ที่มา ข่าวสด
แท็กซี่-วิทยุชุมชน เสนอนโยบายพท.
บ.ก.ลายจุด 'สมบัติ บุญงามอนงค์' จัดเทศกาลอาหารไพร่ นำคนเสื้อแดงบุกซอยทองหล่อ ยืนกินก๋วยเตี๋ยวไก่กลางสายฝน จวก 'กรณ์' เข้าใจผิดคำว่าอำมาตย์หมายถึงคนมีฐานะ แต่เป็นแค่เรื่องความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ซึ่ง มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ส่วนร้านอาหารที่บอกว่าไพร่มากินก็เข้าใจผิด เพราะทุกที่ก็มีทั้งคนจนและคนฐานะดี บ่นเสียดายร้านต้นเหตุเปิดตอนเย็น เลยต้องชวนคนเสื้อ แดงไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่แทน เผย 15 พ.ค. จัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เชียง ใหม่ และ 19 พ.ค.จัดกิจกรรมรำลึก 1 ปี ที่ราชประสงค์ ขณะที่พรรคเพื่อไทยเปิดให้เครือข่ายคนไทยรักชาติเสนอนโยบายขับเคลื่อน พร้อมให้แท็กซี่จับตาอาจมีการล้มเลือกตั้ง
อาหารไพร่ - นายสมบัติ บุญงามอนงค์ จัดกิจกรรมเทศกาลอาหารไพร่ในซอยทองหล่อ จุดเกิดวิวาทะระหว่างนาย กรณ์ จาติกวณิช และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อ 14 พ.ค.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เครือข่ายคนไทยรักชาติ นำโดยนายวิโรจน์ พูลสุข ประธานเครือข่าย จัดประชุมการขับเคลื่อนนโยบายแห่งชาติของประชาชน มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย เครือข่ายวิทยุทั่วประเทศ และกลุ่มแท็กซี่สภาการแท็กซี่มหาชนกว่า 500 คน โดยมีนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย มาร่วมแสดงนโยบาย
สำหรับ นโยบายที่เครือข่ายเสนอมี 27 ข้อ มีเนื้อหาสำคัญ อาทิ แรงงานไทยไปเมืองนอกฟรี เพื่อป้องกันความเสี่ยงถูกหลอก การนิรโทษกรรมธุรกิจให้มีโอกาสกลับใจได้สิทธิ์ทำธุรกิจเหมือนเดิม รวมถึง 1 วัด 1 ผลิตผล ที่ชุมชนกับวัดร่วมกันพัฒนาภูมิปัญญา และส่งเสริมสวัสดิการแท็กซี่มหาชน มอเตอร์ไซค์มหาชน รถตู้มหาชน
นาย จารุพงษ์กล่าวในที่ประชุมว่า แม้จะมีการประกาศพ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.นี้ แม้จะผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้ว แต่เราก็ยังไม่ไว้วางใจ เนื่องจากอาจไม่มีการเคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องแท็กซี่หรือวิทยุชุมชน ร่วมกันคิดว่าจะทำอย่างไรหากเกิดการไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ เรามีพันธะที่ต้องดำเนินการร่วมกันคือ 1.ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และ 2.ขอให้แท็กซี่ในฐานะผู้ที่มีการข่าวดีที่สุด ดีกว่ากอ.รมน.อีก ช่วยกันสร้างเครือข่ายแจ้งข่าวไปยังพี่น้องประชาชน หากใครก็ตามคิดจะล้มการเลือกตั้งขอให้แจ้งให้ทราบด้วย ส่วนนโยบายของเครือข่ายทั้ง 27 ข้อ มีแนว ทางสอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย ตนจะนำนโยบายนี้ผลักดันเข้าสู่ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยต่อไป
ด้านนาย โสภณ จริงจิต ผอ.สำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีที่มีการปิดวิทยุชุมชน อยากให้ผู้ที่ปิดอธิบายและชี้แจงให้ชัดเจนว่า การปิดโดยเฉพาะที่อ้างว่ารบกวนวิทยุการบิน ควรเอาเหตุผลทางวิชาการเข้ามาชี้แจงต่อประชาชนด้วย เพราะตรงนี้ยังมีการเคลือบแคลงสงสัยอยู่
วันเดียวกัน เวลา 12.00 น. ที่สถาบันปรีดีพนมยงค์ ซอยทองหล่อ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง จัดกิจกรรมเทศกาลอาหารไพร่ โดยนัดหมายให้สมาชิกเสื้อแดง 200 คนมาร่วมกิจกรรม ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา นายสมบัติกล่าวว่า วันนี้เราชวนคนเสื้อแดงมาเที่ยวซอยทองหล่อ เพื่อจะมาสำรวจว่ามีร้านอาหารที่พวกไพร่อย่างเรามีสิทธิ์จะได้กินหรือไม่ เพราะได้ยินข่าวว่าซอยทองหล่อมีร้านอาหารของกลุ่มคนที่เรียกว่าอำมาตย์มาก และเป็นที่โด่งดัง เรียกว่าเป็นซอยของคนมีฐานะดี บางคนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าคำว่ามีฐานะแปลว่าอำมาตย์ ความจริงแล้วไม่ใช่ คุณกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เข้าใจผิด คำว่าอำมาตย์คือ เป็นเรื่องความสัมพันธ์เชิงอำนาจ เราใช้เรียกกับคนที่มีความใกล้ชิดกับสถาบัน เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่าอำมาตย์ บางคนก็เป็นคนดี บางคนก็มีปัญหา อาศัยความใกล้ชิดในการที่ไปกดขี่คนอื่น หรือแสวงหาประโยชน์และอำนาจ
"ประเด็นวันนี้มาเพราะคุณกรณ์จุดประเด็น นี้ที่ซอยทองหล่อ ผมเคยทำงานที่ซอยทองหล่อ เคยกินข้าวที่นี่ พอคุณกรณ์บอกว่าร้านอาหารนั้นมีไพร่มากิน ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว คุณเข้าใจผิดแล้ว ทุกที่มีทั้งคนจนหรือคนที่มีฐานะ ประชาชนที่เป็นไพร่เขาสามารถไปกินได้ วันนี้ผมจะพาเสื้อแดงไปสำรวจในฐานะอดีตเจ้าถิ่นแถวนี้และจะพาเดินดูว่ามี ร้านอาหารใดบ้างที่ต้อนรับไพร่อย่างพวกเรา รวมทั้งร้านอาหารที่คุณณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ไปกินและทำให้คุณกรณ์พูดอย่างนั้น แต่เปิด 5 โมงเย็น ถ้าเปิดตอนเที่ยงเราจะไปอุดหนุน จริงๆ ต้องการสื่อถึงคุณกรณ์ คำว่าอำมาตย์และไพร่ที่เข้าใจนั้นเข้าใจผิด จริงๆ คุณกรณ์ก็ไพร่เหมือนกัน อย่าสำคัญตัวผิด เราต้องให้เกียรติคน แม้แต่คนจนก็ต้องได้รับเกียรติ สำหรับในวันที่ 15 พ.ค.จะจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่ และในวันที่ 19 พ.ค.จะจัดกิจกรรมรำลึก 1 ปี สลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ จุดเทียนโซ่ มนุษย์ ตั้งแต่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ถึงสวนลุมพินี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายสมบัติ นำกลุ่มสมาชิกเสื้อแดงข้ามถนนไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ ริมถนน ตรงข้ามทองหล่อ ซอย 3 ซึ่งร้านมีโต๊ะไม่เพียงพอ ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องยืนกินก๋วยเตี๋ยวไก่ท่ามกลางสายฝน ทำให้การจราจรติดขัดพอสมควร ทั้งนี้ นายสมบัติยังได้โชว์การทอดไข่เจียว โดยใช้อุปกรณ์ข้าวไข่เจียวเคลื่อนที่ของกลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณด้านหน้าสถาบันปรีดีพนมยงค์ สร้างความครื้นเครง และเสียงหัวเราะเป็นอย่างมาก จากนั้นแยกย้ายกันกลับบ้านในเวลา 14.00 น. โดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ
นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราช ทัณฑ์ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิสิต สินธุไพร แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหา นคร ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีปัญหาในการควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย ซึ่งการดูแลทุกอย่างจะเป็นไปตามระเบียบ อย่างไรก็ตามมีความเป็นห่วงเรื่องความขัดแย้งทางความเชื่อและความคิด เนื่องจากในเรือนจำมีผู้ต้องขังทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดงถูกควบคุม ตัวอยู่จำนวนหนึ่ง ดังนั้นจึงขอเตือนให้ผู้ต้องขังในเรือนจำวางตัวให้เหมาะสม และต้องรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร ในส่วนของเรือนจำจะให้คำแนะนำว่า ต้องระมัดระวังตัวอย่างไร และพยายามจำแนกและจัดแยกผู้ต้องขังให้อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม
"สถานการณ์ ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องสั่งการเจ้าหน้าที่ ให้คอยสังเกต การณ์นายจตุพรหรือนายนิสิตเป็นพิเศษ เนื่องจากยังไม่พบว่าจะมีปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังรายอื่น ทั้งนี้หากผู้ต้องขังมีข้อมูลว่ามีแนวจะเกิดปัญหาก็สามารถแจ้งให้เรือนจำ ทราบเพื่อจัดการแก้ไขปัญหาต่อไป" อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว
ส่วนกรณี ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมออกหมายเรียก เพื่อดำเนินคดีกับแกนนำนปช.ที่เข้าข่ายกระทำผิดในลักษณะหมิ่นสถาบันอีกหลาย คนนั้น นายชาติชายกล่าวว่า เรือนจำมีหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องขังทุกคนตามคำสั่งศาล และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องสถานที่ เนื่องจากภายในเรือนจำมีการบริหารจัดการที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่นายจตุพรจะต้องเดินทางไปรับสมัคร ส.ส.เพื่อลงเลือกตั้งนั้น นายจตุพรต้องขออนุญาตจากศาลเพื่อขอเดินทางออกนอกเรือนจำ เมื่อศาลพิจารณาเห็นควรอย่างไรเรือนจำก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงการดำเนินคดีกับแกนนำนปช. ซึ่งร่วมกันจัดการชุมนุมและปราศรัยหมิ่นสถาบัน ซึ่งเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ มาตรา 112 และ 116 ว่า ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ พนักงานสอบสวนจะประชุมร่วมกันเพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานในคดี ก่อนสรุปความเห็นในการออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้เข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา โดยขณะนี้การสอบสวนพบหลักฐานชัดเจน เกี่ยวกับการกระทำความผิดของบุคคลที่ปราศรัยหมิ่นสถาบัน แต่พนักงานอัยการแนะนำให้สอบปากคำพยานเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับพฤติการณ์การมีส่วนร่วมของบุคคลระดับแกนนำนปช. ว่า ใครบ้างที่อยู่ในข่ายเป็นตัวการร่วมและสนับสนุนการกระทำความผิดของผู้ที่ใช้ ถ้อยคำในการปราศรัยดูหมิ่นสถาบันฯในเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดงวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา
นายธาริตกล่าวต่อว่า ในส่วนของการถอนประกันแกนนำนปช.ที่ได้รับการประกันตัวคดีก่อการร้ายอีก 7 คน นั้น ภายหลังศาลพิจารณายกคำร้องของพนักงานอัยการ โดยสั่งถอนประกันเฉพาะนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิสิต สินธุไพร ในส่วนของดีเอสไอจะไม่ดำเนินการใดๆ กับแกนนำนปช.ทั้ง 7 ราย แต่จะเฝ้าติดตามตรวจสอบพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด หากพบการกระทำผิดเงื่อนไขประกันตัวหรือกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ เพิ่มเติมไปจากความผิดเดิม จึงจะรวบรวมหลักฐานส่งให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษพิจารณาดำเนินการต่อไป