ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
เห็นนายกฯปูทำงานมาแล้วเกือบสองเดือน เธอสู้ขาดใจจริง ๆ สองเดือนมานี้แทบไม่มีวันหยุดเลย อยู่ท่ามกลางวิกฤติทั้งสิ้น ยังสามารถผลักดันนโยบายออกมาได้มากมาย ไปเยือนต่างประเทศเกือบครบอาเซียนแล้ว และช่วยเหลือน้ำท่วมบินไปบินมาจนแทบจะถึง 200,000 กม. ทัน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธแล้วกระมัง
นับว่าเป็นผู้หญิงสวยแต่เก่ง
ดูเหมือนว่า งานที่นายกฯปูบกพร่องและไม่ได้ทำมีงานเดียวคือ "เกาะโพเดียม" เปิดงาน จอเล่นโวหารคารม แจกโน้นแจกนี่ เหมือนที่อดีตนายกฯมาร์คเคยถนัด
เรียกว่าสองเดือนนี้เธอสู้ขาดใจทีเดียว ไม่ทราบว่าได้นอนวันละกี่ชั่วโมง
สำหรับ อำมาตย์ ใครจะคิดว่าผมมองโลกในแง่ดีมากเพียงใดก็ตาม หรือคิดว่าอำมาตย์เขามีใจโหดร้ายเพียงใดก็ตาม แต่ผมคิดว่าหากมองในภาพรวมทางยุทธศาสตร์แล้ว ผมคาดการณ์ว่าพลังของอำมาตย์นั้น "เดี้ยง" แล้ว
การทำรัฐประหาร หากคิดจะทำจริงๆ ก็เสี่ยงมากกว่าปี 2549 และการต่อต้านจะมาจากคนทุกกลุ่มในทันที และตอนนี้ประชาชนมีปัญญาจาก การเสนอของ นักกฎหมายคณะนิติราษฎร์ที่จะ "ล้มล้างผลพวงรัฐประหาร" ได้ มีน้ำหนักทางวิชาการ คนส่วนใหญ่ของประเทศรับรู้แล้วว่า สามารถทำได้และยังไม่มีข้อโต้แย้ง "ทางวิชาการ" ที่มีน้ำหนักเพียงพอว่า "ทำไม่ได้" ที่โต้แย้งมีเพียง "ด่า อ.วรเจตน์และคณะนิติราษฎร์" เท่านั้น แต่ไม่ได้โต้แย้งว่าทำไม่ได้อย่างไร ขัดหลักวิชาการอย่างไร เพราะมันมีตัวอย่างหลายประเทศว่าเคยทำมาแล้วในเรื่องการลบล้างผลพวงของรัฐ ประหาร และนำ "ผู้ที่ทำรัฐประหารมาลงโทษ"
แนวคิดเรื่อง "รัฐฐาธิปัตย์" ที่เคยครอบงำสังคมไทย จนไม่มีทางออก ที่ว่า "ใครทำรัฐประหาร" สำเร็จก็กลายเป็นรัฐฐาธิปัตย์ ยกเลิกความผิดของตนได้ วันนี้คณะนิติราษฎร์ได้เสนอแนวทางแล้วว่า มันสามารถลัมเลิกผลของรัฐประหาร และเอานักรัฐประหารมาลงโทษได้
เมื่ออำมาตย์มีกองทัพ แต่ไม่อาจใช้การได้อย่างเต็มที่ ก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด
กอง ทัพจะใช้การได้เต็มที่ ก็ต่อเมื่อมันเป็นการขัดแย้งของชนชั้นนำกลุ่มต่างๆ ที่แย่งอำนาจกันเท่านั้น แต่เมื่อมันกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชน ถึงรากฐาน แบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน กองทัพก็ไม่มีประโยชน์มากมายอะไรนัก เพราะต่อให้ทำรัฐประหารได้ ก็วุ่นวายควบคุมไม่ได้เหมือน 5 ปีที่่ผ่านมา ชัยชนะที่ได้ก็ชั่วคราว และถูกลบล้างโดยประชาชนเสียงส่วนใหญ่ในที่สุด
ดังนั้น ผมจึงคิดว่าอำมาตย์นั้น "เดี้ยงแล้ว" ในทางยุทธศาสตร์การเมือง
แต่ ปีนี้พวกเขาก็ยังฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้นว่าจะสามารถดึงอำนาจกลับมาได้โดยวิธีการเดิมๆ เครื่องมือเติมๆ เป็นความเพ้อฝันของพวกที่แพ้แต่ยัง "งง" ว่าตัวเองแพ้ได้อย่างไร ก็เลยพยายามเอาคืน เพราะยังทำใจไม่ได้
แต่อีกปีสองปี พวกเขาคงรู้จริงๆ แล้วว่าพวกเขานั้น "เดี้ยงหมดความหมายทางการเมืองไปแล้ว"
นายกฯปูก็แค่ "ผ่านวิกฤติการณ์น้ำท่วม" นี้ไปให้ได้เท่านั้น ความเชื่อมั่นก็จะสมบูรณ์ และรัฐบาลมีความมั่นคงขึ้นมาก
ดูจากการทำงานอย่างเป็นระบบแล้ว ผมมั่นใจเรื่องวิกฤติน้ำท่วมนี้รัฐบาลสามารถสอบผ่านไม่ยากนัก แต่ต้องทำงานอย่างหนักเท่านั้น
วันนี้ ทุกคนก็ต้องช่วยกันและยอมรับสภาพกับน้ำท่วมอยู่แล้ว ไม่มีใครนอนใจ ช่วยกันเท่านที่พลังของมนุษย์จะทำได้ รัฐบาลก็ทำงานเต็มที่เท่าที่มีพลังของมนุษย์จะทำได้แล้ว สุดท้ายภัยพิบัติคงผ่านไปในที่สุด และการเยียวยาก็คงตามมา
นายกฯปูทำงานเป็น ควบคุมงานในภาวะวิกฤติได้ ทำได้ดีเกินคาดเสียด้วย ไม่ได้ไปแจกของเหมือนไอ้มาร์คอย่างเดียวที่ทำงานเป็นระบบไม่เป็น
การระดมรัฐมนตรีจำนวนมากมาควบคุมงาน สั่งการเป็นระบบจะทำให้งานออกมาในที่สุด
นายกฯ ปูเคยคุมบริษัทใหญ่ เคยบริหารในภาวะวิกฤติตอนซูนามิ น่าจะเคยเห็นภาพการทำงานของนายกฯทักษิณ ดังนั้นผมมั่นใจว่าเธอกุมบังเหียนท่ามกลางความวุ่นวายนี้ได้
ที่ อำมาตย์คิดจะใช้วิกฤติน้ำท่วม ทำลายรัฐบาลนายกฯปู ผมเชื่อว่าจะกลายเป็นโอกาสในวิกฤติที่ทำให้นายกฯปูได้แสดงฝีมือให้คนส่วน ใหญ่ยอมรับ
สองเดือนมานี้ผมว่านายกฯปูสอบผ่านได้คะแนนเต็มสิบทีเดียว
Re:
ตอนนี้เครื่องมือเดิมๆ ของอำมาตย์มีเพียง
- การทำรัฐประหาร
- ตุลาการวิบัติ
- การใช้มวลชนจัดตั้งสร้างกระแส เช่น ม็อบหลากสีของหมอตุลย์
- การใช้สื่อกระแสหลักโหมโจมตีรัฐบาลหวังให้ประชาชาเสื่อมศรัทธา
- การให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้โวหารด่ากราด
เครื่องมือเหล่านี้ ผมไม่เห็นว่าเมื่อใช้ซ้ำแล้วมันจะยังมีประสิทธิผลเหมือนเดิมอีก
ตรงกันข้ามฝ่ายประชาชน/รัฐบาล/เสื้อแดง ก็มีเครื่องมือต่อสู้/ตอบโต้ เหมือนกันคือ
- การขยายมวลชนเสื้อแดงให้เข็มแข็ง จัดตั้งเครือข่ายและหมู่บ้านเสื้อแดง
- สื่อกระแสรอง เช่น อินเตอร์เน็ต วิทยุชุมชน โทรทัศน์ดาวเทียม ซีดี/ดีวีดี คลิป
- การใช้การเมืองระหว่างประเทศล้อมกรอบอำมาตย์
- การรุกทางวิชาการ "ของนักวิชาการ" เช่น คณะนิติราษฎร์ นักวิชการอิสระต่างๆ ที่พยายามขยายองค์ความรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย ทำให้คนตาสว่างมากขึ้น
- การทำตามนโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มที่เพื่อสร้างศรัทธา การทุ่มทำงานหนักของนายฯปู
เครื่องมือเก่าของอำมาตย์ เจอกับเครื่องมือใหม่ของฝ่ายประชาธิปไตย ผมว่าเราพอจะมองออกว่า สุดท้ายแล้วอำมาตย์คงยากที่จะเอาชนะได้