ที่มา Thai E-News
โดย แนวร่วมคนเสื้อแดง
4 ตุลาคม 2554
นับเป็นเวลา 35 ปีของโศกนาฎกรรมทางการเมือง 6 ตุลาคม 2519 ที่พลังขวาจัดอนุรักษ์นิยมได้สังหารปราบปรามประชาชนในเมืองหลวง ผู้มีสองมืออันว่างเปล่า ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ เพื่อความเสมอภาคและประชาธิปไตย การเอาผิดกับ “ฆาตรกร” ผู้ก่อบาดแผลร้าวลึกในสังคมไทย ยังเป็นคำตอบอยู่ในสายลม 6 ตุลา 19 ฆาตรกรลอยยังนวล?
นับจากโศกนาฎกรรมทางการเมือง 6 ตุลาคม 2519 ถึงเมษา-พฤษภาอำมหิต 53 เป็นเวลาห่างกันถึง 34 ปี และคงไม่มีใครในสังคมไทยที่จะคาดคิดว่าประวัติศาสตร์บาดแผลจะย้อนรอยขึ้นอีก คำรบหนึ่ง เมื่อพลังขวาจัดอนุรักษ์นิยมได้สังหารปราบปรามประชาชนในเมืองหลวง ผู้มีสองมืออันว่างเปล่า ต่อสู้เพื่อเสรีภาพ เพื่อความเสมอภาคและประชาธิปไตย การเอาผิดกับ “ฆาตรกร” คนสั่งฆ่า ยังเป็นคำตอบอยู่ในสายลม เมษา-พฤษภาอำมหิต 53 คนสั่งฆ่ายังลอยหน้า ?
ประวัติ ศาสตร์ 6 ตุลา 19 และ เมษา-พฤษภาอำมหิต 53 บอกให้รู้ว่า ชนชั้นปกครอง ขวาจัดอนุรักษ์นิยม พร้อมเสมอที่จะจัดการฝ่ายประชาธิปไตยที่ท้าทายอำนาจของพวกเขา และพวกเขาก็อำมหิตพอที่จัดการฆ่า ล้อมปราบประชาชนผู้รักประชาธิปไตย
ประวัติ ศาสตร์ 6 ตุลา 19 และ เมษา-พฤษภาอำมหิต 53 บอกให้รู้ว่าสื่อสารมวลชนเป็นพลังสำคัญของชนชั้นปกครอง ขวาจัดอนุรักษ์นิยม พร้อมเสมอที่จะปลุกระดม บิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสี ตกแต่งเติมข่าวสารข้อมูล เพื่อสร้างความชอบธรรมในการปราบปรามประชาชน
ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา 19 และ เมษา-พฤษภาอำมหิต 53 บอกให้รู้ว่ากองทัพที่ถูกบ่มเพาะครอบงำทางความคิดแบบอนุรักษ์นิยม พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ได้จากภาษีอากรของประชาชน เป็นเครื่องมือกลไกสำคัญในการปราบปรามประชาชน และพร้อมที่จะกระทำการรัฐประหารอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ประวัติ ศาสตร์ 6 ตุลา 19 และเมษา-พฤษภาอำมหิต 53 บอกให้รู้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังยึดมั่นอุดมการอนุรักษ์นิยม พร้อมร่วมมือกับพลังขวาจัดอยู่ตลอดกาล แม้ว่าพวกเขาจะมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาก็ตาม
ประวัติ ศาสตร์ 6 ตุลา 19 และเมษา-พฤษภาอำมหิต 53 บอกให้รู้ว่าคนชั้นกลางในเมืองหลวงจำนวนไม่น้อยที่ต่อต้านสิทธิเสรีภาพในการ ชุมนุมอย่างสันติวธี ของประชาชน และหลงคิดว่าตนเองฉลาดมากกว่าใครๆ พร้อมดูหมิ่นเหยียดยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่นๆโดยเฉพาะ”ไพร่” นอกเมืองหลวง
ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา 19 และเมษา-พฤษภาอำมหิต 53 บอกให้รู้ว่า “อำนาจนอกระบบ” “มือที่มองไม่เห็น” พร้อมเสมอที่จะบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย เพื่อ”ความเป็นไทย” ของพวกเขา
กระนั้น ก็ตาม การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ เพื่อความเสมอภาคและเพื่อประชาธิปไตย ก่อน โศกนาฎกรรมการเมือง 6 ตุลา 19 ขณะนั้นการเติบโตของฝ่ายประชาธิปไตยยังมีจำนวนปริมาณและคุณภาพ ต่างกับ เมษา-พฤษภาอำมหิต 53 ปัจจุบัน
ขณะนั้น ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่มีเครื่องมือสื่อสารเหมือนโลกสมัยใหม่ปัจจุบัน และขณะนี้ปรากฎการณ์ “ตาสว่าง” อาวุธทางความคิดได้ เติบโตและนับวันขยายไปยังทุกอณูของสังคมมากยิ่งขึ้น และเป็นภาระกิจทางประวัติศาสตร์ของฝ่ายประชาธิปไตยที่ต้องต่อสู้ทางความคิด เพื่อสร้างอำนาจนำทางอุดมการต่อไป
และฝ่ายประชาธิปไตยก็ มิอาจต่อสู้ด้วยความรุนแรงได้เนื่องเพราะเป็นการเปิดช่องให้ศัตรูที่พร้อม อาวุธสร้างเงื่อนไขปราบปรามได้อีก ขณะที่สายธารประชาธิปไตยทัวโลกหนุนเสริมอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน
ประวัติ ศาสตร์ 6 ตุลา 19 และ เมษา-พฤษภาอำมหิต 53 ก็บอกให้รู้ว่า ต้องปฏิรูปกองทัพ ต้องขยายเสรีภาพประชาชน ต้องยกเลิกกฎหมายกำจัดเสรีภาพประชาชน ต้องเปิดเสรีสื่อสารมวลชน ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เพื่อเบียบขับอำนาจนอกระบบ มือที่มองไม่เห็นทั้งปวง
และคนผิดต้องถูกลงโทษ “ฆาตรกรต้องไม่ลอยนวล คนสั่งฆ่าต้องไม่ยังลอยหน้า ”
อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของประชาชน
ประชาธิปไตย จงเจริญ