู้สึกอ่อนแอและแพ้พ่าย..
ในยุคสมัยที่สิทธิและเสรีภาพเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ??? และความน่าตื่นตระหนกตกใจ !!!
คดีความที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากการทำหน้าที่ดูแลเว็บบอร์ดประชาไทยังคงรอการต่อสู้พิสูจน์และตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม
สถานการณ์การจับกุมผู้โพสต์แสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นข่าว และไม่เป็นข่าว
เหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงภัยคุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สิน สิทธิและเสรีภาพของประชาชน ทั้งสำหรับผู้ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเปิดพื้นที่สื่อสาร หรือผู้ที่ได้แสดงออกถึงความรู้สึก ความคิดเห็น และข้อมูล ที่ยังมีกรอบอันกว้างขวางและพร่าเลือนของข้อกล่าวหา “เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ” ที่สามารถจับกุมคุมขังผู้เห็นต่าง ผ่านเครื่องมือ พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน และ มาตรา 112 ในประมวลกฎหมายอาญา
ด้วยขีดจำกัดในการที่ปกป้องคุ้มครองตัวเองของประชาไท ที่สำคัญการไม่สามารถที่จะมีหลักประกันความปลอดภัยให้แก่ผู้ที่เข้าแสดงความคิดเห็นผ่านพื้นที่เว็บบอร์ดประชาไท การสอดส่อง แกะรอยเพื่อติดตามหาตัวผู้โพสต์เหมือนจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากเย็นนัก และโดยไม่จำเป็นต้องมาขอความร่วมมือ/ขอข้อมูลจากประชาไทเลยด้วยซ้ำ
สถานการณ์อันล่อแหลม เปราะบาง และดิ่งเหวของสิทธิเสรีภาพในสังคมไทย จึงกลายเป็นความจริงที่ทีมงานประชาไทต้องยอมรับด้วยความรวดร้าวใจ และตัดสินใจปิดเว็บบอร์ดประชาไทลง โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป
ในช่วงเวลาที่ยังพอมีให้เราได้สื่อสารกัน..
คาดว่ายังพอมีเวลาสำหรับการบันทึกเนื้อหาในกระทู้ที่น่าสนใจสำหรับแต่ละท่าน
การสื่อสารข้อความระหว่างเพื่อนสมาชิก..สำหรับคนที่ยังผูกพันและอยากติดต่อสื่อสารกันต่อไป
น่าจะยังพอมีเวลาให้แลกเปลี่ยนกันผ่านกล่องข้อความ
และหากไม่โกรธเคืองกันเกินไป ยังอยากพูดคุย สอบถาม ติดต่อสื่อสารกัน อีเมล chiranuch@prachatai.com ยังเปิดรับทุกความคิดเห็นค่ะ
นับถือ