WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, January 10, 2011

เตือนสติ'มาร์ค' ให้ทำตามเด็ก!

ที่มา บางกอกทูเดย์




คำขวัญวันเด็ก... รอบคอบ รู้คิด
วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 54 เป็นวันเด็กแห่งชาติ

เป็นวันที่เด็กๆไทยควรได้มีตัวอย่างที่ดี จะได้ใช้เป็นแบบอย่างใช้เป็นแนวทางในอนาคต การนำพาประเทศชาติให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

แต่เหลียวมองบรรดาผู้บริหารประเทศในเวลานี้แล้ว จำเป็นต้องบอกว่า “ว้าเหว่”

เพราะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งบริหารประเทศอยู่ในเวลานี้ เป็นรัฐบาลที่ภาวะผู้นำบกพร่องจริงๆ

ปีนี้สอนเด็กๆ ว่า “รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ”... แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่เคยที่จะรอบคอบ หรือแม้แต่จะรู้คิด ให้เป็นตัวอย่างกับเด็กๆไทยเลยสักนิด

ไม่ต้องย้อนไปถึงการก้าวข้ามาสู่การเป็นนายกรัฐมนตรี การเป็นรัฐบาล หรือการสลายการชุมนุมจนมีคนตายถึง 91 ศพ ซึ่งล้วนแล้วแต่สะท้อนถึงความไม่รู้คิด และไม่รอบคอบมาโดยตลอด

แค่เรื่องการจับกุม 7 คนไทย ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นได้ชัดถึงความไม่รอบคอบและความไม่รู้คิดแล้ว ที่ปล่อยให้เกิดเหตุเช่นนั้น

แถมยังไม่มีจิตสาธารณะเพื่อประเทศชาติด้วย เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ได้หมิ่นเหม่เหลือเกินที่จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสเพลี่ยงพล้ำในเรื่องดินแดนอีกครั้งหนึ่ง!!!

ผู้นำที่มีจิตสาธารณะย่อมควรจะต้องรู้หน้าที่ว่า จะต้องปกป้องแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วเอาไว้ให้ลูกหลานไทย

เพราะแม้ว่า นายอภิสิทธิ์ จะอ้างว่า ผลการตัดสินจะไม่กระทบกับเขตแดน เพราะคำตัดสินผูกพันเฉพาะคู่ความคือตัวบุคคลเท่านั้น คงจะนำไปใช้อ้างเรื่องเส้นเขตแดนไม่ได้

แต่คิดหรือไม่ว่าหากศาลกัมพูชาตัดสินว่าผิดจริง ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ ตรงนั้นจะใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้ในอนาคตได้หรือไม่ว่า พื้นที่ตรงนั้นเป็นของกัมพูชา เพราะคนไทยเคยเข้ามาในพื้นที่ และเคยถูกตัดสินมาแล้วว่า ผิดข้อหาบุกรุกจริง

ตรงนี้คงไม่ต่างจากในอดีตที่ศาลโลก รับฟังหลักฐานในเรื่องการทำหนังสือขอไปเที่ยวเขาพระวิหาร หรือหลักฐานรูปถ่ายที่มีธงชาติกัมพูชาอยู่เหนือเขาพระวิหาร

ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่นายอภิสิทธิ์จะตต้องตระหนักให้เข้มข้นกว่านี้ ไม่ใช่จะพลิกพลิ้วไปเรื่อยอย่างในขณะนี้

และแม้ว่านายอภิสิทธิ์ จะอ้างว่าได้มอบหมายให้นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ไปดูปัญหาของประชาชน แต่บังเอิญเกิดเหตุที่ไม่ควรจะเกิด เรื่องทั้งหมดมาจากการร้องเรียนเข้ามา จึงพยายามทำให้เกิดความเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร

แค่นี้ก็กระทบกับภาพของรัฐบาลมากแล้ว ว่าในเมื่ออนุญาตให้ลงไปในพื้นที่ ทำไมจึงไม่รอบคอบกว่านี้

"การจะบอกว่าความคิดใครถูกหรือผิดจะต้องว่ากันด้วยเหตุผล การตัดสินใจของรัฐบาลทุกอย่างจะต้องมีความรับผิดชอบ ถ้าบอกให้เลิกเอ็มโอยูปี 2543 เลย ผมก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น การเสนอแผนจัดการพื้นที่ทับซ้อนรอบปราสาทพระวิหารก็สบายสิ หรือถ้าบอกให้ถอนตั้งจากคณะกรรมการมรดกโลกเลย แปลว่ามติคณะกรรมการโลกในเดือนมิถุนายนนี้ ที่ประเทศบาห์เรน ก็จะเป็นไปตามที่กัมพูชาต้องการหมด ผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น เพราะกระทบกระเทือนกับประเทศไทย จึงบอกว่าควรจะแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่น เราต้องมาพูดคุยกัน ไม่ใช่ไปบอกว่า ใครไม่เห็นด้วยแปลว่าขายชาติ อย่างนี้ก็พูดจาเข้าใจกันยาก" นี่คือคำพูดของนายอภิสิทธิ์ที่ต้องจดบันทึกเอาไว้

อย่างไรก็ตาม นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย มองว่า การจับกุม 7 คนไทยของทางการกัมพูชา จะเป็นชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่อย่างไม่จบสิ้น จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นภาวะความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหา

สะท้อนให้เห็นว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การบริหารงานของรัฐบาลด้านการต่างประเทศตกต่ำสุดขีด มีความผิดพลาด โดยเฉพาะการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

"รัฐบาลยังนำผลประโยชน์ของประเทศชาติและคนไทยเข้าไปเสี่ยง อย่างเช่นกรณีนายวิคเตอร์ บูท ที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าพบเพื่อหาข้อมูลหวังนำไปใช้ปรักปรำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การดำเนินการในครั้งนี้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและรัสเซียเป็นอย่างมาก เพราะประเทศรัสเซียเห็นว่ามีการแทรกแซงกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศเสื่อมโทรมจนยากที่จะแก้ไขได้" นายต่อพงษ์ระบุชัดเจน

นี่เป็นความรู้สึกและเสียงสะท้อนที่นายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องฟัง และทบทวนด่วน เพราะนี่คือปัญหาระหว่างประเทศที่หมักหมมและขาดการแก้ไขอย่างจริงจังมาตลอด นับตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และตั้งนายกษิต เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่า นายกษิตเคยพูดจาอะไรไว้บ้าง

สภาพที่บริหารรัฐบาลแบบไม่รอบคอบ และไม่รู้คิดของนายอภิสิทธิ์ จึงไม่แปลกที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล (คตร.) จะออกมาระบุว่า "2 ปี สอบตกรัฐบาลอภิสิทธิ์"

โดย พท. กล่าวว่า การติดตามการทำงานของรัฐบาลตลอด 739 วัน พท.ในฐานะฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้เงินภาษีของประชาชน โดยได้ตั้งคณะทำงานในการตรวจสอบแบบคู่ขนานไปกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยได้แบ่งการตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาลใน 6 มิติ คือ

1.ด้านเศรษฐกิจ 2.ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต 3.ด้านความมั่นคงแห่งรัฐ 4.ด้านการต่างประเทศ 5.ด้านการเมืองและการส่งเสริมประชาธิปไตย 6.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน โดยพรรคได้ประเมินการทำงานของรัฐบาลใน 6 มิติ จากข้อเท็จจริง ในการตรวจสอบพบว่า

รัฐบาลได้คะแนนไปเพียง 2.9 คะแนน จากเต็ม 10 ถือว่าสอบตกทุกด้าน และเกิดภาวะสุ่มเสี่ยงต่อสถานภาพของประเทศและประชาชนคนไทย

นายยงยุทธบอกว่าว่า ปีนี้พรรคเพื่อไทย ได้จัด 10 อันดับปัญหาความเป็นที่สุดที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้

1.ปัญหาเกิดการกู้เงินโดยรัฐบาลและสร้างหนี้สาธารณะของประเทศมากที่สุด
2.ปัญหาการใช้จ่ายเงินของรัฐอย่างสุรุ่ยสุร่ายและฟุ่มเฟือยมากที่สุด
3.ปัญหาจัดการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากและไม่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

4.ปัญหาการทุจริตและการเรียกรับเงินสินบนมากที่สุด
5.ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่ไร้คุณธรรม ไม่ถูกต้องมากที่สุด
6.ปัญหาเกิดความขัดแย้งและแตกแยกในสังคมอย่างกว้างขวางมากที่สุด

7.ปัญหาประชาชนถูกทำร้ายและถูกฆ่าตายจากการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยมากที่สุด
8.ปัญหาเกิดการปฏิบัติแบบสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมมากที่สุด

9.ปัญหาการใช้กลไกและหน่วยงานรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากที่สุด
และ 10.ปัญหาภาพลักษณ์ของประเทศและความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านตกต่ำมากที่สุด

จริงๆแล้วดูเหมือนว่า คำขวัญวันเด็กที่ว่า รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะนั้น น่าจะเหมาะกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่ต้องนำไปปฏิบัติมากที่สุด เพราะ”คำวัญวันเด็ก” ที่ว่านั้น เหมือนจะจงใจหรือตั้งใจที่ให้ นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สติ!! และปฏิบัติตามนั้น เหมือนที่คิดสอนเด็กๆ